ย้ายบล็อกไปที่ bact.cc แล้วนะครับ

พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
หยุด ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ ฟรี 2GB จาก Dropbox (sync กับ Windows, Linux, Mac, iPhone, Android ฯลฯ ได้)
Showing posts with label me. Show all posts
Showing posts with label me. Show all posts

2011-04-21

moved to bact.cc

ย้ายไป bact.cc ครับ

I moved to bact.cc.

bact' is still a name ;)

technorati tags: , ,

2011-01-02

My Moving Moving 2010 in Moving Pictures

ภาพเคลื่อนไหวจาก 2553 ปีแห่งการ เคลื่อนที่ ของผม

ปีที่ผ่านมา ถ่ายรูป ถ่ายวีดิโอ อัดเสียง ไว้เยอะมาก จากงานต่าง ๆ ที่โน่นนี่ รวมทั้งบนท้องถนน แต่ก็เป็นลักษณะถ่ายเก็บ ๆ เสียส่วนมาก คือเก็บเข้ากรุไปเลย ไม่ได้ดู ไม่ได้เอามาทำอะไรเท่าไหร่นัก เหมือนว่าในโลกแห่งสื่อดิจิทัล ที่การบันทึกมันทำได้ง่าย ได้เร็ว ได้ถูก เราก็เอาแต่บันทึก แต่ไม่ค่อยได้กลับมาย่อยของพวกนี้เข้าหัวเท่าไหร่

ช่วงสัปดาห์ท้ายปี คาบเกี่ยวปีใหม่ มีโอกาสถอดเทปของที่ค้างไว้ (จากงาน Open Data - ยังมีค้างอยู่สองคน) แล้วก็มาตัดต่อวีดิโอจากปาร์ตี้ จากงาน และจากเรียน วันนี้คิดว่าน่าจะโพสต์ ๆ รวมไว้เสียหน่อย รวมถึงวีดิโออื่น ๆ ในปีที่ผ่านมาด้วย (ยังมีของค้างจาก Mekong ICT Camp 2 ที่รอเพื่อนตัดอยู่ ชุดนั้นเยอะมาก)

วีดิโอคลิปส่วนมาก ถ่ายจาก Kodak PlaySport Zx3 (ใช้สนุกดี) และ Canon PowerShot G10 แล้วเอามาตัดต่อด้วยโปรแกรม iMovie '09 เป็นโปรแกรมใช้ได้คล่องมือแล้วพอสมควร

เหล่านี้คือ ภาพ/ภาพ จาก สายตา/สายตา ของผม



กึ่ง/สาระ/รูป : พื้นที่ กลาง ๆ กับ ชุมชน มหาวิทยาลัย (เวิร์กช็อปการทำสารคดี มานุษยวิทยาสถาปัตยกรรม ศิลปากร; 2010.12.22) ↓↓↓



ปาร์ตี้ แบบพอเป็นพิธี - Happy New Year เบา เบา (เฮฮากับนักเรียนมานุษยวิทยา; 2010.12.21) ↓↓↓



ปัตย์ ศรีอรุณ : คน เมือง พื้นที่ออนไลน์ (ออนไลน์ศึกษา เน็ตติเซ่นมาราธอน 2553; 2010.11.23) ↓↓↓



I say something (ร้องเพลงบนถนน Ximending ไทเป; 2010.10.28) ↓↓↓



Sean Ang: Social Media, Democracy, and Asian Values (ผู้อำนวยการ Southeast Asian Centre for e-Media (SEACeM) @ Internet Governance Forum ครั้งที่ 10; 2010.09.xx) ↓↓↓



Internet Governance and Human Rights: Frank La Rue (ผู้รายงานพิเศษว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิในเสรีภาพในการแสดงออก แห่งองค์การสหประชาชาติ @ IGF10; 2010.09.13) ↓↓↓



Internet Governance and Human Rights: Anriette Esterhuysen (ผู้อำนวยการบริหาร Association for Progressive Communications (APC) @ IGF10; 2010.09.13) ↓↓↓



ปอกมะม่วง แบบบันดุง Mango crafting - Bandung fruit cart (บันดุง อินโดนีเซีย; 2010.07.xx) ↓↓↓



@pruet โชว์น้ำจิ้ม ถก e-read #BarCampCM (บาร์แคมป์เชียงใหม่ 3; 2010.06.12) ↓↓↓



วิธีดูช่อง 11 NBT เพื่อความสมานฉันท์ (anti-propaganda; 2010.03.22) ↓↓↓



มีอีก ที่ arthittube

2553 เป็นปีที่มีอะไรเกิดขึ้นเยอะแยะเยอะแยะ ทั้งกับสังคมรอบตัวที่ผมต้องอยู่กับมันหรือผ่านไปเจอมัน โดยเฉพาะในมิติการเมือง ซึ่งแน่นอนว่ามันก็ทำให้เกิดอะไรขึ้นกับตัวผมเยอะแยะเช่นกัน แล้วก็ใช่ว่าจะรับมือกับทุกเรื่องได้ดี บางเรื่องที่มีโอกาสจะได้ทำ ก็ทำไม่ไหวซะอย่างนั้น คือมันเยอะจัด แทรกเข้ามา พุ่งเข้ามา

2554 นี่ หลัก ๆ ก็คงจะเน้นไปที่วิทยานิพนธ์ กับเรื่องเกี่ยวข้อง เช่น ข่าว การเปิดข้อมูลภาคสาธารณะ อะไรแบบนี้แหละ เอาให้มันจบ ๆ ซะที

สวัสดีปีใหม่ทุกคน (แฟนคลับด้วย :p)

technorati tags: , ,

2010-12-07

ปริศนาไขกระจ่าง: ทำไมหน้าเป็นผื่น-แห้ง?

เมื่อวานไปหาหมอผิวหนังที่โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ตรงสาทร

คือผิวตรงหน้า รอบ ๆ จมูกและมุมปาก มันแห้งมาก ลอกเป็นขุย ๆ และเป็นผื่นแดง เป็น ๆ หาย ๆ มานานมากแล้ว ไปหาหมอพวกคลีนิคผิวหนัง-สิว มาทีนึง ก็หายไปพักนึง แล้วก็เป็นใหม่ ก็เลยคิดว่า ช่างมันเหอะ ปล่อยไปงี้แหละ (แต่เวลามันแห้งมาก ๆ แล้วผิวแตกนี่ โคตรเจ็บอ่ะ)

เข้าไปนั่งในห้องหมอยังไม่ทันทำไร คำถามแรกที่หมอถามก็คือ นอนดึกใช่มั๊ย?

ช็อค แหงะ รู้ได้ไง

ดูหน้าก็รู้แล้ว มีผื่น มีรอยโค้งๆ ตรงนี้
อย่านอนดึก อย่ากินเหล้า เดี๋ยวก็หาย
แต่เดี๋ยวมันก็เป็นใหม่นะ ไม่ต้องห่วง เป็น ๆ หาย ๆ ไปงี้แหละ อีกหลายร้อยครั้ง

แล้วหมอก็สั่งยาให้ มีสบู่ล้างหน้า (Physiogel ไปซื้อตามร้านอย่าง Boots เองก็มี) กะยาฆ่าเชื้อราสองเม็ด กินสัปดาห์ละเม็ด ส่วนครีมทาหน้าบรรเทาอาการแพ้-ผื่น พอบอกหมอไปว่ามีแล้ว หมอก็เลยถามว่าเป็นครีมอะไร
T.A. อะไรซักอย่างน่ะครับ เมื่อวานเพิ่งได้มา ทาไปครั้งเดียว มันโอไหมหมอ
ได้ ๆ ตัวนั้นใช้ได้ ถ้าหายเมื่อไหร่ก็หยุดทา มันมีสเตรียรอยด์น่ะ
หมอก็เลยขีดฆ่าครีมทาหน้าออกจากใบสั่งยา
ถ้ามีแล้วก็ไม่ต้องเอาไปอีก

ด้วยความสงสัยว่ามันเรียกว่าอะไร เลยถามให้พยาบาลเขียนชื่อโรคมาให้
มันเรียกว่า Seborrhoeic dermatitis หรือ โรคผื่นไขมันอักเสบ เรียกย่อ ๆ ว่า Sebderm

อ่านดูในวิกิพีเดีย ประมาณว่าเกี่ยวกับเชื้อราและยีสต์ที่อาศัยอยู่บนผิวหน้าของคน สิ่งมีชีวิตพวกนี้ปกติก็อยู่ร่วมกับคนไม่มีอันตรายอะไร แต่เมื่อไหร่ที่ภูมิต้านทานเราตก พวกนี้มันก็จะโตเกินปกติ อะไรแนว ๆ นี้ (อ่านในวิกิพีเดียแล้วมันดูซับซ้อนมาก และสาเหตุที่แท้จริงก็ยังไม่มีใครรู้ ที่รู้ตอนนี้เป็นเพียงการคาดเดา เกี่ยวกะเรื่องเครียดเรื่องอะไรด้วย ก็ว่าไป)

ภูมิต้านทานเราจะต่ำ เวลาอดนอน (ต้องนอนตอนกลางคืนด้วย นอนตอนกลางวันก็ไม่ได้) กินเหล้า อะไรแนว ๆ นี้ (เมื่อก่อนตอนที่เป็นงูสวัด ก็เหตุเดียวกัน ตอนนั้นหมอถามด้วยว่าเที่ยวผู้หญิงไหม เพราะถ้าเป็น HIV ก็ทำให้ภูมิต้านทานต่ำเหมือนกัน ตอนนั้นนอกจากยาฆ่าไวรัสที่หมอจ่ายมาแล้ว ยังให้กินวิตามินบีด้วย แนวว่าจะช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิ)

ใครไม่อยากจะเป็น มันก็มีวิธีป้องกันอยู่ ลองค้นจากเน็ต เลือกเอาอันที่สั้น ๆ และไม่จู้จี้จนเกินไป (แปลว่าพอจะปฏิบัติได้) เช่น

ความรุนแรงของ seborrheic dermatitis สามารถลดได้โดยการควบคุมปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ความเครียด ความอ่อนล้า การเปลี่ยนแปลงของอากาศ การปล่อยให้ผิวมัน การใช้แชมพูหรือโฟมล้างหน้าบ่อย การใช้โลชั่นที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ การมีสิว และภาวะอ้วน

นายแพทย์กฤษณะ สุวรรณภูมิ

พยาบาลบอกไม่ให้กินหวานด้วย มันจะทำให้ยีสต์โต​ ง่ะ เหล้าเบียร์ก็อด โค้ก เยลลี่ แหงะ อดอีก

เราสังเกตได้ว่า เวลานอนดึก ทำงานติดต่อกันดึก ร่างกายจะร้อนด้วย แล้วหน้าก็จะมัน ๆ ไขมันนี่ดูจะเกี่ยวข้องกะการเกิดโรคด้วย

คนอื่น ๆ ที่เขาเป็นกัน ก็ประมาณนี้แฮะ นอนดึก

สรุปว่า อย่าเครียด อย่าอดนอน อะไรแนว ๆ นี้ แล้วมันก็จะดีเอง

ใช่ จริง ๆ แล้วต้องขอบคุณโรคพวกนี้นะ มันเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกาย ว่าเธอใช้ฉันมากเกินไปแล้วนะ ให้ฉันพักได้แล้ว พยาบาลบอก

technorati tags: , ,

2009-10-20

ขอกะเค้าด้วย #bts

จะถ่ายกับพี่เคนก็ใช่ที่ ไม่รู้จะเอาไง เราก็ยืนเก้ ๆ กัง ๆ

ผมไม่ใช่วิศวกรนะครับ

ในขณะนั้น คริส หอวัง ก็แอบมองเราอยู่ … เฮ้อ~

รถไฟฟ้ามาหานะเธอ สนุกดี ฉากเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น และ GTH มีความสามารถในการ craft เอาสปอนเซอร์ทั้งหลายเข้าไปอยู่ในบทภาพยนตร์จริง ๆ — นี่อาจจะเป็นแนวทางใหม่ของการทำภาพยนตร์ ก๊อปปี้ได้ไม่ว่า เพราะเอ็งก็ก๊อปโฆษณาไปด้วย สปอนเซอร์ดีใจ

อ้อ ระบบรถไฟฟ้า BTS ยังไม่มีสิ่งอำนวยสะดวกที่เพียงพอสำหรับผู้พิการ

จาก ห้องต่อพงษ์ เว็บไซต์มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย:

รถไฟฟ้า BTS เริ่มต้นการก่อสร้างในปี พ.ศ. 2535 ในขณะนั้นกลุ่มคนพิการทราบว่าทั้ง 24 สถานีไม่มีลิฟต์หรือหนทางที่จะทำให้คนพิการเข้าใช้ได้เลย กลุ่มคนพิการได้เรียกร้องแต่ถูกเพิกเฉย ได้ชุมนุมประท้วงในปี พ.ศ. 2535 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในสมัยนั้นได้รับปากที่จะดำเนินการติดตั้งลิฟต์ ให้แล้วก็เพิกเฉยอีกจนต้องมีการชุมนุมใหญ่ทั้งในปี พ.ศ. 2538 และ ปี พ.ศ. 2542 จนรัฐบาลยอมติดตั้งลิฟต์ 5 สถานี จาก 24 สถานี โดยระบุว่าจะดำเนินการเพิ่มเติมภายหลัง นับเป็นเวลาสิบกว่าปีที่กลุ่มคนพิการได้ประสานกับกรุงเทพมหานครและบริษัทฯ มาโดยตลอด ทั้งสองหน่วยรับปากแต่ไม่มีการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน ทำให้ต้องพึ่งบารมีศาลปกครองโดยการยื่นฟ้องดังกล่าว เพื่อนำไปสู่การใช้ชีวิตในสังคมที่คนพิการสามารถพึ่งพาตนเองได้ทั้งด้านเศรษฐกิจและอิสระภาพในการเดินทาง

วันที่ 22 กันยายน 2552 ศาลปกครองยกฟ้อง — ผู้ว่าฯไม่ผิด และ บีทีเอสไม่ต้องสร้างลิฟต์

ติดตามข่าวสารกลุ่มคนพิการ ในประเด็น universal access / freedom of movement ได้ที่:
www.NoAccessNoFreedom.com

technorati tags: , , , ,

2009-09-15

[สรุป] Hight and Low Thai: Views from Within (A.V.N. Diller 1985)

บันทึกย่อเอกสารที่เรียน เอามาแปะไว้ในบล็อกเผื่อจะมีใครชวนคุย. อันนี้จากวิชาภาษาในสื่อสารมวลชน คณะศิลปศาสตร์ เป็นเอกสารชิ้นแรกที่อ่านในวิชา (ตอนนี้จะหมดเทอมแล้ว). ในบันทึกนี้ผมข้ามรายละเอียดไปเยอะ เพื่อยัดมันให้ลง 1 หน้า A4 (ตัวเอกสารเองผมก็อ่านไม่จบดีด้วย ข้าม ๆ บางส่วนไป). ขอบคุณ Rikker Dockum @thai101 ที่ส่งเอกสารหน้าที่ขาดหายไปให้.

ดาวน์โหลด PDF (81K), OpenDocument (18K)

หลังจากอ่านเอกสารนี้ เราอ่านอีกสองชิ้น ที่เกี่ยวกับภาษาในสื่อไทย. อันหนึ่งเกี่ยวกับการจำแนกระดับภาษาในหนังสือพิมพ์ไทย การใช้ภาษาในหัวข่าว คอข่าว ตัวข่าว โดยอิงตาม High Thai และ Low Thai ของ Diller (Khanittanan, Wilaiwan. 2007, Language of the news media in Thailand). อีกอันดูการสร้างและการใช้แสลงการเมือง (Srinarawat, Deeyu. 2007, Thai political slang: formation and attitudes towards usage).

----

Anthony Diller เสนอว่า ‘ภาษา’ นั้นสามารถหมายถึง ‘ระดับภาษา’ หรือ ‘language subform’ (Edward Sapir) หรือ ‘style’ หรือ ‘register’ (Michael Halliday) โดยยกตัวอย่าง register ในภาษาไทย ได้แก่ ภาษาราชการ, ภาษากฎหมาย, ภาษาการศึกษา, ภาษาตลาด, ภาษาหนังสือ, ภาษาพูด, ภาษาปาก. นักการศึกษาไทยสังเกตว่าความแตกต่างระหว่าง ‘ระดับภาษา’ ดังกล่าว ขึ้นอยู่กับ บริบททาง ‘กาละเทศะ’ (โอกาส-ตำแหน่ง) เช่น ตำแหน่งทางสังคมโดยเปรียบเทียบและความสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างคู่สนทนา. Diller ยกตัวอย่างที่อนุมานราชธนพูดถึงการใช้ภาษาที่ดัดจริตหรือใช้เต็มรูปแบบเกินไป เป็นตัวชี้ว่านักวิชาการไทยได้ตระหนักถึงการแบ่งระดับภาษามานานแล้ว. Diller ระบุว่า การที่เขาเลือกใช้คำว่า ‘ระดับภาษา’ หรือ ‘register’ นั้น เป็นความตั้งใจ เพื่อบอกว่า เมื่อนักวิชาการไทยอภิปรายกันเรื่องภาษาศาสตร์สังคม (sociolinguistics) นั้น พวกเขามักจะหมายถึงตัว ‘ระดับภาษา’ นี้ แม้พวกเขาจะใช้คำว่า ‘ภาษา’ เฉย ๆ ก็ตาม.

William J. Gedney ตั้งข้อสังเกตว่าชาวต่างชาติรุ่นก่อน ๆ ที่ศึกษาราชาศัพท์ เข้าใจผิดว่ามันเป็นภาษาอีกภาษาต่างหาก แต่เขาเห็นว่ามันเป็นเพียงระบบการแทนคำศัพท์หนึ่งด้วยอีกคำศัพท์หนึ่งเท่านั้น (a system of lexical substitutions) กล่าวคือเป็นเพียง ‘ระดับภาษา’ อีกระดับ. โดยบริบทในการเลือกระดับภาษานี้ มีทั้ง บริบทภายใน และ บริบทภายนอก. ตัวอย่างของบริบทภายในคือ เมื่อสามัญชนพูดถึงเจ้า ก็อาจใช้ราชาศัพท์, ส่วนบริบทภายนอก เช่น ตำแหน่งทางสังคมของคู่สนทนา ดังได้กล่าวไปแล้ว. อย่างไรก็ตาม Diller เสนอว่าการแบ่งระดับภาษาในภาษาไทยนั้น ไม่ได้เป็นการแบ่งในลักษณะ diglossia ที่มีระดับภาษาสองระดับ สูง-ต่ำ (High Thai และ Low Thai) เพื่อประสงค์การใช้งานที่แบ่งแยกกันชัดเจน. แต่ระดับภาษาในภาษาไทยนั้นมีหลายระดับ สูง-ต่ำโดยเปรียบเทียบ ตามมิติการใช้งาน สังคม และภูมิศาสตร์. Diller เรียกการแบ่งแบบนี้ว่า diglossic register differentiation หรือ diglossic subforms (น. 52-53).

ในเรื่องความแตกต่างระหว่างระดับภาษาสูงกับต่ำนี้ Diller ตั้งข้อสังเกตว่า ความแตกต่างจะพบได้มากที่สุดในชนบท ที่ซึ่งภาษาท้องถิ่นแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากภาษากลาง (Central Thai ซึ่งให้ความหมายทั้งทางภูมิศาสตร์และทางการปกครอง) แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ยังเป็นภาษาเดียวกันอยู่. สิ่งหนึ่งที่ Diller ใช้ชี้ให้เห็นว่ามีความแตกต่างที่มากกว่าในชนบท ก็คือความรู้สึกสำนึก (conscious) ในการพัฒนาทักษะภาษา (language acquisition). เด็กในชนบทจะมีสองช่วง คือ เรียนรู้ระดับภาษาท้องถิ่นในช่วงปฐมวัย และเรียนรู้ระดับภาษากลางเมื่อเข้าศึกษาในโรงเรียน (formal education). ในขณะที่เด็กในเมือง ซึ่งคนรอบ ๆ ใช้ภาษากลางอยู่แล้ว จะเรียนรู้ภาษากลางตั้งแต่ในช่วงปฐมวัย ส่วนการศึกษาในโรงเรียนนั้นเพียงเพิ่มเติมคำศัพท์หรือภาษาพิธีกรรมเฉพาะเท่านั้น. กล่าวคือ โดยเปรียบเทียบแล้ว เด็กในชนบทจะเรียนรู้ภาษากลางอย่างมีสำนึกมากกว่าเด็กในเมือง (น. 53).

ไวยากรณ์ของภาษาไทยนั้น ได้รับอิทธิพลมาจากสองแหล่งภาษาใหญ่ ตามอิทธิพลทางความคิดในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งใช้ภาษาเหล่านั้น คือ ไวยากรณ์บาลี-สันสกฤต และ ไวยากรณ์กรีก-ละติน (ผ่านภาษาอังกฤษ) โดยคำที่ใช้เรียกส่วนประกอบในไวยากรณ์กรีก-ละติน ถูกแปลเป็นไทยโดยใช้คำบาลี-สันสกฤต (น. 54).

สำหรับชุดคำศัพท์ สมัยสุโขทัยภาษายังไม่มีการแบ่งระดับมากเท่าทุกวันนี้ คำศัพท์ที่ใช้ก็ใช้คำเดียวกันกับผู้อยู่ในระดับสังคมต่าง ๆ กัน เช่น ใช้คำว่า ‘ตีน’ กับพระพุทธเจ้า ใช้คำว่า ‘กู’ กับเจ้า. ชุดศัพท์เขมร-อินเดียนั้นสำคัญมากในการแยกระดับภาษา (register differentiation) โดยคำในภาษาเหล่านี้เข้ามาก่อนทางศาสนาพุทธ และต่อมาใช้ในวัง และใช้ในกวีจากในวัง (น. 55). รัชกาลที่ 4 ให้ความสนใจการใช้ภาษาให้ถูกต้องตามแบบแผน มีการกำหนดลักษณนาม กำหนดการใช้คำต่าง ๆ และแสดงความไม่พอใจที่หนังสือพิมพ์ใช้คำ ‘สำเนียงไพร่เลว’ ไม่ใช้คำ ‘สำเนียงผู้ดี’. การใช้คำทับศัพท์ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้กันแพร่หลาย ไม่ได้รับการยอมรับ มีการคิดคำศัพท์ไทยใหม่ ๆ เพื่อแทนคำทับศัพท์ โดยใช้คำบาลี-สันสฤกตมาสร้างคำใหม่เหล่านี้ (น. 56). เรื่องคำศัพท์นี้ ยังมีเรื่องการเลือกใช้ หรือ lexical variation ที่พูดถึงระดับคำที่ไม่ชัดเจนตายตัว ว่าคำไหนสูงคำไหนต่ำ แต่เป็นลักษณะ ‘สูงกว่า’ ‘ตำ่กว่า’ และคำต่ำก็ถูกใช้ทั่วไปได้ เช่น ‘ตีนแมว’ และการเลี่ยงคำบางคำที่มีความหมายไม่ดีหรือความหมายออกไปทางเรื่องเพศ-โดยเฉพาะในคำราชาศัพท์ (น. 59-62). นอกจากนี้ยังมีเรื่อง personal references (อะไร-อันใด; ใคร-ผู้ใด; ที่-ซึ่ง) ซึ่งเลือกใช้ตามเพศ ความใกล้ชิด ความเป็นทางการ (น. 63-64) และ deixis (นี่-นี้; นั่น-นั้น) ซึ่งเกี่ยวข้องกับภูมิศาสตร์ด้วย (น. 64). คำบุพบท (prepositions) บางอันปกติละได้ แต่เมื่อต้องการแก้ปัญหาความกำกวมก็จะถูกใช้แบบเต็ม การใช้คำบุพบทอย่างชัดแจ้ง บ่งถึงภาษาระดับสูง (น. 66-69).

การออกเสียงก็แยกระดับภาษาเช่นกัน เช่น ความแตกต่างระหว่าง /ร/ กับ /ล/ ซึ่งชาวไทยเชื้อสายจีนมีแนวโน้มจะออกเสียง /ร/ เป็น /ล/ (cluster loss) ความกลัวที่จะทำ /ร/ หาย นี้ นำไปสู่การแก้จนเกิน (overcorrection) ที่ใช้ /ร/ แทน /ล/ ในที่ที่ควรใช้ /ล/ และการกระดกลิ้นเพื่อออกเสียง /ร/ จนมากเกิน (over-rolled), การเติมเสียง -s ท้ายคำ หรือการขึ้นเสียงสูงท้ายประโยคเพื่อแสดงว่าเป็นคำถาม ซึ่งได้อิทธิพลมาจากภาษาอังกฤษ (น. 57-59).

ในตอนท้าย Diller เสนอว่า ความแตกต่างของระดับภาษามีเรื่องความขัดแย้งทางวัฒนธรรมอยู่ด้วย ซึ่งสะท้อนออกมาในความขัดแย้งทางระบบการศึกษา การศึกษาและสอนภาษาตามแนว prescriptive (มีภาษาแบบแผนในอุดมคติที่ถูกต้อง) และ descriptive (ภาษาอย่างที่มันเป็น).

เอกสารอ้างอิง

Diller, A. 1985, “High and low Thai: views from within”, in Papers in Southeast Asian Linguistics No.9, ed. D. Bradley, vol. 9, pp. 51-76. Pacific Linguistics, the Australian National University. Available from Southeast Asian Linguistics Archive: http://sealang.net/sala/htm/DILLERAnthonyVN.htm

technorati tags: , , , , ,

2009-04-29

Another Sunny Day animation

I just love this song. It reminds me a long walk over a city I used to spent a good part of my life in. It was raining in the morning, but the sky went very clear after that. Found this animation in YouTube, and love it also. Thanks to this interconnectivity and hypertextuality. — Another Sunny Day, Belle & Sebastian.

my blip.fm: http://blip.fm/bact

technorati tags: , ,

2008-08-19

[review] Doing Ethnographies. (assignment)

ส่งการบ้านวิจารณ์หนังสืออีกแล้ว

Doing Ethnographies. โดย Mike Crang และ Ian Cook (Sage Publications, 2007)

ด้วยรูปร่างหน้าตาเผิน ๆ เหมือนหนังสือ “ฮาวทู” แต่เมื่ออ่านช่วงต้นก็รู้สึกแว่บว่า “ต่อต้านฮาวทู” จนอ่านต่อก็รู้สึกว่า “อาจจะฮาวทู”, Doing Ethnographies เป็นหนังสือที่ควรอ่านมากกว่าหนึ่งรอบ ในวาระ วิธี ลำดับ และทิศทางต่าง ๆ กัน. ด้วยการสะกิดผู้อ่านให้นึกถึงทางเลือกยุ่บยั่บย้อนแย้งอยู่ทุกระยะ แครงก์และคุกสองผู้เขียนไม่เพียงแต่เล่าเรื่องราวยุ่งเหยิงในการ(จะไป)ทำชาติพันธุ์วรรณนาที่ไม่ค่อยจะมีใครเล่านัก แต่ยังทำให้เรารู้สึกสับสน อย่างที่เราควรจะรู้ว่ามันจะสับสนอย่างไรในสนาม. ผู้เขียนเสนอว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการศึกษาความสัมพันธ์ของมนุษย์นั้นก็คือตัว ความสัมพันธ์ของมนุษย์ นั้นเอง. ไม่เพียงผู้ไขประตูสู่สนามเท่านั้นที่เป็นมนุษย์ แต่รวมถึงผู้ที่ถูกศึกษาและผู้ศึกษาด้วย, เหล่านี้นำไปสู่ประเด็นจริยธรรมและความเป็นภววิสัยของการศึกษา และสิ่งที่ผู้เขียนย้ำคือ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า “ข้อมูลดิบ” ทุกอย่างล้วนถูกประกอบสร้าง-โดยตัวผู้สังเกตก็มีส่วนกำหนด ความสัมพันธ์เชิงอำนาจมีอิทธิพลในการประกอบสร้างข้อมูลดังกล่าวเสมอ และความคิดต่าง ๆ ล้วนได้รับอิทธิพลมาจากความคิดก่อนหน้าอื่น ๆ. จงเป็นมนุษย์ที่ปรับตัวและรู้ตัวในทุกขณะ อาจเป็นคำแนะนำที่ไม่มีข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวของหนังสือ “อาจจะฮาวทู” เล่มนี้.

บทวิจารณ์ (PDF, 5+1 หน้า จัดหน้าใหม่ เพิ่มขนาดฟอนต์ กลายเป็น 7 หน้า) เป็น CC-by-3.0

ฉบับดั้งเดิมของหนังสือเล่มนี้ (1995 เขียนระหว่างที่ผู้เขียนทั้งสองกำลังทำวิทยานิพนธ์อยู่) สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่ Durham e-Prints

technorati tags: , ,

2008-06-02

I'm a Comma and best get along with a Question Mark

หลายคน moleculark, escribitionist, thanr, pruet, pradt, lewcpe เล่น - เล่นด้วย (ทำคอมม่ามันหัวกลับอ๊ะ ?)

You Are a Comma
You are open minded and extremely optimistic.
You enjoy almost all facets of life. You can find the good in almost anything.

You keep yourself busy with tons of friends, activities, and interests.
You find it hard to turn down an opportunity, even if you are pressed for time.

Your friends find you fascinating, charming, and easy to talk to.
(But with so many competing interests, you friends do feel like you hardly have time for them.)

You excel in: Inspiring people

You get along best with: The Question Mark

นึกขึ้นมาได้ว่า พิมเคยเรียกเราว่า “พี่ลูกน้ำ” ประมาณว่าตัวผอม ๆ หัวโต ๆ - -" (ส่วนคุณพิมเรียกตัวเองว่า “จุด” เออ คิดได้)

technorati tags: ,

2008-05-24

a message from Potsdam

Got an e-mail from Potsdam yesterday. Thank you.

Thank you Manfred Stede, Heike Bieler, Stefanie Dipper, and all the nice people at Applied Computational Linguistics Lab, Uni Potsdam.

While of course there were difficult days I spent there, all everything in sum is a good pleasure memory. Parts of the current mine were built there. A little building covered with snow in an always-under-construction campus, with a small train station that always put me to the run (or else wait for another one hour). People in the canteen. That creamy yogurt dessert. Table knocking in the seminars. Beach volleyball behind the building. Miss all thing Golm.

technorati tags:

2008-05-22

myself, my Twitter-shirts

ได้เสื้อ twitter มาเมื่อสองสัปดาห์ก่อน เอามาโชว์ molecularck เป็นคนจัดการเรื่องแจกเสื้อ เมื่องานนัดพบ mini twittbkk ที่ผ่านมา ผมไม่ได้ไปรับด้วยตัวเอง ติดถ่ายรายการอยู่กับกล้า แต่มีคนใจดีนำส่งให้

สองตัวสั่งไป ขาว L ดำ M

นี่ตัวขาว “colorless green ideas tweet furiously” (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)

twitter-shirt: chomsky

ประโยคนี้ล้อประโยคคลาสสิกของ นอม ชอมสกี ที่ว่า
“Colorless green ideas sleep furiously”
(ความคิดเขียวไร้สีหลับอย่างเกรี้ยวกราด) ชอมสกีใช้ประโยคนี้เป็นตัวอย่างประโยคที่ ถูกไวยากรณ์ แต่มีความหมายไม่เป็นเรื่อง (ไม่ใช่ไม่มีความหมายนะ มีความหมาย แต่มันเข้าใจไม่ได้ — green มันจะ colorless ได้ยังไง ?, แล้ว ideas มันมีสีด้วยเหรอ ?, แล้ว sleep ยังไงให้ furiously ?) ชอมสกีใช้ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นว่า แบบจำลองทางสถิติของไวยากรณ์นั้นไม่เพียงพอต่อการสร้างและเข้าใจภาษา เพราะถ้าเราดูในภาษาที่ใช้กันจริง เราจะไม่มีทางเจอประโยคที่คล้ายประโยคดังกล่าวเลย แต่เรา (หมายถึงเจ้าของภาษา native speaker) ก็สามารถแยกแยะได้ในทันทีว่า ประโยคดังกล่าว ถูกไวยากรณ์ แสดงว่าแบบจำลองของภาษาไม่ได้มีแค่เรื่องความน่าจะเป็นหรือสถิติเท่านั้น แต่ยังต้องมีเรื่องของโครงสร้างด้วย

ตัวดำ “I disapprove of what you tweet, but I will defend to the death your right to tweet it.” ตัวนี้มาพร้อมกับบั๊ก - มี tool tip balloon ลอยอยู่เหนือคำพูดดัวย :P (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)

twitter-shirt: tweet rights

ประโยคนี้ล้อ
“I disapprove of what you say, but I will defend to the death your right to say it.”
(ฉันไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณพูด แต่ฉันจะปกป้องสิทธิ์ในการพูดของคุณด้วยชีวิต) โดย Evelyn Beatrice Hall ในหนังสือ The Friends of Voltaire ผมชอบประโยคนี้ในแง่ที่ว่า มันสามารถสรุปความคิดรวบยอดเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกได้ในหนึ่งประโยค ประเด็นสำคัญนั้นไม่ได้อยู่ที่การปกป้องสิทธิเสรีภาพของตัวเอง แต่อยู่ที่การปกป้องสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ให้เกียรติศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเราและเขาเท่ากัน ปฏิบัติต่อเขาเหมือนกับที่เราอยากให้เขาปฏิบัติกับเรา พูดกันง่าย ๆ อย่างภาษาที่เราคุ้นเคยก็คือ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ซึ่งนี่เป็นหลักการพื้นฐานของการอยู่ร่วมกัน-อย่างไม่ต้องทำตัวเหมือน ๆ กัน

อีกประโยคที่ผมมักจะนึกถึงคู่กันกับประโยคข้างบน ก็คือ
“Think for yourselves and let others enjoy the privilege to do so, too.”
(คิดเพื่อตัวคุณเอง และปล่อยให้คนอื่นได้รับอภิสิทธิ์ในการทำเช่นนั้นด้วย) ประโยคนี้ วอลแตร์ เขียนในหนังสือ Essay on Tolerance (ความเรียงเรื่องความอดกลั้น) ซึ่งก็เป็นเรื่องเดียวกันนั่นเอง เกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น โดยไม่จำเป็นต้องคิดทำเหมือน ๆ กัน เราไม่อยากให้ใครมาคิดแทนเรา คนอื่นก็เช่นกัน ก็ต้องเคารพเขาด้วย เขาก็เคารพเรา

เสน่ห์ของเสื้อยืด ที-เชิร์ต ก็คือ เราใช้มันบอกความเป็นตัวเราได้ บางทีก็อย่างอ้อมในดีไซน์ ทางทีก็อย่างตรง ๆ ในข้อความ (หนังสือรวมเสื้อยืดของสนพ. a book ที่ออกมาไม่นานนี้ ก็น่าสนใจ)

pittaya ก็เอาเสื้อมาโชว์เหมือนกัน เขากินเม็ดสีแดง

ดูเสื้อยืด “ชนชั้นกลาง” โดยน้อง ๆ ลาดกระบังและอีกหลาย ๆ ที่ (เขาบอกเป็นเพื่อนกันสมัยมัธยมชายล้วน) ที่เอามาขายที่ถนนข้าวสารเมื่อเดือนก่อน

T-Shirts

technorati tags: , ,

2008-05-02

on press(ed)

“The worst kind of censorship is self-censorship.”

Short interviews/comments I gave (together with others) in recent months. For the records.

Blogging the Coup
By Dustin Roasa
Columbia Journalism Review Short Takes, 10 April 2008

Bloggers don't predict stability
By Pravit Rojanaphruk
The Nation, 22 December 2007 (Bangkok Pundit covered this)

บทสัมภาษณ์ [PDF]
กองบรรณาธิการ
จดหมายข่าวปฏิรูปสื่อ, คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ, ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 ก.ย. - ต.ค. 2550 (ฉบับเต็ม)

Say No to Censorship [PDF]
Editorial Interview
CyberAnt Magazine, the official student magazine of Computer Engineering Department, KMUTT, Vol. 3, First Semester Edition, June - October 2007

more...

technorati tags: , , ,

2008-04-22

Happy Earth Day!

เนื่องในโอกาสวันคุ้มครอง(ทาง)โลกนี้ เหมือนกับโอกาสที่ผ่าน ๆ มา ผมมีความยินดีจะชวนทุกคนร่วมแสดงความคิดเห็น ไม่ชอบใจ ไม่ถูกใจ คิดเห็นอะไรกับตัวผม (หรือบล็อกนี้ หรืองานที่ผมทำ) ดีหรือไม่ดี เหมาะหรือไม่เหมาะ ไม่ว่าจะเป็นในรอบปีที่ผ่านมาหรือตอนไหนก็ตาม ว่ากันมาได้ตามสะดวกครับ ไม่ต้องเกรงใจ ไม่มีโกรธกัน — ขอบคุณมาก ๆ :)

(ส่วนเรื่อง “มาสาย” นี่ไม่ต้องนะ ง่ายไป ไม่อยากแจกแต้ม :P ... จะเอาให้มันสายน้อยลงน่าาาา...)

และในโอกาสนี้ ขอขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับ พ่อหมาอ้วน/ผู้ใหญ่บ้าน, คุณ mnop, พี่เทพ, mk, และคนอื่น ๆ ที่ช่วยแนะนำตักเตือนด้วยดีเสมอมาในวาระโอกาสต่าง ๆ ขอบคุณมากครับ

Happy Earth Day!

Happy Earth Day!

22 เมษายน: วันคุ้มครองโลก

“ฉันยังคิด ฉันจึงยังเป็นอยู่”

technorati tags: , ,

2008-04-21

Bangkok Middle Class Freeze

Joined Bangkok Freeze yesterday. Mixed feeling.

วันนี้ (เมื่อวานนี้) ไปดู Freeze กับเขามาด้วย อันที่มาบุญครองนี่ ได้ดูตอนท้าย ๆ ส่วนที่พารากอน ก็เดินไปทำเนียน ๆ เป็นนักท่องเที่ยวกำลังถ่ายรูปชาวบ้านที่กำลังแข็งอยู่ ถ่ายไปถ่ายมา ตัวเองก็แข็งไปด้วยซะงั้น (ทำหยั่งกะมันเป็นโรคติดต่อ)

เจอพี่ยุ้ย พิท ฮันท์ และคนรู้จักหรือเพื่อนของคนรู้จักอีกจำนวนหนึ่ง ได้เจอ GX-100 อีกตัวแล้ว พร้อมวิวไฟน์เดอร์ด้วย กิเลสพุ่ง

ไปกิน Holy Pizza ไม่อร่อยเหมือนที่เดือนที่แล้วกิน สั่งคนละอย่างด้วยแหละ รู้งี้กินพิซซ่าดีกว่า

โค้กไม่มี รับเป็ปซี่ได้มั๊ยคะ ... โอ้ว แต่ว่า กระเทียมจีน กระเทียมไทย คนยังไม่ได้แยกกัน กระเทียมมันก็เหมือน ๆ กันหมด เป็นงั้น

ลิซ่าโทรมาบอกว่ามีอีกรอบนะที่พารากอน ไว้เจอกัน แต่ก็ไม่ได้เจอ (พี่ยุ้ยก็เท็กซ์มา thx) เหมือนจะมีหลายคนจำเขาได้ ที่ไปกันทั้งบ้านน่ะ พ่อแม่ลูก ดูท่าจะอารมณ์ศิลปินกันทั้งบ้าน เจอพี่ด็อกนั่งอยู่หน้าน้ำพุ

นอกจากแข็งแล้ว ก็อยากเห็น flash mob ทำนอง street art/performance อะไรแบบนี้อีก ใครมีไอเดียอะไร ก็ช่วยผลิตกันออกมาเยอะ ๆ ด้วยเน้อ — พวกคนขับรถเขาจะได้อิจฉามั่ง ที่ไม่ได้เดินถนน :P ... แต่ก็อ่ะนะ ทางเท้าจริง ๆ เราก็คงไม่ค่อยมีให้ทำหรอก มีแต่ทางเดินระหว่างห้าง กะสกายวอล์กให้เดินล่ะมั้งเนี่ย ย่านการค้าธุรกิจกรุงเทพ ... บีทีเอสนี่มันทำลายล้างจริง ๆ ...

เวลาคนไทยยืนขึ้นทั้งโรงหนัง ตัวนิ่ง ฝรั่งมันจะนึกว่าเล่น freeze อยู่รึเปล่านะ ? เล่นบ่อยจัง

วิ่งจาก freeze ไปดู Love in the Time of Cholera คนข้างหน้าไม่ยืน ตำรวจไม่เห็นไปจับ (หนังชื่อไทยว่า “รักนะ จู๊ด จู๊ด”)

ใครจะช่วยทดสอบ Firefox ภาษาไทย build 302 สำหรับ GNU/Linux ออกมาแล้ว

Twaiku คือ ไฮกุ บน twitter

รูปฟรีซ วิดีโอคลิป ลองหาดูตามเว็บล็อกต่าง ๆ ครับ ถ่ายกันไว้เยอะมาก fukduk.tv บอกว่าจะรวม ๆ ให้ดูด้วย ใครมีเด็ด ๆ ลองส่งไป หรือจริง ๆ ทำเองก็ได้ ก็อัพขึ้น YouTube ไปซะ (เขาบล็อคก็ไม่ต้องไปกลัว) ใส่แท็ก bangkokfreeze และ freezebangkok

เสื้อยืด “ชนชั้นกลาง” หาซื้อได้ที่ข้างทาง ถนนข้าวสาร ทำเองขายเอง ยุเขาให้ทำเว็บไปเลย ขายบนเว็บ แต่ระหว่างนี้ไปเดิน ๆ ดูได้ที่ข้าวสาร ไม่รู้มาวันไหนมั่ง (ไม่รู้จะพูดทำไม - -") ดูจะทำเป็นงานอดิเรก

เอ้าฝึกกันไว้ อารยะขัดขืน ครั้งหน้าเราจะไปฟรีซกันหน้าสภา/ลานพระรูป (เอ้า ฮา...)

หรือในความหมาย “หยุด อย่าขยับ!” พวกเราทุกคนฟรีซ-ถูกปล้นกันไปหมดแล้ว ความเป็นเจ้าของชีวิตตัว (เอ้า ฮา...)

ทำไมเธอไม่ทำ ทำไม / นกร้อง รุ่งเช้ามา / นอนดึกเล่นเน็ต กับตัวเอง

technorati tags: , , , ,

2008-04-15

ghost in the shell

เล่นด้วยคน

$ history|awk '{a[$2]++} END{for(i in a){printf "%5d\t%s\n",a[i],i}}'|sort -rn|head
  148 ls
  133 svn
   83 cd
   33 find
   23 po2moz
   15 rm
   12 update-alternatives
   12 mv
   12 ~/bin/firefox/firefox
   11 sudo

คนอื่น ๆ pphetra, sikachu, veer, rerngrit, kengggg, rtsp, mk, sugree, pittaya

technorati tags: ,

2008-04-09

lost in the jungle of books, very happily

สงครามยังไม่จบ แต่เราก็นับศพทหารไปเรื่อย ๆ ... เนื่องในโอกาสงานหนังสือ - หนังสือที่ได้มาเมื่อราวสองสามเดือนที่ผ่านมา (พยายามเรียงตามลำดับที่ได้มา ยิ่งบนยิ่งใหม่):

งานหนังสือ ครั้งแรก/2551:

(โฉบผ่าน open แบบรีบ ๆ คนเยอะมาก เลยขอบาย ครั้งนี้ซื้อหนังสือเก่าเยอะ)

  • ดีไซน์ + คัลเจอร์ - ประชา สุวีรานนท์ - ฟ้าเดียวกัน [310 หน้า สี่สีทั้งเล่ม ราคา 300 บาท! งานนี้ทำ “เอากล่อง”! จริง ๆ ครับ ในงานลดอีก 20% เหลือ 240 บาท ไม่อยากจะเชื่อ] [พระเอกของงาน]
  • 101 Thai Forms - วิจิตร อภิชาติเกรียงไกร - 4d
  • What is art ? - ลีโอ ตอลสรอย เขียน, สิทธิชัย แสงกระจ่าง แปล - โอเพ่นบุ๊คส์
  • นิทเช่ [ชุด Introducing] - Laurence Gane เขียน, Kitty Chan ภาพประกอบ, เทพทวี โชควศิน แปล - มูลนิธิเด็ก
  • ลัช ฉบับคร่อมข้ามวัฒนธรรม ปีที่ 4 ฉบับที่ 8 มีนาคม 2551 - หวีกล้วย
  • Underground Buleteen #1, 2, 13 - วารสารหนังสือใต้ดิน
  • เศรษฐกิจของทรัพย์สินเชิงสัญลักษณ์ - ปิแยร์ บูร์ดิเยอ เขียน, ชนิดา เสงี่ยมไพศาลสุข แปล, นพพร ประชากุล บรรณาธิการ - คบไฟ
  • ตามใจฉัน-ตามใจท่าน: ว่าด้วยการวิจารณ์และการวิจัย - เจตนา นาควัชระ - คมบาง
  • สื่อมวลชนบนเส้นทางทุนนิยม - ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ บรรณาธิการ - ศูนย์ศึกษาเศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • การปฏิวัติและการเปลี่ยนแปลงในประเทศสยาม: บันทึกของทูตญี่ปุ่นผู้เห็นเหตุการณ์ปฏิวัติ 2475 - ยาสุกิจิ ยาตาเบ เขียน, เออิจ มูราซิมา และ นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ แปล - ศิลปวัฒนธรรม/มติชน
  • ทางแพร่งและพงหนาม: ทางผ่านสู่ประชาธิปไตย - เกษียร เตชะพีระ - มติชน
  • ทักษิณา-ประชานิยม - เอนก เหล่าธรรมทัศน์ - มติชน [50%]
  • ทักษิโณมิกส์: ทักษิโณมิกส์และ CEO ประเทศไทย - ปราณ พิสิฐเศรษฐการ - มติชน [50 บาท!]
  • ทักษิโณมิกส์ 2: ทักษิโณมิกส์กับนโยบายสังคม - ปราณ พิสิฐเศรษฐการ - มติชน [50 บาท!]
  • ทักษิโณมิกส์ 3: ทักษิโณมิกส์บนเวทีเอเชียและโลก - ปราณ พิสิฐเศรษฐการ - มติชน [50 บาท!]
  • บนเส้นทางสู่หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า - สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ - มติชน [50 บาท!]
  • จากครรภ์มารดาถึงสุสาน หรือ ระบบความมั่นคงทางสังคม - เมธี ดุลยจินดา - ดวงกมล [5 เล่ม 100]
  • คนงานก็มีหัวใจ หรือ การคุ้มครองแรงงาน - เมธี ดุลยจินดา - ดวงกมล [5 เล่ม 100]
  • ใครจะยอมอดตาย หรือ เรื่องของค่าจ้าง - เมธี ดุลยจินดา - ดวงกมล [5 เล่ม 100]
  • เหนื่อยตายดีกว่าอดตาย - เมธี ดุลยจินดา - ดวงกมล [5 เล่ม 100]
  • ขายดวงดาว - สุชาติ สวัสดิ์ศรี บรรณาธิการ - ดวงกมล [5 เล่ม 100]
  • นักปลูกป่าแห่งดาวอังคาร - สุชาติ สวัสดิ์ศรี บรรณาธิการ - ดวงกมล [5 เล่ม 100]
  • อธิบายศัพท์ปรัชญาการเมืองและสังคม - วิทยากร เชียงกูล และ พรภิรมณ์ เอี่ยมธรรม - สายธาร
  • สิทธิมนุษยชน - อุดมศักดิ์ สินธิพงษ์ - วิญญูชน
  • หลักกฎหมายว่าด้วยสิทธิเสรีภาพ - เกรียงไกร เจริญธนาวัฒน์ - วิญญูชน
  • นิติปรัชญาทางเลือก - สมชาย ปรีชาศิลปกุล - วิญญูชน
  • นิติศาสตร์นอกคอก - สมชาย ปรีชาศิลปกุล - วิญญูชน
  • นิติศาสตร์ไทยเชิงวิพากษ์ - สมชาย ปรีชาศิลปกุล - วิญญูชน
  • ภาษาอังกฤษเบื้องต้นสำหรับนักกฎหมาย - จันทรลักษณ โชติรัตนดิลก - วิญญูชน
  • ภาษาอังกฤษภาคปฏิบัติสำหรับนักกฎหมาย เล่ม 2 - แสน โพนไชยา - วิญญูชน

บูทหนังสือ การประชุมประจำปีทางมานุษยวิทยาครั้งที่ 7 ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน):

  • อำนาจ พื้นที่ และอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์: การเมืองวัฒนธรรมของรัฐชาติในสังคมไทย - ยศ สันตสมบัติ - ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
  • รัฐจากมุมมองของชีวิตประจำวัน 1 - รวมบทความจากการประชุมประจำปีทางมานุษยวิทยาครั้งที่ 6 - ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
  • วัฒนธรรมคือความหมาย: ทฤษฎีและวิธีการของคลิฟฟอร์ด เกียร์ซ - อคิน รพีพัฒน์ - ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)

IT Book House ฟอร์จูนทาวเวอร์:

  • Pandora's Box: Social and Professional Issues of the Information Age - Andrew A. Adams และ Rachel J. McCrindle - Wiley

ดอกหญ้า สยาม:

  • สองเงาในเกาหลี - ทรงกลด บางยี่ขัน - a book

ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต:

  • ปรัชญาการเมืองเบื้องต้น: บทวิเคราะห์โสเกรตีส - สมบัติ จันทรวงศ์ - คบไฟ

ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ศาลาพระเกี้ยว:

  • ประวัติปรัชญาการเมือง เล่มที่ 2, 3 - ลีโอ สเตร๊าส์ และ โจเซ็ฟ คร็อฟซีย์ บรรณาธิการ, สมบัติ จันทรวงศ์ แปล - คบไฟ
  • คำและความคิดในรัฐศาสตร์ร่วมสมัย - เอก ตั้งทรัพย์วัฒนา, สิริพรรณ นกสวน, และ ม.ร.ว. พฤทธิสาณ ชุมพล บรรณาธิการ - สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • คำและความคิดในรัฐศาสตร์ร่วมสมัย เล่ม 2 - ม.ร.ว. พฤทธิสาณ ชุมพล และ เอก ตั้งทรัพย์วัฒนา บรรณาธิการ - สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • การสื่อสารและการครอบงำทางวัฒนธรรม - เฮอร์เบิร์ต ไอ.ซิลเลอร์ เขียน, อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์ แปล - โครงการสื่อสันติภาพ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • คู่มือการศึกษาประวัติศาสตร์โลกฉบับไม่งี่เง่า (The No-Nonsense Guide to World History) - คริส บราเซียร์ เขียน, ประสิทธิ์ ตั้งมหาสถิตกุล แปล - คบไฟ [ดีมาก ๆ - แนะนำ นี่คือประวัติศาสตร์โลกฉบับที่ไม่ได้เอาตะวันตกเป็นศูนย์กลาง(นัก)]

ได้มาพร้อมกับจดหมายบ๋ายบายจากนิตยสาร way (ข่าวอัพเดท, way กำลังจะกลับมา กลางปีนี้)

  • สิทธิบัตรยา: ยาใจคนรวย - กรรณิการ์ กิจติเวชกุล - กลุ่มศึกษาปัญหายา, มูลนิธิสาธารณสุขกับการพัฒนา, องค์การหมอไร้พรมแดน

หยิบฟรีจากสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย:

  • อนาคตของสังคมประชาธิปไตย - โทมัส ไมเออร์ เขียน, นิโคล ไบรเออร์ บรรณาธิการร่วม, สมบัติ เบญจศิริมงคล แปล - มูลนิธิฟรีดรีค เอแบร์ท
  • บันทึกประวัติศาสตร์ พลังประชาชนต้านทุนนิยม (ดิบ) ฮุบสื่อ - ธีรเดช เอี่ยมสำราญ บรรณาธิการ - สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
  • ข่าวเจาะ-เจาะข่าว: ถอดประสบการณ์และเทคนิคข่าวเชิงสืบสวน - สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

ข้างถนน ทางเดินไปพันธุ์ทิพย์พลาซ่า (มือสอง):

  • Net คาเฟ่คนเหงา - ประจวบ วังใจ - เนชั่น

คิโนะคูนิยะ เซ็นทรัลเวิลด์ (ชอบบรรยากาศสาขานี้):

  • การครอบงำและความหวาดกลัวในสังคมไทย - Andrew Turton เขียน, อู่ทอง ประศาสน์วินิจฉัย แปล
  • “ชาติไทย” ในทัศนะปัญญาชนหัวก้าวหน้า - โสภา ชานะมูล - ศิลปวัฒนธรรม/มติชน [เล่มของอ.มะนาวที่ยืมมายังอยู่ที่บ้านเลย - -" ... พร้อม ๆ กับ Theories of the Information Society, by Frank Webster และ Cultural Resistance, by Stephen Duncombe ยังไม่คืนซักกะที - ลืมไปแล้วมั้งเนี่ย :P]
  • แรงงานวิจารณ์เจ้า: ประวัติศาสตร์ราษฎรผู้หาญกล้าท้าทายสมบูรณาญาสิทธิ์ไทย - ศิโรตน์ คล้ามไพบูลย์ - ศิลปวัฒนธรรม/มติชน

Still don't know how to do speed book reading, only know the speed book shopping. But dear, bookfair escapology lords, please don't help me, I do happy in this sin. Hell of books.

Sinners: kitty, thep, pittaya, fringer, otherside, exteen tag "งานหนังสือ", technorati tag "งานหนังสือ"

ในหูมีเพลง: ...ใจมันขอลุยลุยเข้าไปเราไม่มีถอย คอยจะมัวแต่คอยคงไม่แคล้วคอยเก้อ ก็มีมือตั้งมากมายมาตะกายเราก็กลัวเผลอ เรามันคงไม่เจอส้มหล่น — จนก็จนแต่เจ๋งเป็นนักเลงหัวใจ เราไม่เคยหวั่นไหว ใครจะใช้สตางค์ เงินไม่มีไม่สน ใจไม่จนซะอย่าง จะจริงจังทั้งใจให้เธอ ...

ปิดท้ายด้วยบล็อกโพสต์เมื่อครึ่งปีที่แล้ว โดย anukpn
I am What I am: งานหนังสือ กับข้อสังเกตเล็กๆ

technorati tags: , ,

2008-04-04

WordPress authentication plugin for DokuWiki (updated)

dw-wordpress-auth is an authentication plugin for DokuWiki. It let DokuWiki uses WordPress authentication instead of its own. This brings more integration in your DW+WP site.

This 1.2.3 version (2008-04-04) works with DokuWiki rc2008-03-31 and Wordpress 2.5

Made for Creative Commons Thailand wiki.

dw-wordpress-auth เป็นปลั๊กอินระบบล็อกอินของ DokuWiki โดยมันจะทำให้ DokuWiki ใช้ระบบล็อกอินของ WordPress แทน ทำให้ระบบล็อกอินเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น สำหรับเว็บไซต์ที่ใช้ DokuWiki และ WordPress

รุ่น 1.2.3 (4 เม.ย. 2550) นี้ สำหรับใช้กับ DokuWiki rc2008-03-31 และ Wordpress 2.5

ทำสำหรับใช้กับ วิกิครีเอทีฟคอมมอนส์ไทย

Download/ดาวน์โหลด: dw-wordpress-auth-1.2.3.tgz

For other versions/รุ่นอื่น ๆ: http://arthit.googlepages.com/bazaar


Version History

1.2.3 (04/04/2008)
  • Fix magic quotes double-kill bug, by checking MAGIC_QUOTES_STRIPPED flag. Code by Jan Wessely http://jawe.net/files/dokuwiki_wordpress/wordpress.class.phps
  • Modify DW's html_login() in inc/html.php to make DW's login form send login data to WP's wp-login.php instead (modified html.php is included, copy it to inc/). If you want the original form back, just remove the code block between "START dw-wordpress-auth plugin" and "END dw-wordpress-auth plugin". Then uncommented the following original code block.
1.2.2 (03/04/2008)
  • Modified to make it works with WP 2.5 and DW rc2008-03-31.
  • Updated code to use WP's get_currentuserinfo(), instead of deprecated wp_get_cookie_login(), as suggested by Jan Wessely http://jawe.net/2008/04/01/wordpress-upgrade/
  • Modify DW's default template's main.php to make its login button points to WP's login screen instead (modified main.php is included, copy it to lib/tpl/default/). If you want the original login button back, just remove the code block between "START dw-wordpress-auth plugin" and "END dw-wordpress-auth plugin". Then uncommented the original code line: tpl_button('login')
1.2.1 (06/11/2007)
  • Modified to make it works with WP 2.3.0 and DW 2007-06-26b.
  • Update code to use WP's do_action_ref_array, instead of do_action.
  • Swap the order to of user logged in status checking. Check for WP's cookie first, then check for DW's login form. Also if the WP's cookie is ok, don't bother checking for DW's login.
  • Remove RoleID from 'addUser' query (don't know it was for, but it doesn't match the number of values to be inserted)
  • Disabled unrecommended queries related to add/updateUser, DW will handle this smartly by hidding related buttons from its web interface as well (cool).
1.2 (10/10/2006)

Any issue should be reported to art # siit.net. Thank you :)

updated 2008.04.04 19:20 ICT: correct typo “use WP's wp_get_cookie_login(), instead of get_currentuserinfo()” to “use WP's get_currentuserinfo(), instead of deprecated wp_get_cookie_login()”. Thanks Jan Wessely :)

technorati tags: , , ,

2008-03-31

my (physical) desktop

my desktop - 4 Jan 2008
“โต๊ะทำงาน” หลังปีใหม่ไม่นาน (คลิกรูปเพื่อดูโน๊ต)

my desktop, new year's week

อยากให้มันโล่ง ๆ กว่านี้หน่อย แต่มันต้องใช้พลังงานมากเลยถ้าจะทำงั้น ตู้เต็มหมดแล้ว ใต้โต๊ะยังมีหนังสือกับพวกโปสการ์ด (หยิบฟรี) กอง ๆ อยู่ด้วย
(ถ้าคอมเล็กกว่านี้ ก็จะมีที่ให้รกเยอะกว่านี้ อิอิ)

อยากดูของคนอื่นมั่ง - post yours in your blog at put the link below! :)

technorati tags: ,

2008-03-26

flooded Planet (global warming!)

พี่เทพเตือนมาเรื่องการอัพเดทโพสต์เก่า ซึ่งจะทำให้โพสต์นั้นจะกลับไปแสดงในหน้า Planet TLWG อีกรอบ และถ้าโพสต์มันยาว (หรือมีหลาย ๆ อันต่อ ๆ กัน) ก็เท่ากับเป็นการ flood พลาเน็ตไปเลย

ต้องขอโทษทุกคนที่อ่าน Planet TLWG ด้วยนะครับ จะพยายามอัพเดทโพสต์เก่าให้น้อยที่สุด - โดยปกติแล้วการอัพเดทโพสต์เก่าของผม จะเป็นสองลักษณะ คือ

  1. จะเป็นการแก้คำผิด หรือลิงก์ที่ตายแล้ว (แทนด้วยลิงก์ใหม่ หรือแคช) หรือเพิ่มเติมลิงก์หรือ tag/label ที่เกี่ยวข้อง พวกนี้ส่วนใหญ่เป็นกรณีโพสต์ที่นานแล้ว แล้วบังเอิญกลับไปเจอ (เช่นมีความเห็นใหม่เข้ามา ทำให้ได้มีโอกาสไปอ่านอีกรอบ)
  2. อีกลักษณะคือ เพิ่มเติมตัวอย่างหรือคำอธิบายให้ชัดเจนขึ้น (แต่ไม่ได้มีประเด็นใหม่อะไรเพิ่มเติม จึงไม่โพสต์เป็นอันใหม่) พวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโพสต์ที่ไม่ค่อยนานนัก บางทีก็ภายใน 5 นาที หรือวันสองวัน ประมาณนี้

แต่ไม่ว่าจะเป็นลักษณะไหน ก็จะก่อปัญหา flood เหมือน ๆ กัน (จะเว้นก็แต่กรณีอัพเดทหลังจากโพสต์ทีแรกไปแล้วในเวลาสั้น ๆ อันนี้อาจจะรอด เพราะพลาเน็ตยังไม่ได้ดูดไป หรือดูดไปแล้ว แต่เผอิญยังไม่มีโพสต์จากคนอื่นตามมา - อันนี้ไม่ได้แปลว่าไม่ได้ก่อปัญหานะครับ มันก่อปัญหาเหมือนกัน แค่ปัญหามันไม่ได้ถูกมองเห็นเท่านั้น)

ทางออกสำหรับเรื่องนี้ ที่ผมคิดออกตอนนี้มีสองอย่าง คือ

  1. เลือก feed ตามป้าย (label) ซึ่งผมใช้วิธีนี้กับ Planet Ubuntu Club โดยจะ feed ไปที่นั่นเฉพาะโพสต์ที่มีป้าย “Ubuntu” เท่านั้น วิธีนี้แก้ปัญหาในลักษณะที่ว่า ลดจำนวนโพสต์ที่ไปโผล่ในพลาเน็ตให้น้อยลง เมื่อโพสต์น้อยลง โอกาสที่จะ flood พลาเน็ตมันก็น้อยลงตามไปด้วย (แม้ตามจริงแล้ว หากมีการอัพเดทอะไรไป มันก็จะยังไปกลับขึ้นไปที่พลาเน็ตอยู่ดี ถ้าเกิดโพสต์นั้นมีป้ายที่กำหนดด้วย - แต่จำนวนก็จะน้อยลง)
  2. อัพเดทให้น้อยลง หรือไม่อัพเดทเลยหลังจากโพสต์ อันนี้เป็นวิธีที่ชัวร์ที่สุด แต่ก็มีโอกาสจะพลาดมากกว่าวิธีแรก ถ้าคนโพสต์ยังไม่ระวังเหมือนเดิม

วิธีแรกนั้นเป็นการแก้ทางเทคนิค ทำทีเดียวจบ ซึ่งดูง่ายดี แต่พอลอง ๆ ดูแล้ว ก็พบว่าไม่ค่อยเวิร์กสำหรับกรณี Planet TLWG เท่าไหร่ เพราะโอเปอเรเตอร์สำหรับการเลือกป้ายนั้น มีแต่ AND ไม่มี OR ซึ่งแปลว่าถ้าผมอยากจะได้โพสต์ที่ติดป้ายอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไปนี้ “programming”, “Linux”, “free software movement”, “Ubuntu”, “Fedora” พร้อมกัน ก็ไม่สามารถทำได้ (ผมเข้าใจเอาเองว่า Planet TLWG มีขอบเขตความสนใจที่กว้างกว่า Planet Ubuntu Club จากการอ่านโพสต์ของเพื่อน ๆ ร่วม “ดาวเคราะห์” ใบนี้) ทางแก้ ซิกแซก ที่ทำได้คือ เพิ่มป้ายขึ้นมาใหม่อันหนึ่งเป็นการเฉพาะ เช่นให้ชื่อว่า “Planet-TLWG” แล้วโพสต์ไหนที่ผมอยากให้เข้า Planet ก็ติดป้ายที่ว่านี้เข้าไปซะ (ซึ่งเรื่องการตัดสินใจว่า แล้วโพสต์ไหนจะติดป้ายนี้ล่ะ? ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง แต่ขอข้ามไป) แต่ก็อย่างที่บอกไปตอนต้น การติดป้ายนี้ มันก็ยังไม่ใช่การแก้ที่ตัวปัญหาอยู่ดี เป็นเพียงแต่การเลี่ยงเท่านั้น

ส่วนทางที่สอง ก็คือ ผมควรจะต้องรอบคอบถี่ถ้วนมากขึ้นก่อนจะโพสต์อะไรลงไป คือเอาให้ชัวร์ก่อน ดูให้ครบก่อน แล้วค่อยโพสต์ จะได้ไม่ต้องมาอัพเดททีหลังบ่อย ๆ (ซึ่งจะทำให้เกิดการ flood) — ซึ่งการมาอัพเดทหรือแก้ไขอะไรบ่อย ๆ จริง ๆ แล้วอาจจะผิดธรรมชาติไปหน่อยสำหรับบล็อก ที่ควรจะเป็นงานที่ “สด” ไม่ใช่งานที่มีการแก้ไข (edit) บ่อย ๆ (ที่ผ่านมา ผมจะเขียนในลักษณะค่อย ๆ เพิ่มเนื้อหาเข้าไป คือบางครั้งจะรีบ ๆ โพสต์ไปก่อน เป็นโครง ๆ ประเด็นที่อยากจะเขียน แล้ว publish ไปก่อน จากนั้นก็ค่อยกลับมาจัดหน้า เติมลิงก์ เพิ่มคำอธิบายในครั้งต่อ ๆ มา - แต่เพิ่งรู้จริง ๆ ว่า การเพิ่ม label จากหน้าคอนโทรลพาเนล นี่มันเท่ากับอัพเดทโพสต์ด้วย — ลองค้นเรื่องนี้เมื่อสักครู่ ก็พบว่า พี่เทพได้เตือนเรื่อง label นี้เอาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว แต่ผมดันไม่ได้อ่านซะนี่)

ในตอนนี้ผมจะเลือกทางที่สองดู เป็นการฝึกตัวเองไปด้วย โดยโพสต์ไหนที่มีความจำเป็นจะต้องอัพเดทจริง ๆ ก็จะทำการเน้นข้อความ หรือเขียนให้เห็นเด่นชัด ว่ามีการอัพเดทแก้ไขตรงไหนไป เพื่อความอ่านง่าย (ตามที่พี่เทพได้แนะนำมา และผมก็เคยเห็นบล็อกคนรู้จักหลายคนทำ แต่ผมเองที่ผ่านมาก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง) ซึ่งรวมถึงเรื่อง label ด้วย ที่จะติดให้เรียบร้อยให้หมดก่อน

อย่างไรก็ตาม หากผู้ดูแลหรือผู้อ่าน Planet TLWG (รวมถึง Ubuntu Club ด้วย) เห็นว่ายังมีอาการลักษณะ flood อยู่อีก ก็ขอให้พิจารณาตัด feed บล็อกนี้ออกจากพลาเน็ตได้ทันที จนกว่าผมจะแก้ไขให้แน่ใจได้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีก เพื่อเป็นการไม่ไปรบกวรผู้อ่านพลาเน็ตครับ – ขอบคุณมากครับ

technorati tags: , ,

Rethinking Cultural Studies

The 7th Annual Conference of Anthropology:
“Rethinking Cultural Studies”
26-28 March 2008 at Sirindhorn Anthopology Centre, Bangkok, Thailand

การประชุมประจำปีทางมานุษยวิทยาครั้งที่ 7
“ยกเครื่องเรื่องวัฒนธรรมศึกษา”
26-28 มีนาคม 2551 ณ หอประชุมศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร กรุงเทพ

การประชุมประจำปีทางมานุษยวิทยา ครั้งที่ 7 จะเน้นที่การศึกษาศิลปวัฒนธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่กว้างขวางมาก เนื่องจากคำว่า วัฒนธรรม เป็นคำและมโนทัศน์ที่ใช้กันทั้งในวงการวิชาการ ทั้งสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ในวงราชการ สื่อ และในชีวิตประจำวัน ทำให้มีปริมณฑลของความหมายที่หลากหลาย ซ้อนทับกันบ้าง ขัดแย้งกันบ้าง และปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา

ในการประชุมครั้งนี้ เราจะเริ่มด้วยสิ่งที่เรียกว่า “วัฒนธรรมศึกษา” ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นหลักสูตรที่เปิดกันอย่างครึกโครมในสถาบันการศึกษาในประเทศไทย เรียกได้ว่าเป็น สาขาใหม่ ที่ “ดึงดูดลูกค้า” ได้อย่างกว้างขวาง

ดูกำหนดการแล้ว ที่เล็ง ๆ ไว้ก็มี: ความเข้าใจ “วัฒนธรรม” ในงานวิจัยสังคมไทย (อานันท์ กาญจนพันธุ์), วัฒนธรรมศึกษาฉบับไทย ๆ เป็นวัฒนธรรมศึกษา หรือการศึกษาวัฒนธรรม (ฐิรวุฒิ เสนาคำ), เมื่อมานุษยวิทยาพบกับวัฒนธรรมศึกษา : สัมพันธภาพที่น่ากระวนกระวาย (ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี), สถานภาพองค์ความรู้สถาปัตยกรรมไทย การสำรวจเชิงวิพากษ์ (ชาตรี ประกิตนนทการ — คนนี้ผมชอบ), มองประวัติศาสตร์ไทยในเชิงวัฒนธรรม (ธีระ นุชเปี่ยม), วัฒนธรรมข้ามพรมแดน (รัตนา โตสกุล), วัฒนธรรมศึกษาในประเทศอังกฤษ : จากซ้ายใหม่ถึงสจ๊วต ฮอลล์ (วสันต์ ปัญญาแก้ว), ความโกลาหลของวัฒนธรรมศึกษา (เกษม เพ็ญภินันท์), ได้อะไรบ้างจากเนื้อหาการประชุม (สายพิณ ศุพุทธมงคล, ยุกติ มุกดาวิจิตร) — ดาวน์โหลดบทคัดย่อ

เล็งไว้เยอะ ไม่รู้จะได้ฟังจริงแค่ไหน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า ผมจะปั่นเปเปอร์ที่ต้องส่ง 30 นี้ ได้เร็วแค่ไหนด้วยอ่ะนะ อยากส่งอ่ะ - -"

หมายเหตุ - แจ้งข่าว ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ผมจะกลับไปเป็นนักเรียน (ในระบบ) อีกครั้ง สาขาที่เรียนก็คือ มานุษยวิทยา นี่แหละ ความตั้งใจก็คือ อยากจะศึกษาวัฒนธรรมออนไลน์ อะไรทำนองนี้ — ตอนสัมภาษณ์ เขาให้เล่าสิ่งที่ตัวเองสนใจ แล้วกรรมการคนหนึ่งก็บอกว่า เอ แล้วทำไมไม่ไปเรียนนิเทศ/วารสาร น่าจะตรงกว่า ผมก็ตอบไม่ถูก :P ได้แต่รู้สึกว่า นอกเหนือจากการสื่อสารแล้ว มันยังมีสิ่งที่อยู่รอบ ๆ อีกสิ ก็บอกเขาไปตามนั้น ประมาณว่า ยังไม่รู้ ก็เลยอยากมาเรียนน่ะครับ — สุดท้ายก็ผ่านมาได้ทั้งข้อเขียนและสัมภาษณ์ ด้วยคะแนนในระดับที่พี่เลขาหลักสูตรบอกว่า “คอนเซปท์คุณไม่ได้เรื่องเลยนะ” แงว.. ซึ่งก็ทำนองเดียวกับที่กรรมการอีกคนหนึ่งบอกไว้ตอนสัมภาษณ์ว่า “ถ้าคุณจะเรียน คุณต้องปรับวิธีคิดใหม่ ปรับวิธีพูดใหม่” เหะ ๆ - พี่เลขาทิ้งท้ายไว้ว่า “สงสัยอาจารย์เค้าคงอยากสู้กับคุณ” อ่ะจ๊าก~ - -" — สุดท้ายแล้ววันที่ไปรายงานตัว พี่เขาก็แนะนำให้นักศึกษาใหม่ทุกคน ไปงานประชุมที่ว่าข้างบน ดังนี้เอง (ซึ่งผมก็อยากไปอยู่แล้วแหละ แต่นี่ก็เหมือนเป็นอีกแรงถีบกระตุ้น)

หลายคนรู้ข่าวนี้ (ตั้งแต่ตอนสมัครจนถึงประกาศผลแล้ว) ก็ถามผมว่า เอ๊ะ ทำไมไปเรียนโทอีกใบ ก็อยากรู้ว่ามันเป็นยังไงน่ะ น่าจะเอาอะไรมาใช้ได้บ้างสิ ไอที + มานุษยวิทยา เนี่ย... ไมเคิล โบเวนส์ เป็นนักมานุษยวิทยาคนแรก ๆ ที่ผมรู้จัก เขาคนเดียวกันนี้เคยทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านสารสนเทศ เป็นผู้จัดการศูนย์สารสนเทศ สอนวิชามานุษยาวิทยาสังคมดิจิทัล และก่อตั้งกลุ่มศึกษาทฤษฎี peer-to-peer เมื่อตอนผมกลับมาบ้านเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว ไปเชียงใหม่ครั้งแรก ก็ได้ไปเจอเขา นั่งคุยกัน (และทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องที่ไปเจอเขาครั้งแรกนี้ ผมก็จะนึกถึงโดยอัตโนมัติว่า มีคนข้าง ๆ เหยียบเท้าผม เพื่อเร่งให้จบการสนทนาซะที) ไปครั้งล่าสุดเมื่อเกือบหนึ่งปีที่แล้ว ก็ได้ไปอาศัยบ้านเขานอน แถมมอเตอร์ไซด์ให้ขี่ด้วย และได้รู้เรื่อง KaosPilot ก็ครั้งนี้แหละ ...เห็นแบบนี้แล้ว ผมเลยมั่นใจว่า มันต้องเกี่ยวได้ดี๊ (ง่ายมั๊ย) :P

แถม: วันนี้ (26 มี.ค.) เป็น “วันเสรีภาพเอกสาร” Document Freedom Day ครับ

technorati tags: , ,

2008-03-06

my del.icio.us

my online bookmarks: http://del.icio.us/arthit
if you found it relevant, add me to your network, and start sharing! -- thx ;)

my most recent one:
First Monday: Critical Perspectives on Web 2.0

technorati tags: