ย้ายบล็อกไปที่ bact.cc แล้วนะครับ

พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
หยุด ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ ฟรี 2GB จาก Dropbox (sync กับ Windows, Linux, Mac, iPhone, Android ฯลฯ ได้)
Showing posts with label free software movement. Show all posts
Showing posts with label free software movement. Show all posts

2009-12-03

repost: Theppitak on "Opensource Mindset"

พบสิ่งบันเทิงใจจาก Planet TLWG

พี่เทพ โพสต์เล่าเรื่องบทความ การคิดแบบโอเพนซอร์ส (Open Source Thinking) ใน วารสาร OpenSource2Day ฉบับที่ 13 และย้อนอ้างถึงโพสต์ที่พี่เทพเคยเขียนไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมโอเพ่นซอร์ส

อาจารย์ [อ.ธวัชชัย เอี่ยมไพโรจน์ แห่ง ม.บูรพา] ได้เปรียบเทียบพฤติกรรมของนิสิตนักศึกษาบางกลุ่มที่ไม่ค่อยลงแรงอะไรกับวิชาเรียน กับ mindset ของ "ผู้ที่มีความเชื่อในโอเพนซอร์ส" ว่าแตกต่างกันปานใด ซึ่งอาจารย์ได้สาธยาย mindset ดังกล่าวไว้ได้ชัดเจนครบถ้วน เลยขอยกมากล่าวถึงในที่นี้บางส่วน ตัวอย่างเช่น:

ผู้ที่มีความเชื่อในโอเพนซอร์ส จะใช้ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส แม้จะมีซอฟต์แวร์ที่ดีกว่าให้ใช้ เพราะเขาต้องการซอร์สโค้ด (อันที่จริง อาจจะพูดได้อีกอย่างว่า ต้องการเสรีภาพ สำหรับผม ผมใช้คำว่า "ใช้แล้วสบายใจ" เพราะการมีซอร์สโค้ดก็หมายความว่า ผมจะสามารถดัดแปลงซ่อมแซมอะไรเองได้ ซอฟต์แวร์เป็นของผมอย่างเต็มที่)

ผู้ที่มีความเชื่อในโอเพนซอร์ส จะมีปฏิกิริยาเชิงรุกเมื่อพบปัญหา โดยจะพยายามค้นหาวิธีแก้จากอินเทอร์เน็ต อ่านเอกสาร ทดลองทำ หรือกระทั่งนั่งดีบั๊ก แต่ก็ไม่ได้ทำอย่างนี้กับทุกเรื่อง จะทำเฉพาะในโปรแกรมที่สนใจ

คนโอเพนซอร์สจะเข้าร่วมวงสนทนา เช่น mailing list เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคนอื่น และทุ่มเทเวลาให้กับการสร้างทักษะการแก้ปัญหา

[...]

ก็พอดีกับที่ วีร์ โพสต์เรื่อง double click เพื่อเลือกคำเดียวใน Firefox หลังจากที่ไปถามไว้ในเมลกลุ่ม Thai Linux/FOSS developers

----

ผมเคยรวบรวมข้อเขียน บทความ บทแปลต่าง ๆ เกี่ยวกับชุมชนโอเพ่นซอร์สในไทย ที่หลาย ๆ คนเคยเขียนเคยพูด เอาไว้ที่ Thailand, FOSS, and Community และพี่เทพเคยสรุปประเด็นที่หลาย ๆ คนเคยมาแชร์กันไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ในงาน TLUG: TLUG Resurrection (ในลิงก์ก่อนหน้านี้ มีวีดิโอบางส่วนจากงานนี้ด้วย)

ขยับมาใกล้กว่านั้น เคยคุยกับพี่เทพและอีกหลายคนผ่านบล็อกโพสต์แบบมาเป็นชุด PostcardwareThe Condition of Free CultureFree Culture

และเร็ว ๆ นี้เอง พี่เทพได้โพสต์เรื่องกลุ่มผู้ใช้ซอฟต์แวร์สามกลุ่ม ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องโอเพ่นซอร์สด้วย พร้อมรูปประกอบ ผมว่าอธิบายภาพได้ชัดเจนดี Romance of the Three (Software) Kingdoms

... ผมคิดว่าการสื่อสารเรื่องเหล่านี้และพูดคุยลักษณะนี้นี่แหละ ที่ไม่ได้อยู่ในโครงการส่งเสริมโอเพ่นซอร์สต่าง ๆ ที่รัฐได้สนับสนุนในช่วงผ่านมา เรามีฮาร์ดแวร์แล้ว มีซอฟต์แวร์แล้ว ขาดก็แต่อะไรซักอย่างแวร์ในหัวเรานี่แหละ ...

technorati tags: , , ,

2009-10-27

[30 Oct] Richard Stallman to give a keynote at FLossEd Bangkok

ฝากบอกต่อครับ

ริชาร์ด สตอลล์แมน ผู้ริเริ่มแนวคิด copyleft และ ซอฟต์แวร์เสรี จะปาฐกถาเปิดงานซอฟต์แวร์เสรีเพื่อการศึกษา FLossEd BK ศุกร์ 30 ตุลานี้ 19:30น. ที่โรงเรียนนานาชาติ เค.ไอ.เอส. ห้วยขวาง [แผนที่]

Richard M. Stallman, of copyleft and Free Software Foundation, will give a keynote speech at FLossEd BK conference, at KIS International School, Bangkok. 19:30. Friday, October 30, 2009. [map]

http://flossedbk.flossed.org

technorati tags: , , ,

2009-04-28

The Condition of Free Culture

(เงื่อนไขสู่วัฒนธรรมเสรี)

ขอคิดต่อจากพี่เทพ

...

เป็นไปได้ว่า เหตุหนึ่งที่ free culture หรือ วัฒนธรรมเสรี นั้นยังไม่แพร่หลายหรือไปไม่ถึงไหนในบางสังคม ก็เพราะ วัฒนธรรมในสังคมนั้น ๆ ไปกันไม่ได้กับแนวคิด เสรี เป็นพื้นฐานของวัฒนธรรมเสรี

...

เสรี = ไม่ต้องขออนุญาต

คุณสมบัติหลักของ สัญญาอนุญาตแบบเปิด (open licenses) ก็คือ การผู้นำไปใช้ไม่ต้องขออนุญาตผู้ถือครองลิขสิทธิ์

เพียงผู้นำไปใช้ ตกลงยินดีที่จะทำตามเงื่อนไข ที่ทางผู้ถือครองลิขสิทธิ์ประกาศเอาไว้แล้ว-อย่างชัดแจ้ง-ต่อสาธารณะ เขาก็มีสิทธิจะใช้งานนั้นในทันที

สิ่งนี้แปลว่า ถ้าคุณทำตามกติกาเดียวกัน ข้อตกลงเดียวกัน คุณก็จะได้รับการปฏิบัติเหมือน ๆ กัน

แต่สิ่งง่าย ๆ แบบนั้น ก็อาจจะเป็นเรื่องลำบากในสังคมหลายมาตรฐาน ที่กติกาเดียวกันก็มักจะให้ผลกับคนกลุ่มต่าง ๆ ต่างกัน

...

เป็นไปได้เช่นกันว่า เหตุหนึ่งที่วัฒนธรรมเสรี นั้นถูกเข้าใจเพี้ยน ๆ ไป เช่นว่า เสรี ก็คือ ให้ใช้ฟรี แค่ขออนุญาตกันก็พอ นั้นก็เพราะ ความมี ความเป็น authority เป็นเรื่องสำคัญในสังคมนั้น หรือ สังคมนั้นโน้มเอียงไปทางสังคมอุปถัมภ์

ความจำเป็นต้องอนุญาต นั้นแปลว่า จะยังต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด มีอำนาจมากกว่าอีกฝ่ายเสมอ นอกจากนี้มันยังมีแง่มุมของการรวมศูนย์ (centralized) สู่ผู้ให้อนุญาต

ผู้ให้อนุญาตนี้เอง ที่จะเป็นผู้มีสิทธิ์ขาดตัดสินว่า อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ — ซึ่งสิ่งนี้เช่นกัน ก็ไปกันไม่ได้กับเรื่อง ถ้าทำตามกติกาเดียวกัน ก็ควรรับผลเดียวกันเสมอกัน

เพราะความมี ความเป็น authority ที่ใหญ่กว่ากติกานั้น พูดง่าย ๆ ก็คือสิ่งที่เรียกว่า ฉันคือกฎ

อยากจะอนุญาตคนนี้ แต่ไม่อนุญาตคนนั้น มีอะไรไหม ?

...

เสรี != (ไม่เท่ากับ) ไม่ต้องเสียเงิน

ดังที่ได้กล่าวไป การที่ผู้ใช้นำงานในสัญญาอนุญาตแบบเปิดไปใช้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ก็เพราะเขาได้ทำตามกติกาที่ทั้งตัวเขาเองและผู้ถือครองลิขสิทธิ์ต่างก็พอใจ

สิ่งนี้คือการแลกเปลี่ยนบนฐานของความพอใจและสมัครใจของทั้งสองฝ่าย — เราอาจเรียกสิ่งนี้ว่าความเกื้อกูลระหว่างกันได้ แต่ที่แน่นอนคือ มันไม่ใช่ความเมตตา ไม่ใช่การทำบุญ ไม่ใช่การให้ทาน และไม่ใช่เรื่องบุญคุณ

(ทัศนคติของ องค์กรที่ บริจาค โค้ดเป็นโอเพนซอร์สแก่สาธารณะและให้ชุมชนมาร่วมทำงานด้วย กับ องค์กรที่ ส่งต่อ โค้ดเป็นโอเพนซอร์สแก่สาธารณะและเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนในการทำงาน จึงเป็นสองทัศนคติที่แตกต่างกันอย่างมาก)

ความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้นำงานไปใช้และผู้ให้ใช้งาน ในวัฒนธรรมเสรี จึงเป็นไปในลักษณะเท่าเทียมเสมอกัน นั่นคือ ต่างก็เป็น peer กัน แลกเปลี่ยนกันในฐานะความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมกัน

ซึ่งความเป็น peer ที่เสมอกันนี้เอง ที่ก็ไปกันไม่ได้อีก กับเรื่อง authority หรือความสัมพันธ์แบบมีระดับ (client/server, master/slave, ...)

ความต้องการสร้างบุญคุณบารมี และ อำนาจในการอนุญาต (อย่างรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม) จึงอาจจะเป็นอีกเหตุ ที่แนวคิดเสรี ใน วัฒนธรรมเสรี อาจจะไปกันไม่ได้กับ สังคมอุปถัมภ์ และ สังคมลำดับชั้น

...

เช่นนี้แล้ว ในทางหนึ่ง ขบวนการวัฒนธรรมเสรี (free culture movement) จึงอาจจะจำเป็นอยู่เอง ที่นอกเหนือจากความพยายามในการปฏิรูประบบทรัพย์สินทางปัญญาให้มีความเป็นธรรมเสมอภาคขึ้นกว่าเดิมหรือสร้างทางเลือกใหม่ เช่น เนื้อหาแบบเปิดต่าง ๆ แล้ว ก็อาจต้องเข้าร่วมกับการปฏิรูปสังคมโดยรวม เพื่อผลักดันสภาพของสังคม ให้เอื้อกับ แนวคิด เสรี ด้วย

เพราะตัววัฒนธรรมเสรีนั้นไม่ได้อยู่อย่างลอย ๆ หากสัมพันธ์โต้ตอบต่อรองกับวัฒนธรรมอื่น ๆ ในสังคม การเกิดและดำรงอยู่ของวัฒนธรรมเสรีจึงจำเป็นต้องมีสภาพที่เอื้อให้มันทำเช่นนั้นได้

...

โลกอีกแบบนั้นเป็นไปได้ แค่เปิดฝา แล้วก็แฮ็กมัน

technorati tags: , , ,

2008-09-23

History of TLWG and LTN, by Ott

ประวัติความเป็นมาของกลุ่ม Thai Linux Working Group (TLWG) และเว็บไซต์ Linux.Thai.Net (LTN) เขียนโดยพี่อ็อท ภัทระ เกียรติเสวี (Ott) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มจัดทำเว็บไซต์ดังกล่าว พี่อ็อทมีส่วนร่วมกับการพัฒนาลีนุกซ์ในเมืองไทยตั้งแต่ช่วงแรก ๆ คือ Linux-SIS

เอกสารนี้คัดลอกมาจาก http://linux.thai.net/plone/about/history ซึ่งปัจจุบันส่วน Plone ซึ่งเป็น CMS ตัวเดิมของ Linux.Thai.Net นั้นเลิกใช้แล้ว ด้วยความกลัวว่าจะสูญหายไป จึงขออนุญาตคัดลอกมาไว้ ณ ที่นี้ครับ

ตามบันทึกเอกสารนี้ปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2548 ลิงก์ต่าง ๆ ด้านล่างนี้ เป็นไปตามเอกสารต้นฉบับ ไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ (บางลิงก์ก็ตายแล้ว เช่น http://linux.thai.net/old-proposal.html) รวมถึงตัวสะกดทุกอย่างก็คงไว้อย่างเดิมด้วย เพื่อเหตุผลในการอ้างอิง — สำหรับลิงก์ที่ผมคิดว่าน่าจะเพิ่มเติมเข้าไปเพื่อประโยชน์ในค้นคว้าเพิ่มเติม จะรวบรวมเอาไว้ด้านท้ายเอกสารทั้งหมดครับ (หลังคำว่า [จบเอกสาร])

[เริ่มเอกสาร]


History of TLWG and LTN

ความเป็นมา

การใช้ Linux ในประเทศไทยนั้นมีมานานแล้ว ในระยะแรกนั้นการใช้งานส่วนใหญ่จะมีอยู่ตาม สถาบันการศึกษาและหน่วยงานวิจัย หลังจากนั้นก็ได้แพร่หลายไปยังบริษัทเอกชน ที่ประกอบธุรกิจด้าน Internet และภาคเอกชนอื่นๆ รวมถึงภาครัฐ อย่างไรก็ดี การใช้งาน Linux ในระยะแรกยังเป็นไปอย่างไม่ง่ายดายสำหรับผู้ใช้ทั่วไปนัก เนื่องจากวิธีการใช้งานที่ค่อนข้างซับซ้อน และ เอกสารภาษาไทยยังมีไม่มาก ผลิตผลของคนไทยหรือที่เกี่ยวข้องกับภาษาไทยบน Linux มีกลุ่มที่เด่นๆ เช่น ไกวัล ลินุกซ์ เน้นทำ Distribution แบบธุรกิจ, บูรพาลินุกซ์เป็น Distribution จากมหาวิทยาลัยบูรพา และกลุ่ม ZzzThai ซึ่งเป็นกลุ่มนักเรียนไทยในมหาวิทยาลัย Electro Communications ที่โตเกียว ทำการพัฒนาด้านภาษาไทย และ Thai Extension (ชุดซอฟต์แวร์ที่ลงเพิ่มบน Linux ปกติแล้วทำให้ใช้งานภาษาไทยได้) นอกจากนี้ยังมีนักพัฒนาอิสระกระจายอยู่ทั่วไป

ในปี 2540 (1997) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) โดย ห้องปฏิบัติการเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ได้มีการนำเอาซอฟต์แวร์ Linux มาพัฒนาเป็น Internet Server สำหรับโรงเรียน เพื่อใช้เป็นเครื่องบริการในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของโรงเรียน ใน โครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย (SchoolNet) ) ภายใต้ชื่อ Linux School Internet Server (Linux SIS) โดยเน้นการพัฒนาให้ง่ายต่อการติดตั้งและการใช้งาน สำหรับครูในโรงเรียน และประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถใช้งานแทนอินเทอร์เน็ตเซิร์ฟเวอร์ราคาสูง โดย Linux-SIS 1.0 ได้ออกเผยแพร่ในเดือนเมษายนปี 2540 (1997) เวอร์ชั่น 2.0 ในเดือนมีนาคมปี 2541 (1998)

หลังจากที่ Linux-SIS 2.0 ได้ออกเผยแพร่ ทีมพัฒนา Linux-SIS ของเนคเทค ได้มีโอกาสพบปะกับกับ ผู้ใช้และนักพัฒนาจากสถาบันและหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน และมีความเห็นตรงกันที่จะรวมกลุ่มกันขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ และร่วมกันพัฒนาซอฟต์แวร์ Linux ให้เหมาะกับการใช้งานของคนไทยมากขึ้น ให้ทำงานไม่ซ้ำซ้อนกัน จึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง Thai Linux Working Group และเวบไซต์ http://linux.thai.net (LTN) ในเดือนกันยายน 2541 (1998)

เป้าหมายอันดับแรกของ TLWG และ LTN ก็คือ จัดทำบริการ mailing list ที่มีการเชื่อมต่อกับ newsgroup (โดยความสนับสนุนจากคุณวุฒิชัย ที่ประเทศญี่ปุ่น) และ wwwboard เพื่อให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ได้มาสนทนากันได้โดยสะดวก และเปิดเผย ตามวิธีที่ชอบ และมีการรวบรวมงานพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องภาษาไทย ซึ่งตอนแรกนั้นอยู่ กระจัดกระจายกันไป เข้ามาไว้ด้วยกัน และมีแผนหนึ่งปีคร่าวๆ ที่จะทำ Linux Distribution ที่เน้นการใช้งานภาษาไทยบน Desktop โครงร่างแผนการคร่าวๆ สามารถดูได้ที่ http://linux.thai.net/old-proposal.html โดยขณะนั้นยังตั้งชื่อเป้าหมายผลิตภัณฑ์เป็น Thai Linux 1.0 (ภายหลังเมื่อเสร็จแล้ว ถูกตั้งชื่อเป็น MaTEL และ Linux-TLE ตามลำดับ ดังจะกล่าวต่อไป) การทำงานของ TLWG ได้รับการสนับสนุนอย่างมากด้านทรัพยากรจาก NECTEC

งานพัฒนาของกลุ่มคน TLWG ได้เริ่มโดยการปรับปรุง Thai Extension (ซึ่งเป็นส่วนเพิ่มเติมภาษาไทย ที่จะไปลงเพิ่มเติมบนซอฟต์แวร์ Linux แล้วทำให้ใช้งานภาษาไทยได้) ต่อจากที่ตัวที่ คุณพูลลาภและคุณไพศาล (ขณะนั้นเป็นนักเรียนไทยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น, กลุ่ม ZzzThai ที่กล่าวข้างต้น) ได้พัฒนาไว้ (TE_Jan22.tar.gz ซึ่งประกอบด้วยฟอนต์ไทย, ผังแป้นพิมพ์ไทย, เทอร์มินัลภาษาไทย และอื่นๆ) ให้ใช้งานได้บน Red Hat 6.0/Mandrake 6.0 โดยคุณพูลลาภยังเป็นกำลังสำคัญในการทำงานดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากนักพัฒนาในแหล่งอื่น เช่น NECTEC โดยเฉพาะทางฝ่าย ห้องปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาภาษาและวิทยาการความรู้ (Linguistics and Knowledge Science Laboratory) หรือที่รู้จักกันในนามของ LINKS ซึ่งในขณะนั้นมีงานพัฒนาภาษาไทยใน Mule/Emacs (โดย ดร.วิรัช ศรเลิศล้ำวาณิช ร่วมกับทาง ElectroTechnical Laboratory (ETL) ประเทศญี่ปุ่น), LaTeX ภาษาไทย (โดย ดร. สุรพันธ์ เมฆนาวิน พร้อมฟอนต์จากการทำงานร่วมกันของ ดร.วิรัช และ Yannis Haralambous ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานชื่อฟอนต์จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ว่า "นรสีห์"), โปรแกรมตัดคำภาษาไทย swath (โดย คุณไพศาล เจริญพรสวัสดิ์), พจนานุกรมไทย-อังกฤษ Lexitron และ th_TH locale หรือข้อกำหนดธรรมเนียมท้องถิ่นไทย (โดยคุณเทพพิทักษ์ การุญบุญญานันท์); คุณวุฒิชัย อัมพรอร่ามเวทย์ ซึ่งพัฒนาเทอร์มินัลภาษาไทยและโปรแกรมตัดคำไทย cttex; คุณพฤษภ์ บุญมา ซึ่งพัฒนาการเรียงคำไทยใน MySQL; คุณ ]d ซึ่งพัฒนา windowmaker และโปรแกรมแสดงสถานะภาษาแป้นพิมพ์ nonlock; ไกวัลซอฟต์แวร์ซึ่งช่วยพัฒนา KDE front-end สำหรับ Lexitron และอื่นๆ อีกพอสมควร รายละเอียดสามารถดูได้ที่ ftp://linux.thai.net/pub/thailinux/software/software.old/TE/redhat-6.0-6.1 (เดิมอยู่ที่ NECTEC FTP: ftp://ftp.nectec.or.th/pub/thailinux/software/TE/redhat-6.0-6.1/)

หลังจากที่มี Thai Extension แล้ว ก็มีแนวความคิด ที่จะทำให้ใช้งาน Linux กับภาษาไทย ได้ง่ายขึ้นไปอีก โดยจัดทำเป็น Linux Distribution ที่มีการติดตั้ง Thai Extension ไว้ให้เรียบร้อยเลย ตามแผนที่วางไว้คร่าวๆ ในตอนแรก (Thai Linux 1.0) โดยมุ่งจะให้เข้าถึงผู้ใช้ทั่วไป (ต่างจาก Linux-SIS ที่มุ่งเป้าหมายไปที่ผู้ดูแลระบบ สำหรับการใช้งานด้าน Server) เน้นการใช้งานเป็นเครื่อง Desktop PC โดยรวบรวมซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับภาษาไทยต่างๆ ที่มีและพัฒนาบางส่วนที่ยังขาด

ในเดือนกรกฏาคม 2542 (1999) (ประมาณสิบเดือนหลังจากเริ่มก่อตั้ง TLWG) Linux Distribution ใหม่ ในนาม MaTEL (Mandrake and Thai Extension Linux) ก็ได้ออก เผยแพร่เวอร์ชั่น 6.0 โดย NECTEC มีการจัดงานสัมมนา Workshop on Open Source/Linux I โดยการสนับสนุนของ ETL และ CICC และ MaTEL-Linux ก็ถูกเผยแพร่ในรูป CD ในงานนั้นด้วย

หลังจากนั้น การพัฒนาได้ดำเนินต่อไป และ MaTEL ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Linux-TLE (Linux Thai Language Extension) เนื่องจากเพื่อไม่เป็นการยึดติดกับ Mandrake Linux มากเกินไป เวอร์ชั่น 6.01 และ 6.1 ได้ถูกเปิดเผยสู่สาธารณชน ต่อมาในเดือน กันยายน 2542

Linux-TLE มีให้ดาวน์โหลดฟรีจาก ftp.nectec.or.th และแจกในรูป CD ในงานสัมมนาต่างๆ เช่น Linux Demo Day (ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) หรือ ตามโอกาสที่มีผู้ให้การสนับสนุน เช่น จาก www.linuxboard.com และนิตยสาร IT Soft

การใช้งาน Linux ในกลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไป ได้เป็นไปอย่างแพร่หลายมากขึ้น Linux มีการสนับสนุนการใช้งานภาษาไทยที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม Linux ยังไม่อยู่ในจุดที่เรียกว่าสมบูรณ์แก่การใช้งาน Desktop ทั่วไป ยังต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมอีกพอสมควร งานพัฒนา จึงมีดำเนินต่อไป โดยมุ่งพัฒนาปรับปรุงให้การใช้งาน Linux ในงาน Desktop เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ ขอบเขตงานของ Linux-TLE ได้ขยายกว้างขึ้น และมีงานที่ต้องทำมากขึ้น เกินแรงที่ทางกลุ่ม TLWG ซึ่งเป็นเพียงอาสาสมัครอิสระจะนำการพัฒนา Distribution และเผยแพร่ได้ ทางเนคเทคซึ่งมีส่วนร่วมในทีมพัฒนา Linux-TLE มาตั้งแต่แรกๆ จึงได้รับช่วงต่อเป็นผู้นำการพัฒนาและเผยแพร่ Linux-TLE ในเวอร์ชั่นถัดๆ มา ตั้งแต่ต้นปี 2543 (2000)

ภายใต้การดูแลของเนคเทค Linux-TLE ได้รับการตั้งชื่อเป็นภาษาไทยว่า "ลินุกซ์ทะเล" และใช้สัญลักษณ์รูปปลาโลมาตั้งแต่เวอร์ชัน 3.0 เป็นต้นมา โดยมาจากแนวคิดของ ดร. วิรัช ศรเลิศล้ำวาณิช นอกจากนี้ ยังได้กำหนดชื่อรหัสประจำรุ่นเป็นชื่อทะเลของไทยอีกด้วย

ลินุกซ์ทะเล 3.0 ชื่อรหัส "ตะรุเตา" ออกเผยแพร่เป็นครั้งแรกในงานนิทรรศการของเนคเทค เมื่อ 14 มิถุนายน 2543 (2000) ใช้ RedHat 6.2 เป็นฐาน ซึ่งรุ่นนี้ เริ่มมีการแพตช์ไฟล์บางไฟล์ของ XFree86 แต่ก็โดยอาศัย RPM script ในแพกเกจพิเศษ ยังไม่มีการ patch upstream source โดยตรง

ในระหว่างนี้ ในหมู่ TLWG ได้มีการพบโค้ด XIM (ระบบการป้อนอักขระ) ภาษาไทยในซอร์สของ XFree86 (พบโดย คุณพฤษภ์ บุญมา) ซึ่งยังทำงานไม่สมบูรณ์ ซึ่งทำให้เริ่มเห็นปัญหาที่ต้องแก้ไขเพิ่มใน XFree86 แต่ใน Linux-TLE 3.0 ได้ใช้วิธีขัดตาทัพ เลี่ยงปัญหาไปก่อน

ลินุกซ์ทะเล 4.0 ชื่อรหัส "สิมิลัน" เปิดตัวเมื่อ 13 ตุลาคม 2544 (2001) ดูแลโดยทีมงานของคุณโดม เจริญยศ ตามที่เนคเทคว่าจ้าง โดยคุณโดมได้เปลี่ยนไปใช้ Redmond Linux (ปัจจุบันคือ Lycoris) รุ่น beta เป็นฐาน และได้เผยแพร่ไปกับหนังสือ "ลินุกซ์ทะเล" ซึ่งเขียนโดยคุณกริช นาสิงห์ขันธุ์ จัดพิมพ์โดยบริษัท ซีเอ็ดยูเคชัน จำกัด นับเป็นลินุกซ์ทะเลรุ่นแรก ที่แพร่กระจายไปสู่ผู้ใช้ทั่วประเทศอย่างทั่วถึง และในรุ่นนี้ ได้รวบรวมงานที่นักพัฒนาใน TLWG ได้ทำงานร่วมกับโครงการต้นน้ำอย่าง XFree86 ไว้ด้วย คือการแก้ไขปัญหาการป้อนอักขระภาษาไทยด้วย XIM โดยใช้ key symbol ของไทยแท้ๆ จากเดิมที่ใช้การ hack ผ่าน symbol ของภาษาละติน รวมทั้งการแก้ไขชื่อรหัสภาษาไทยใน X จาก TACTIS เป็น TIS-620 ด้วย

สำหรับการแก้ไข XIM นี้ ความจริงมองเห็นกันมานานแล้ว แต่ถูกเร่งโดยปัญหาที่เกิดจากการแก้ผังแป้นพิมพ์ไทยของนักพัฒนา Mandrake ทำให้เราใช้ Latin hack ต่อไปไม่ได้ แต่ผลดีที่ได้ ก็คือการป้อนข้อมูลภาษาไทยที่มีการตรวจลำดับตามข้อกำหนด วทท (รายละเอียดทางเทคนิคเพิ่มเติม) นับเป็นจุดเริ่มต้นอีกจุดของการทำงานเรื่องภาษาไทยบนระบบเดสก์ทอปขนานใหญ่ในเวลาต่อมา

ลินุกซ์ทะเล 4.1 ชื่อรหัส "พีพี" เปิดตัวเมื่อ 14 มีนาคม 2545 (2002) ในงานประชุม TLUG ที่ Software Park ลินุกซ์ทะเล 4.1 ออกตามรุ่น 4.0 มาติดๆ ด้วยปัญหาเรื่องการตอบคำถามผู้ใช้ เนื่องจากทีมงานไม่คุ้นเคยกับ Redmond Linux และการทำลินุกซ์แผ่นเดียวทำให้ขาดแคลนเครื่องมือหลายอย่าง ลินุกซ์ทะเล 4.1 ได้ย้อนกลับมาใช้ RedHat เป็นฐานอีกครั้ง โดยทำเพิ่มจาก RedHat 7.2 ในรุ่นนี้ เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลือมากมายจากบุคคลในชุมชน TLWG ทั้งผ่านเมลส่วนบุคคล และผ่าน mailing list เช่น การแก้ gswitchit applet เพื่อแสดงภาษาไทย (คุณพฤษภ์ บุญมา), การปรับปรุง ThaiLaTeX (คุณชนพ ศิลปอนันต์) ฯลฯ ดังรายนามที่ปรากฏในปกซีดี ทำให้ระบบภาษาไทยสมบูรณ์ขึ้นมาก และการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกอย่าง คือการใช้ระบบ apt เป็นครั้งแรก

ลินุกซ์ทะเล 4.1 เป็นรุ่นแรกที่มีกระแสตอบรับผ่านสื่อต่างๆ มากมาย เพราะเป็นช่วงที่มีการตื่นตัวเรื่องลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในประเทศ อันเนื่องมาจากการตรวจจับของ BSA ซึ่งเสียงตอบรับก็มีทั้งด้านบวกและด้านลบ เพราะความไม่คุ้นเคยของผู้ใช้ และความไม่พร้อมต่อความคาดหวังของมหาชนในการใช้งานเดสก์ทอปของลินุกซ์นั่นเอง

ท่ามกลางกระแสลินุกซ์และโอเพนซอร์สในประเทศที่ทะลักเข้ามา ชุมชน TLWG ไม่สามารถรองรับผู้ใช้ลินุกซ์ทะเลได้เพียงพอ จึงได้เกิดเว็บ OpenTLE ขึ้นมารองรับโครงการโอเพนซอร์สของเนคเทคโดยเฉพาะ โดยเริ่มเปิดใช้ตั้งแต่ลินุกซ์ทะเล 5.0 เป็นต้นมา

Linux-TLE เวอร์ชั่นถัดๆ มามีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างมาก รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Linux-TLE ในปัจจุบันสามารถดูได้ที่ OpenTLE

LTN และ TLWG ยังคงบทบาทที่จะเป็นแหล่งพบปะของนักพัฒนา และสนับสนุนการพัฒนาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และ เปิดเผยต่อไป โดยเน้นการพัฒนาแบบแก้ไข, ปรึกษาสาธารณชน(ในกรณีที่การพัฒนาของท่านมีผลกับคนไทยโดยรวม) และส่งกลับไปยังต้นน้ำ เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผลโดยอัตโนมัติในเวอร์ชั่นถัดๆ ไป โดยสนับสนุนการใช้งานในทุกๆ Distribution

ในเดือนสิงหาคมปี 2001 นักพัฒนานำโดยคุณเทพพิทักษ์ การุญบุญญานันท์ ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ LibThai 0.1.0 เป็นคลังรวมโปรแกรม, ฟังก์ชั่นต่าง (ในรูปที่เรียกว่า Library) ที่เกี่ยวข้องกับการใช้และสนับสนุนภาษาไทย ในแต่ละ applications เช่น การตัดคำ, การจัดการเกี่ยวกับ character และ string สำหรับภาษาไทย, input และ output method เพื่อให้นักพัฒนาท่านอื่นๆ สามารถนำไปใช้และอ้างอิงได้

TLWG ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจาก ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (เนคเทค) ตั้งแต่ก่อตั้ง ในด้านทรัพยากรต่างๆ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ อย่างไรก็ตาม TLWG เป็นกลุ่มงานอิสระ ที่ประกอบด้วยนักพัฒนาอิสระจากทั่วทุกมุมโลก ไม่เฉพาะจากองค์กรหนึ่งองค์กรใด และ ดำเนินงานโดยอิสระ ไม่ขึ้นต่อหน่วยงานใดๆ

Created by ott
Last modified 2005-02-21 03:21 PM


[จบเอกสาร]

ลิงก์/บันทึก

  • ott – ผู้เขียน ภัทระ เกียรติเสวี (Ott) หนึ่งในผู้ริเริ่มจัดทำเว็บไซต์ LTN ภัทระมีส่วนร่วมพัฒนาลีนุกซ์ในเมืองไทยตั้งแต่ช่วงแรก ๆ คือ Linux-SIS ปัจจุบันอยู่บริษัทเมตามีเดียเทคโนโลยี ผู้พัฒนาพจนานุกรม Longdo และแผนที่ Longdo
  • Kaiwal Linux โดยบริษัท ไกวัล ซอฟต์แวร์ (เชน) จำกัด (kaiwalsoftware.com - ลิงก์ตาย) ไกวัลเป็นลีนุกซ์ดิสทริบิวชันเชิงพาณิชย์ตัวแรกของไทย ก่อตั้งโดย กานต์ ยืนยง ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น GrandLinux เมื่อปี พ.ศ. 2545; ปัจจุบันกานต์เป็นผู้จัดการธุรกิจ แผนกพัฒนาธุรกิจ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
  • Burapha Linux โครงการบูรพาลีนุกซ์ ลีนุกซ์ดิสทริบิวชันโดยมหาวิทยาลัยบูรพา
  • ZzzThai โครงการสื่อไทย
  • University of Electro-Communications โตเกียว ญี่ปุ่น
  • Thai Extension ส่วนขยายสำหรับลีนุกซ์ เพื่อให้ใช้ภาษาไทยได้
  • SchoolNet โครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย
  • Linux SIS เดิมชื่อ Linux School Internet Server เป็นลีนุกซ์ดิสทริบิวชันสำหรับโรงเรียน ต่อมาขยายเป็น Linux School or Small Office Internet Server รองรับการใช้งานของสำนักงานขนาดเล็กด้วย
  • “คุณพูลลาภ” ZzzThai (บล็อกเก่า, บล็อกที่ MM) พูลลาภ วีระธนาบุตร ขณะนั้นเป็นนักเรียนไทยที่ญี่ปุ่น ปัจจุบันอยู่บริษัทเมตามีเดียเทคโนโลยี เช่นเดียวกับภัทระ ปัจจุบันทำงานที่ Tanabutr Photobook
  • “คุณไพศาล” swath ไพศาล เจริญพรสวัสดิ์ ปัจจุบันศึกษาต่อปริญญาเอกด้านแปลเสียงพูดอัตโนมัติ ที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน; swath เป็นโปรแกรมตัดคำภาษาไทย
  • “ดร.วิรัช” เนคเทค Mule/Emacs วิรัช ศรเลิศล้ำวาณิช นักวิจัยด้านเทคโนโลยีภาษาและความรู้ที่เนคเทค; Emacs เป็นโปรแกรมแก้ไขข้อความตัวหนึ่งที่นิยมมากบนยูนิกซ์/ลีนุกซ์ สามารถเพิ่มความสามารถต่าง ๆ ได้สะดวก; Mule (Multilingual Environment) เป็นส่วนขยายให้ Emacs รองรับการใช้งานหลายภาษา
  • “คุณวุฒิชัย ที่ประเทศญี่ปุ่น” วุฒิชัย อัมพรอร่ามเวทย์ ปัจจุบันอยู่บริษัทเมตามีเดียเทคโนโลยี เช่นเดียวกับภัทระ

ตัวผมตอนนี้กำลังทำการบ้านเรื่องชุมชนซอฟต์แวร์เสรี วัฒนธรรมแฮกเกอร์ อะไรทำนองนี้ในเมืองไทยอยู่ครับ ใครมีข้อมูล มีเรื่องเล่า หรือพบเจออะไรน่าสนใจ ก็บอกกันได้นะครับ ขอบคุณมากครับ :)

2008.10.01 - ปรับปรุงข้อมูลคุณพูลลาภ จากคุณพูลลาภ

technorati tags: , ,

2008-09-21

bbs, modem people, hackerdom in Thailand, call for history...

If you have any info/pointer you think it may (or may not) related, please do send them to me at arthit # gmail,com or just leave a comment below. Thank you.
The finished work will be published online under Creative Commons License, for the benefits of everyone.

ผมกำลังทำการบ้านอยู่ครับ จะทำเรื่องวัฒนธรรมแฮกเกอร์ในเมืองไทย ใครมีข้อมูลบอกมาเลยนะครับ ผมอาจจะขอสัมภาษณ์ด้วยใครอยู่ในยุคบีบีเอส ยุค ZzzThai, LTN, TLWG พวกนี้ เรื่อยมาจน LinuxTLE, ปลาดาวออฟฟิศ, OfficeTLE, มาถึง Blognone และ *Camp ต่าง ๆ ใครเคยเห็นงานทำนองนี้หรือที่เกี่ยวข้องที่ไหนก็แจ้งมาได้เลยครับ — และแน่นอนว่าถ้าเห็นว่ามีอะไรผิดหรือไม่น่าจะใช่ ก็ท้วงได้เลยนะครับ — ขอบคุณมาก ๆ (ส่งต้น ๆ เดือนตุลา)

Good news guys, I decided to do my term project on ‘hackerdom’ and hacker subculture in Thailand :)

So to speak, the definition of ‘hacker’ in this project goes wider, it could be a coder, a radiofreak or a hobbyist/professional playing on electronic sound toy ... if one hacks a thing for fun, she's a hacker.

At the first place, I dated back Thailand's hackerdom to around mid-1990s, where a group of Thai students/professionals in Japan started a ZzzThai (สื่อไทย) project to develop/fix Thai features in free softwares. Also a number of then NECTEC-employed (like P'Samphan and @theppitak) that actively contribute codes on Thai language processing — together with other hackers. As my current understanding, these activities later resolved into Thai Linux Working Group, in which still more or less active til today.

Anyway, eventually, @sikkha reminds me that things actually started, before the Internet time, since the BBS era. @kijjaz also agree on this, and make me realized that it's not just only programmers who were active in that old days, but also experimental-hobbyist musicians who play around midi/mod trackers (@kijjaz used to run music-computing-packed Wildanty BBS, while I used to run a short-live SmileSite, around 1994-1995, but the Thai BBS scene dates back further at least two years — no solid data at this point, yet .. used to blog a bit about this four years ago). On the coding sides, in this BBS glory days, I still remember how people exchange their Turbo Pascal codes with others. Codes from Microcomputer magazine's SoftMail also available for download in many sites (yes, via that Z-modem protocol, a lot faster than Green Bangkok WiFi today! :p).

So, if you know anything about Falcon, ManNET, Close Loop, @rma (of AR group), or any BBS. Or things about ZzzThai, Linux.Thai.Net, Thai Linux Working Group, or any circles you think it may related. Please contact me na krub :)

A reason that I write this in English is because I realized that hackerdom in Thailand does not solely consists of Thais, no doubt there should be foreigners participated. At least in this era of BarCamp, @luke_bkk and many others show the examples.

Hmm... will update more in progress na, cheers :)

technorati tags: ,

2008-02-22

Let's close it

Let's close Firefox Thai bug reports

บรรยากาศ ปิดงานบั๊กภาษาไทยในไฟร์ฟอกซ์ ตอนนี้คึกคัก (เช่นคุณ kengggg ที่วันนี้กระหน่ำ add cc บั๊กต่าง ๆ :P)

ซึ่งหลาย ๆ คนก็ได้พยายามประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ ให้มาช่วยทดสอบกันหน่อย เพราะที่ผ่านมา มีการแก้ไขไปแล้วหลายส่วน แต่ยังไม่มีการทดสอบกันเท่าไหร่นัก ทำให้บางบั๊กยังปิดไม่ได้ (เพราะไม่แน่ใจว่าแก้ได้จริงรึยัง หรือแก้อันนี้แล้วไปทำให้เกิดบั๊กที่อื่นรึเปล่า ฯลฯ) ซึ่งก็มีทั้งการส่งเมลหากัน หรือบอกกล่าวกันในบล็อก เช่นทีมาร์คโพสต์ไป 3 ที่ (ความเห็นของมาร์คและหลาย ๆ คนในโพสต์นั้น น่าสนใจ ลองไปอ่านกันดู จะเห็นทัศนคติที่หลากหลาย)

ข้อสังเกตหนึ่งที่ผมเห็น จากการติดตามดูความเคลื่อนไหวใน bugzilla ก็คืองาน contribution จากผู้ใช้ ลีนุกซ์ กับ แมคโอเอส มีมากกว่าจาก วินโดวส์ ?? ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า นี่ไม่พูดถึงเรื่องโค้ดนะครับ (ซึ่งหลัก ๆ จริง ๆ เนี่ย ถ้าไม่นับที่ทีมซันเคยทำไว้เมื่อ 2002 กับที่พี่สัมพันธ์เคยทำไว้เมื่อก่อน ตอนนี้หลัก ๆ เป็นพี่เทพล้วน ๆ เลย) นับแค่เรื่องทดสอบว่า ตกลงมันใช้ได้รึยัง หรือจับภาพหน้าจอ screenshot มาแปะให้ดูกัน ดูทางวินโดวส์จะมีน้อยกว่า (ทั้ง ๆ ที่ผู้ใช้วินโดวส์น่าจะมีเยอะกว่าระบบปฏิบัติการอื่น) — แต่ก็อาจจะเป็นเพราะ คนใช้วินโดวส์ส่วนใหญ่ก็ใช้ไออี และถึงแม้จะใช้ไฟร์ฟอกซ์ ไฟร์ฟอกซ์บนวินโดวส์มันก็มีปัญหาน้อยกว่าด้วยแหละ เป็นไปได้

ตอนนี้มีหลายบั๊ก/การแก้ไข ที่รอการยืนยันจากผู้ใช้ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ยังไงถ้ามีเวลา ก็ไปช่วยดู ๆ กันนะครับ ที่:

[Bug 65896] Thai support -- tracker bug

กดไล่ไปดูทีละอันเลยครับ (จะมีรายการลิงก์) อันไหนที่ถูกขีดฆ่า แปลว่าบั๊กนั้นปิดไปแล้ว (ถูกแก้ไขแล้ว รายงานผิดพลาด ซ้ำ ฯลฯ) ก็ข้ามไปเลย
บางบั๊กก็จะเป็นกับทุกระบบปฏิบัติการ บางอันก็จะเป็นเฉพาะกับวินโดวส์ กับแมคโอเอส อะไรแบบนี้ ก็เลือกทดสอบกันครับ

หลายอันเป็นเรื่องง่ายมาก ๆ เช่นให้ลองดูว่า ข้อความนี้บนหน้าจอไฟร์ฟอกซ์ของคุณ แสดงผลถูกต้องไหม
หรือ ถ้าคุณลองกดปุ่ม delete ข้อความที่กำหนด แล้วผลลัพธ์เป็นยังไง
ใครใช้เว็บเบราเซอร์เป็น ก็ช่วยทดสอบได้ทุกคนครับ ไม่มีอะไรยากเลย

หลังจากทดสอบแล้ว จะออกความเห็น หรือส่งรูปจับภาพหน้าจอ* ก็สามารถทำได้สะดวก เพียงสมัครสมาชิกกับ Bugzilla ก่อน (แป๊ปเดียว) แล้วก็โพสต์ได้เหมือนกับเว็บบอร์ดเลย

* บนวินโดวส์/ลีนุกซ์ การจับภาพหน้าจอ ทำได้ง่าย ๆ แค่กดปุ่ม Print Screen / PrtSc บนคีย์บอร์ด รูปหน้าจอของเราก็จะไปอยู่ในคลิปบอร์ด แล้วเราก็เปิดโปรแกรมวาดรูปดูรูปอะไรก็ได้ แล้ว paste มันลงไปเป็นไฟล์ใหม่ แค่นี้ก็จะได้ภาพหน้าจอแล้ว

และบางครั้ง เราก็จะพบว่า การช่วยกันทดสอบซอฟต์แวร์ตัวหนึ่ง อาจนำไปสู่การพบบั๊กหรือการเปลี่ยนแปลงในซอฟต์แวร์ตัวอื่นด้วยก็เป็นได้ เช่นในกรณีบั๊ก การลบตัวอักษร พินทุ ใน GNOME ที่พบระหว่างการทดสอบบั๊ก ปุ่ม <delete> ใน Firefox หรือคำถามถึงฟอนต์ Thonburi ในแมคโอเอส ที่ถูกถามอีกครั้งในบั๊ก ฟอนต์ตั้งต้นในแต่ละแพลตฟอร์ม

ทุกสิ่งล้วนเกี่ยวข้อง ผลักอันนี้ อันอื่นก็เขยื้อนด้วย

ช่วย ๆ กัน ;)

สุดท้ายขอยกคำพูดพี่เทพมาหน่อย (แก้คำว่า “ลีนุกซ์” เป็น “ซอฟต์แวร์เสรี” ก็ใช้ได้เช่นกัน):

“ ตรงนี้ก็เลยรวมไปถึงประเด็นเรื่องการเรียนรู้ หรือความบกพร่องในบางเรื่องของลินุกซ์ แน่นอนว่าถ้าคุณตกลงปลงใจที่จะอยู่กับมันแล้ว คุณย่อมพร้อมจะเรียนรู้แง่มุมต่าง ๆ เรียนรู้ปรัชญา รวมทั้งแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่คุณพบ ในเมื่อคุณได้รับเสรีภาพอย่างเต็มที่แล้วในโลกใบนี้ และคุณก็ไม่ได้ทำอย่างโดดเดี่ยวด้วย แรงงานที่คุณใส่เข้าไป เป็นเพียงหนึ่งในกองทัพมดที่กระจายอยู่ทั่วโลก ทุกคนล้วนแต่รับมากกว่าให้ทั้งนั้น

แถม: duocore ตอนที่ 64 มีพูดถึงเรื่องที่โยงเข้าประเด็นข้างบน (เริ่มจากเรื่องที่ลีนุสบอกว่า “better is worse”):

technorati tags: , , , ,

2007-02-06

Where all the Codes come from ?

ไปดูการศึกษาว่าโค้ดต่าง ๆ ใน FLOSS (ซอฟต์แวร์เสรี/ซอฟต์แวร์ต้นรหัสเปิด) มีที่มาจากไหนกันครับ การศึกษานี้เป็นส่วนหนึ่งของรายงานที่จัดทำโดยสหภาพยุโรป

Rishab Aiyer Ghosh (November 20, 2006).
Study on the: Economic impact of open source software on innovation and the competitiveness of the Information and Communication Technologies (ICT) sector in the EU [PDF]
the European Communities.

การศึกษานี้ ใช้ Debian 3.1 (รุ่นปี ค.ศ. 2005) ซึ่งเป็นชุดลีนุกซ์ยี่ห้อหนึ่ง เป็นกรณีศึกษา

ตารางแรก ดูว่ามหาวิทยาลัย/ศูนย์วิจัยที่ไหน ที่มอบโค้ดให้กับ FLOSS (Debian) เยอะที่สุด
(ผมคงเลขตารางไว้เหมือนกับต้นฉบับ เพื่อให้ง่ายต่อการอ้างอิง)
คำว่า “Regents Of The University of California” ในตาราง คือองค์กรที่ดูแลมหาวิทยาลัยในระบบ University of California ทุก ๆ มหาวิทยาลัย (Berkeley, San Diego, ...) ในตารางนี้จะนับทั้งหมดรวมกัน

Table 4: Contribution of FLOSS code by selected universities

Rank  Person-months  University / research institution

   1           4955  Regents Of The University Of California
   2           4774  Massachusetts Institute Of Technology
   3           1687  Carnegie Mellon University
   4           1340  University Of Chicago
   5           1009  INRIA (France)
   6            982  University Of Amsterdam (the Netherlands)
   7            870  Stichting Mathematisch Centrum Amsterdam (the Netherlands)
   8            551  Ohio State University
   9            518  University Of Utah
  10            505  University Of Notre Dame

จากตารางจะเห็นว่า อันดับ 1 และ 2 คือ UC กับ MIT นั้นใกล้เคียงกัน (ถ้าดูตามประวัติของ UNIX-based OS และ GNU แล้ว ก็คงไม่แปลก) และทิ้งอันดับถัดมาไปไกลทีเดียว
จาก 10 มหาวิทยาลัยแรก มีที่ไม่ใช่้มหาวิทยาลัยในสหรัฐอยู่ 3 แห่ง คือจากฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ (อันดับ 5, 6, 7)

ตารางต่อมา ดูว่าบริษัทไหน ที่มอบโค้ดให้กับ FLOSS (Debian) เยอะที่สุด

Table 5: Cost estimate for FLOSS code contributed by firms

Total contribution from firms
Number of firms       986
Source lines of code  31.2 million
Estimated effort      16444 person-years
Estimated cost        1.2 billion Euro

Top contributors
Rank  Name                  Person-months  Cost (mil euro)

   1  Sun Microsystems Inc.         51372   312
   2  IBM Corp.                     14865    90
   3  Red Hat Corp.                  9748    59
   4  Silicon Graphics Corp.         7736    47
   5  SAP AG                         7493    46
   6  MySQL AB                       5747    35
   7  Netscape Communications Corp.  5249    32
   8  Ximian Inc.                    4985    30
   9  RealNetworks Inc.              4412    27
  10  AT&T                           4286    26

ตารางนี้อันดับ 1 (Sun) กับ 2 (IBM) ห่างกันมาก ชนิดที่ว่า เอาอันดับ 2-7 มารวมกัน ถึงจะได้เกือบ ๆ เท่าอันดับ 1
หลัก ๆ ที่ Sun อยู่ตรงนี้ คงเป็นเพราะตัว OpenOffice.org (เต็ม ๆ) และ Mozilla กับ XFree86 (เข้าไปช่วยอยู่หลายส่วน)
ส่วน IBM ตัวหลักเลยน่าจะเป็น Linux kernel
ดูตารางข้างล่างประกอบ

Table 3: Production cost estimate for 5 largest FLOSS software products

Software package  Lines of code  Months  Person-months  Cost (million Euro)

openoffice.org          5181285     130          79237   482
kernel-source-2.6.8     4033843     160         145036   882
mozilla (firefox)       2437724      87          25339   154
gcc-3.4                 2422056     113          54048   329
xfree86                 2316842      90          27860   169

แล้วโค้ดมาจากส่วนไหนบ้างของโลก ?
ตารางข้างล่างนี่ บอกว่าภูมิภาคไหนมอบโค้ดมาเป็นสัดส่วนเท่าไหร่

Figure 29: Share of code contribution by region (number of commits)

EU25                     45%
US Canada                41%
China India Korea Japan   2%
Others                   12%

ถ้าคิดขนาดของภูมิภาคเข้าไปด้วย อียูนี่คงพุ่งปรี๊ดขึ้นไปอีก
ไม่น่าแปลกใจ ที่ภูมิภาคนี้จะเป็นผู้ริเริ่มหลายสิ่งหลายอย่างใน FLOSS โดยเฉพาะเรื่องของการเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง

เห็นตัวเลขต่าง ๆ ข้างบนแล้ว ก็เยอะดีนะครับ ทั้งแรงงานและทรัพยากรต่าง ๆ ที่ใส่ลงไปใน FLOSS จากทั้งมหาวิทยาลัยและบริษัท ตีออกมาเป็นตัวเงินได้เป็นระดับพันล้านยูโรเลยทีเดียว

แต่ดูนี่ก่อนครับ

Figure 28: Distribution of code output by individuals, firms, universities

Individual Author  61.98%
Company            19.22%
Foundation          7.89%
University          5.62%

สุดท้ายแล้ว แม้ว่าองค์กรต่าง ๆ ไม่้ว่าจะเป็น บริษัท มหาลัย มูลนิธิ ฯลฯ จะสนับสนุน FLOSS เป็นจำนวนมหาศาล แต่ท้ายที่สุดแล้ว มากกว่าครึ่ง 60% ของโค้ด ก็ยังมาจาก “บุคคลทั่วไป” (เช่น คุณ) อยู่ดี

“เรา” มีพลังถึงขนาดนี้

technorati tags: , ,

2007-01-11

Stallman lecture @ Zagreb 2006

บันทึกการบรรยาย โดย ริชาร์ด สตอลแมน ที่ ซาเกร็บ โครเอเชีย เมื่อ 6 มี.ค. 2549

พูดถึงเรื่อง GNU, FSF, เสรีภาพ, ซอฟต์แวร์เสรี, Unix, Linux, “Treacherous Computing” (คอมพิวเตอร์ที่ทรยศ), กฎหมาย DMCA และ EUCD, สิทธิบัตรซอฟต์แวร์, ซอฟต์แวร์เสรีกับโรงเรียน, และความเห็นต่อ Mono, BSD, Creative Commons ฯลฯ

[ลิงก์ FSF Europe | ผ่าน OSNews]

technorati tags: , , , ,

2006-12-05

Free Software Culture

รวมบทความเกี่ยวกับ วัฒนธรรมแฮ็กเกอร์ ซอฟต์แวร์เสรี และโอเพนซอร์ส
สำรวจ วัฒนธรรมแฮกเกอร์ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของวัฒนธรรมซอฟต์แวร์เสรี และกระบวนโอเพนซอร์ส
เพื่อทำความเข้าใจด้านที่นอกเหนือไปจากเรื่องเทคโนโลยี ของ การเคลื่อนไหวซอฟต์แวร์เสรี
บทความทั้งหมดนี้ เขียน/แปลโดยอาสาสมัครจาก (หรือมีความเกี่ยวข้องกับ) linux.thai.net ชุมชนซอฟต์แวร์เสรีรุ่นบุกเบิกชุนชนหนึ่งของไทย



มาเป็นแฮ็กเกอร์กันเถอะ!
เนื้อหาบางส่วนอ้างอิงจาก How to become a Hacker ของ Eric Steven Raymond (ESR)
บทความสั้น วัฒนธรรมแฮ็กเกอร์ ใครคือแฮ็กเกอร์ พวกเขาทำอะไร และจะเป็นได้อย่างไร

มหาวิหารกับตลาดสด
แปลจาก The Cathedral and the Bazaar ของ ESR
บทความชุด สำรวจวัฒนธรรมโอเพนซอร์ส ทำไมโครงการซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่ประสบความสำเร็จ จึงประสบความสำเร็จเช่นนั้น

วิธีทำงานกับซอฟต์แวร์เสรี
แปลจาก Working on Free Software ของ Havoc Pennington
กฎและความเข้าใจที่ไม่มีการบัญญัติ สำหรับอาสาสมัครซอฟต์แวร์เสรีเลือดใหม่

ลงหลักปัญญาภูมิ
แปลจาก Homesteading the Noosphere ของ ESR
บทความชุด สำรวจจารีตปฏิบัติของแฮ็กเกอร์ ในเรื่องกรรมสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา วิเคราะห์วัฒนธรรมแฮ็กเกอร์ ซึ่งเป็น "วัฒนธรรมแห่งการให้" และตรวจสอบผลพวงของการวิเคราะห์นี้
(พี่เทพ ผู้แปล ไม่ได้แปลชื่อบทความไว้ ผมขอถือโอกาส โดยล้อคำว่า biosphere ที่มีผู้แปลไว้ว่า ชีวภูมิ)

ทบทวนซอฟต์แวร์เสรีเมืองไทย
บทความสั้น(ไม่มาก) ทบทวนและพิเคราะห์วงการซอฟต์แวร์เสรีในประเทศไทย ตั้งข้อสังเกต เงื่อนไขและอุปสรรค โดย เทพพิทักษ์ การุญบุญญานันท์



เกี่ยวเนื่อง: สัมมนาและเสวนา ชุมชนซอฟต์แวร์เสรีไทย (พร้อมวีดิโอและสไลด์) จากงาน TLUG “อนาคตโอเพนซอร์สไทย”

tags: | | | | |

2006-12-03

Thailand, FOSS, and Community

(ขอรวมมันที่เดียวเลยละกัน ไปตามแก้โพสต์ก่อน ๆ แล้วงง - -")

รายงาน TLUG
รายงาน มัลติมีเดีย และรวมลิงก์ที่เกี่ยวข้อง ที่เว็บ Blognone

TLUG Resurrection
รายงานประเด็นต่าง ๆ ในงานเสวนา โดย เทพพิทักษ์ การุญบุญญานันท์

รายงาน : เสวนาโอเพนซอร์ส "อนาคตโอเพนซอร์สไทย"
รายงาน และสัมภาษณ์พิเศษคุณเทพพิทักษ์ พร้อมมัลติมีเดีย และลิงก์ที่เกี่ยวข้อง ที่เว็บ พลวัต

Thailand FOSS Retrospects
ย้อนมองวงการซอฟต์แวร์เสรีเมืองไทย บทความวิเคราะห์ โดย เทพพิทักษ์ การุญบุญญานันท์

รวมบทความ วัฒนธรรมแฮ็กเกอร์ ซอฟต์แวร์เสรี และโอเพนซอร์ส
สำรวจและทำความเข้าใจกับ วัฒนธรรมแฮ็กเกอร์ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของวัฒนธรรมซอฟต์แวร์เสรี และกระบวนโอเพนซอร์ส มีบทความเด่น เช่น มหาวิหารกับตลาดสด



วีดิโอของงาน TLUG อนาคตโอเพนซอร์สไทย ตัดมาเฉพาะตอนที่เกี่ยวกับชุมชน
ดูวีดิโอทั้งหมดได้ที่ howforge

อนาคต+โอเพนซอร์ส+ไทย 20 อย่างที่พอนึกออก
แนวคิด/ประสบการณ์ เกี่ยวกับ ชุมชน การผลิต โอเพนซอร์ส และประเทศไทย การนำเสนอ โดย อาทิตย์ สุริยะวงศ์กุล / พูดคุยแลกเปลี่ยน กับ คุณวิษณุ เอื้อชูเกียรติ และ อ.สุพัตร์ ฟ้ารุ่งสาง
ดาวน์โหลดสไลด์: PDF | OpenDocument




ชุมชนนักพัฒนาโอเพนซอร์สในประเทศไทย
ประสบการณ์ของนักพัฒนาโอเพนซอร์สรุ่นแรกในไทย การสร้างชุมชนนักพัฒนา การสนทนา โดย โดม เจริญยศ




Economics of Free and Open Source in Thailand
เศรษฐกิจของซอฟต์แวร์เสรีและโอเพนซอร์สในประเทศไทย แรงจูงใจของผู้ผลิต มวลวิกฤตของชุมชน คุณค่าของเครือข่าย การนำเสนอ โดย กานต์ ยืนยง
ดาวน์โหลดสไลด์: PowerPoint




ประสบการณ์ของผู้ใช้กับชุมชนโอเพนซอร์ส
ประสบการณ์ในมุมมองผู้ใช้ ที่เข้าร่วมชุมชนพัฒนา และอนาคตโอเพนซอร์สไทย การสนทนา โดย วิษณุ เอื้อชูเกียรติ




ปรัชญาซอฟต์แวร์เสรีกับการสร้างชุมชน
ปรัชญาซอฟต์แวร์เสรี ชุมชนผู้พัฒนา ชุมชนผู้ใช้ ทำไมในประเทศไทยถึงยังไม่เกิดเงื่อนไขให้เกิดโอเพนซอร์ส การสนทนา นำโดย เทพพิทักษ์ การุญบุญญานันท์




วงเสวนาเปิด
หัวข้อต่าง ๆ ข้อเสนอแนะ ประสบการณ์ วงเสวนาเปิด โดยผู้ร่วมงาน TLUG




ลิงก์บางส่วน เคยโพสต์ไปแล้วที่: TLUG presentation

tags: | | | | | |

2006-11-30

20 things on Future+Opensource+Thai

วีดิโอมาแล้ว กิ้ว~

อนาคต+โอเพนซอร์ส+ไทย 20 อย่างที่พอนึกออก

(ดูจบก็รู้สึกว่าตัวเองผมยาวไปแล้ว — ใครดูแล้วช่วยเข้าไป tag หน่อย อยากรู้ว่ามันจะออกมาเป็นยังไง ผมลองแท็กเล่น ๆ จนมันไม่ยอมให้ผมแท็กแล้ว :P)

ในวีดิโออาจจะอ่านสไลด์ไม่ออก เอาสไลด์ไปดูประกอบเอง :P — PDF หรือ OpenDocument

ขอบคุณ อ.สุพัตร์ ฟ้ารุ่งสาง (ผู้บันทึก) กับ คุณ sugree (คนแปลง+อัพ) ครับ

ดูวีดิโอของท่านอื่น ๆ + เสวนาตอนท้าย ได้ที่ รายงาน TLUG ที่ Blognone

update: 2006.12.03
อ่าน Thailand FOSS Retrospects โดย พี่เทพ ด้วย เพื่อภาพที่ครบถ้วนขึ้น
ในนั้นพูดถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรม ที่อาจจะไม่เอื้อต่อโอเพนซอร์สในไทย และอุปสรรคในช่วงที่ผ่านมา

tags: | |

2006-11-26

TLUG presentation

อนาคต+โอเพนซอร์ส+ไทย — 20 อย่างที่พอนึกออก
(ดูแบบ PDF หรือ OpenDocument — ไฟล์ชนิด OpenDocument เปิดได้ด้วยโปรแกรมเช่น OpenOffice.org หรือ KOffice)
พูดในงาน TLUG 25 พ.ย. 2549 ที่เขียนถึงในโพสต์ก่อนหน้านี้
อันนี้เป็นรุ่นต้นฉบับ เหมือนที่ใช้ในงานเลย มีหมายเหตุประกอบ ("Notes") อยู่นิดหน่อย ลองเปิดดูได้ จะพยายามเพิ่มหมายเหตุประกอบเข้าไปอีก แล้วอัพขึ้นอีกทีนะครับ ตอนนี้ดูอันนี้ไปก่อน
มันไม่มีเนื้อหาอะไรมาก มีแค่คำสำคัญ จุดประสงค์หลักคือเพื่อจุดประเด็นความสนใจ หวังให้เป็นหัวข้อพูดคุยต่อไป
ถ้าใครสนใจประเด็นไหนเป็นพิเศษบอกได้ ผมก็อยากศึกษาแล้วมีคนคุยด้วยน่ะ :P

การนำเสนอ/หัวข้ออื่น ๆ

tags: | |

2006-04-28

Alternative Freedom

วัฒนธรรมเสรี สิทธิ์ดิจิทัล

Alternative Freedom
“a documentary about the invisible war on culture”
with interviews with Stallman and Lessig
now on screen at Pioneer Theater NYCwatch trailer

อัลเทอเนทีฟ ฟรีดอม
“สารคดีเกี่ยวกับสงครามที่มองไม่เห็นกับวัฒนธรรม”
มีสัมภาษณ์ สตอลแมน กับ เลสสิก ด้วย
ดูตัวอย่างหนัง

เรื่องที่เกี่ยวข้อง โดย อ. มะนาว : ชื่อ, บุคคล, และอินเทอร์เน็ต, Tor, เราเป็นใคร, ระบบอิสระสำหรับการตรวจสอบการบล็อคเว็บ

[via Slashdot]

tags: , , , , , ,

2006-01-04

Infoseed Labs

Located in Edinburgh, Scotland, InfoSeed was founded in 2005 by a group of loosely-knit journalists, software developers and activists brought together by a shared desire to promote open access to media and encourage the use and development of Free and Open Source software.

keywords: Open Open Open

2005-05-26

Definition of Free/Open Source Software movement

.. it used to be a movement of "creation", build things up. With faith.

.. currently, argueably, it is more or less a movement to pressure "evil" companies to release their propietary code into a FOSS-compatible license.
(FOSSifying the code can be viewed as a "blessing", turns "evil" code to be a "saint" code immediately, amazingly.)

Any company that don't do opensource will automatically be an evil to some of the FOSS "followers".
(Have you ever call your local food stall guy an evil? He never gives you a recipe along with your Pad Thai or whatever dish.)

I know this is not always the case for the movement leaders and most of the followers. Those guys still continuing create innovative things.
But more and more FOSS followers are doing exactly what I'm saying. Mourning for free software. Sadly as it is, these voices are loud.

IMHO.

2005-03-21

The New FSF: Free Service Foundation ?

(Yahoo ซื้อ Flickr แล้วนะ)

ใช้ IM ของ MSN (MSN Messenger)
ใช้บล็อกกะอีเมล ของ Google (Blogspot, GMail)
ใช้อัลบั้มรูปกะอีเมล ของ Yahoo (Flickr)

กระจัดกระจาย

เออ ดี แบ่งกันไปให้หมด ปวดหัว อยากได้ทุกอย่าง ที่เดียว ID เดียวอ่ะ
ต้องทำเองมั๊ยเนี่ย -_-"

แต่ทำเองก็ไม่ดีหรอก เพราะว่าจริงๆ ไอ้พวกนี้มันจะใช้ได้ดี มีคุณค่าขึ้นมา ก็ดีตรงที่เครือข่าย
ลำพัง application น่ะ มันก็เฉยๆ แต่มันดีขึ้นมาได้มากๆ ก็ด้วยคนที่เข้าไปใช้
ถ้าทำเองสร้างเอง ใช้อยู่คนเดียว มันก็ไม่มีพลังจาก social network ตรงนั้น
อย่าง Flickr ถ้ามันเชื่อมไปอัลบั้มชาวบ้านไม่ได้ (ผ่านทาง tag, ทาง contacts) มันก็แทบไม่มีอะไรต่างกะอัลบั้มรูปออนไลน์สมัยเก่าเลย

จะหวังให้มีการเชื่อมข้ามเครือข่าย? เปิดให้ใครๆ ก็เข้ามาเชื่อมได้?
(เช่น เราตั้งพื้นที่ส่วนตัวของเราขึ้นมาเอง บนเซิร์ฟเวอร์เราเอง แล้วให้ไปเชื่อมกับ Flickr, Blogspot, MSN Spaces โยง contacts กันไปมาได้)
ผ่านทาง Web API กลาง ... ฝันเหอะ แค่โปรโตคอล IM นี่ยังรอกันไม่เลิกเลย

เราต้องการ Free Service Foundation ?
ต่อไปใครจะสนใจว่าใช้ "ซอฟต์แวร์" อะไร .. มีใครสนใจบ้างนะ?
ถ้ามือถือของเรา ('โทรศัพท์มือถือ'? ป่าว ผมบอกแค่ 'มือถือ' มันเป็นอะไรมากกว่านั้นไปแล้วนี่) ทำอะไรได้ทุกอย่างที่เราต้องการ ผ่านบริการต่างๆ ทั้งฟรี และบอกรับสมาชิก
ใครจะสนใจว่าบริการเหล่านั้นใช้ซอฟต์แวร์อะไร ทำงานอะไร?
(โอเค สนนิดหน่อย ก่อนตัดสินใจใช้ เหมือนอ่านพวกหนังสือเครื่องเสียง เปรียบเทียบรุ่น สเปก ราคา ต่างๆ ก่อนซื้อ, แต่หลังจากนั้น เราก็ลืมไปเลย วันๆ กดรีโมตอย่างเดียว ไม่ได้สนแล้วว่าสเปกมันอะไรบ้าง ฟังเพลงเพราะ เลือกแทร็คได้ ทำอะไรๆ อย่างที่ต้องการได้ พอแล้ว เอาเวลาไปคิดเรื่องอื่นบ้าง ปวดหัว)

FSF เก่า (S สำหรับ Software/ซอฟต์แวร์) ก็ยังต้องมีอยู่ สำหรับสิ่งต่างๆ ที่อยู่ข้างใต้ (ผู้ใช้จะสนใจมันรึเปล่าไม่รู้ล่ะ แต่ของพื้นฐานมันต้องมี ไม่มีไม่ได้)
แต่เราคงต้องมี FSF ใหม่ (S สำหรับ Service/บริการ) เพิ่มขึ้นมาด้วย
ซอฟต์แวร์เป็นชิ้นๆ ไม่ได้ต่อกันเป็นบริการ ก็เหมือนแขนข้าง ขาข้าง ไม่ได้เอามาต่อกัน ความสามารถก็จำกัด?

มาตรฐานเปิด อย่างมาตรฐานเอกสาร พวก OpenDocument หรือพวกลูกหลาน XML อะไรทั้งหลายแหล่นั่น ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้น เป็นพื้นฐาน ของ FSF ใหม่นี้ได้
แต่อันนั้นมันกำหนดแค่ มาตรฐานข้อมูล ไม่ได้มีเรื่อง มาตรฐานการแลกเปลี่ยน

มาตรฐานการแลกเปลี่ยน พื้นฐานสุดตอนนี้ ก็คงเป็น TCP/IP, แล้วก็มีพวก web services ทั้งหลายมาซ้อนอยู่ด้านบน บอกว่าจะแลกเปลี่ยนกันยังไง ข้อตกลงต่างๆ (คำว่า protocol/โปรโตคอล แปลตรงๆ ก็คือ ข้อตกลง/พิธีสาร นั่นเอง)
แต่อย่างโปรแกรมที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน อย่างการเขียนบล็อก เว็บแต่ละที่ ถึงจะใช้ web service เหมือนกัน แต่ก็มี api ต่างกัน ไม่ได้มีอะไรที่ใช้ร่วมกันเลย (ส่วนการอ่านนี่ ก็คงผ่าน RSS, RDF, Atom อะไรพวกนี้ อันนี้ดีหน่อย)

หรือเราจะมีทางมีโปรโตคอลกลางสำหรับแชร์ contact list รึเปล่า? และบริการอื่นๆ ด้วย (สมุดนัดหมาย?)
แบบว่าลิขสิทธิ์ถือโดยองค์กรกลางอะไรซักอย่าง แล้วสัญญาอนุญาตการใช้งาน ก็เป็นแบบเสรี (Free Service License? .. ผมก็ตั้งชื่อไปงั้นแหละ ยังนึกไม่ออกว่ามันจะออกมาเป็นไง)
แล้วเจ้าเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการนี่ ก็ใครจะตั้งขึ้นมาก็ได้ เป็นลักษณะ distributed, decentralized กระจาย, ไม่รวมศูนย์
(อย่างของ Drupal? ชื่อเดียวล็อกอินเข้าเว็บ Drupal ที่ไหนก็ได้? .. หรือว่าอย่าง Liberty Alliance ที่เป็นระบบ single sign-on?)

สมมติ ผมตั้งเซิร์ฟเวอร์ (อาจจะที่โน๊ตบุ๊คผมนี่แหละ เป็น peer-to-peer ก็ได้) ของผมขึ้นมาเอง ใช้ซอฟต์แวร์ "Miss Photo" (นามสมมติ)เอาไว้เก็บรูปถ่ายต่างๆ ของผม มี รูปวัด รูปทะเล
จะมีทางยังไง ให้มันโยงหน้าที่แสดงรูปทะเลของผม เข้ากับรูปทะเลของคนอื่นๆ ที่เค้าใช้ซอฟต์แวร์ "ePhoto" ได้โดยอัตโนมัติ
ถ้าไม่มีมาตรฐานกลางเรื่องโปรโตคอล เรื่อง api เราไม่น่าจะทำได้นะ
แล้วถ้าไม่มีองค์กรอะไรที่เราเชื่อถือได้มาดูแลเรื่องนี้ .. อะไรจะมารับรองว่า มันจะเป็นกลาง และเสรีไปตลอด?

โมเดล ซอฟต์แวร์เสรี จะมาช่วยสร้าง บริการเสรี ได้รึเปล่า?

Free Service Foundation .. ตอนนี้ไกลตัวเราเกินไปมั๊ย?

หมายเหตุ: อยากเขียนเป็นภาษาอังกฤษนะ เผื่อคนชาติอื่นๆ จะได้อ่านด้วย
แต่ตะกี้มันแบบ ระเบิดออกมาทันทีน่ะ ยังไงถ่ายทอดเป็นภาษาแม่มันก็ไหลกว่า (จินตนาการไม่ถูกจำกัดด้วยความอ่อนหัดทางภาษา)
แต่ตอนนี้ก็ขี้เกียจแปลละ เหมือนที่พยายามจะพูด พูดเป็นภาษาไทยยังไม่ค่อยชัดเจนเลย แปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วจะไปกันใหญ่ -_-

2005-02-01

Software Freedom Law Center

Offers free legal services for FOSS projects.

2004-06-24

The GPL Needs Updating

From a blog of Sun engineer, Jeff Dillon, on why GPL needs updating, to cope with the changes in "software-as-a-service" world.

เจฟฟ์ ให้ความเห็นว่า จีพีแอล ถึงเวลาต้องเปลี่ยนให้ทันกับยุคสมัย ถ้าอยากให้จุดมุ่งหมายของสตอลแมน (Richard Stallman) เป็นอย่างที่หวัง

คำถามลักษณะนี้ มีคนถามสตอลแมนเหมือนกันที่เอดินเบอระ -- สตอลแมนบอกว่ายังไม่มีคำตอบ แต่บอกว่า FSF เองก็ตระหนักถึงเรื่องนี้

2004-05-28

Stallman

วันนี้ไปฟัง Richard Stallman พูดมา

2004-05-06

Stallman

เพิ่งได้เมลตะกี้ Richard Stallman จะมาพูดที่มหาลัย The Free Software Movement and the GNU/Linux Operating System 3pm, Thursday 27 May 2004 George Square Lecture Theatre Richard Stallman will speak about the goals and philosophy of the Free Software Movement, and the status and history the GNU operating system, which in combination with the kernel Linux is now used by tens of millions of users world-wide. ถ้าไม่ลืม จะเข้าไปฟัง