ย้ายบล็อกไปที่ bact.cc แล้วนะครับ

พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
หยุด ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ ฟรี 2GB จาก Dropbox (sync กับ Windows, Linux, Mac, iPhone, Android ฯลฯ ได้)
Showing posts with label life. Show all posts
Showing posts with label life. Show all posts

2011-03-19

เราเป็นเพียงคนหนึ่งคนที่เพิ่งกลับจากกินเหล้า และตอนนี้เวลาตีสี่

ใช่ ๆ มันเป็นความสูญเสียที่สะเทือนใจ และเราไม่ปฏิเสธว่าเราก็ร้องไห้กับมัน เมื่ออ่านข้อเขียนเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมนี้ ด้วยใจมันโยงถึงกันได้ สึนามิที่ญี่ปุ่น

ไม่ต่างอะไรกับเมื่อช่วงปีใหม่ของปี 2007 เราอยู่บนรถไฟฟ้าบีทีเอส วิ่งผ่านอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ข้างนอกมืด และเงียบ บรรยากาศหลังสีนามิที่ภาคใต้ของไทย มันเงียบจริง ๆ

แต่ในขณะที่เราสะเทือนใจกับชีวิตที่ถูกคร่าด้วยปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ในที่ไกลออกไป เราเอาหัวใจดวงเดียวกันไปไว้ตรงไหน สำหรับชีวิตที่ถูกคร่าด้วยมือมนุษย์ด้วยกัน ในถนนที่เราเคยเดินเล่น หย่อนใจ ชอปปิ้ง เราใช้ชีวิตจำนวนมากมายที่สยามสแควร์

เราควบคุมธรรมชาติไม่ได้ ความสะเทือนใจนั้นจึงไม่มีพันธนาการของความจะต้องรู้สึกว่าเรามีส่วนร่วมกับการทำให้มันเกิด

ภาพในภาพยนตร์มักสวยงามและตรึงใจเราเสมอ จินตนาการที่หลุดไปจากความรับผิดชอบของตัวเรา ต่างจากชีวิตที่เราต้องสัมผัสตรง ประดักประเดิดที่จะต้องเมกเซนส์กับมัน และฝืนทนอย่างเสียไม่ได้ว่าเรามีส่วนร่วมกับสิ่งตรงหน้า

เราคิดว่าเรามีความสุขดี

เราอยากจะคิดอย่างนั้น

technorati tags: ,

2011-01-02

My Moving Moving 2010 in Moving Pictures

ภาพเคลื่อนไหวจาก 2553 ปีแห่งการ เคลื่อนที่ ของผม

ปีที่ผ่านมา ถ่ายรูป ถ่ายวีดิโอ อัดเสียง ไว้เยอะมาก จากงานต่าง ๆ ที่โน่นนี่ รวมทั้งบนท้องถนน แต่ก็เป็นลักษณะถ่ายเก็บ ๆ เสียส่วนมาก คือเก็บเข้ากรุไปเลย ไม่ได้ดู ไม่ได้เอามาทำอะไรเท่าไหร่นัก เหมือนว่าในโลกแห่งสื่อดิจิทัล ที่การบันทึกมันทำได้ง่าย ได้เร็ว ได้ถูก เราก็เอาแต่บันทึก แต่ไม่ค่อยได้กลับมาย่อยของพวกนี้เข้าหัวเท่าไหร่

ช่วงสัปดาห์ท้ายปี คาบเกี่ยวปีใหม่ มีโอกาสถอดเทปของที่ค้างไว้ (จากงาน Open Data - ยังมีค้างอยู่สองคน) แล้วก็มาตัดต่อวีดิโอจากปาร์ตี้ จากงาน และจากเรียน วันนี้คิดว่าน่าจะโพสต์ ๆ รวมไว้เสียหน่อย รวมถึงวีดิโออื่น ๆ ในปีที่ผ่านมาด้วย (ยังมีของค้างจาก Mekong ICT Camp 2 ที่รอเพื่อนตัดอยู่ ชุดนั้นเยอะมาก)

วีดิโอคลิปส่วนมาก ถ่ายจาก Kodak PlaySport Zx3 (ใช้สนุกดี) และ Canon PowerShot G10 แล้วเอามาตัดต่อด้วยโปรแกรม iMovie '09 เป็นโปรแกรมใช้ได้คล่องมือแล้วพอสมควร

เหล่านี้คือ ภาพ/ภาพ จาก สายตา/สายตา ของผม



กึ่ง/สาระ/รูป : พื้นที่ กลาง ๆ กับ ชุมชน มหาวิทยาลัย (เวิร์กช็อปการทำสารคดี มานุษยวิทยาสถาปัตยกรรม ศิลปากร; 2010.12.22) ↓↓↓



ปาร์ตี้ แบบพอเป็นพิธี - Happy New Year เบา เบา (เฮฮากับนักเรียนมานุษยวิทยา; 2010.12.21) ↓↓↓



ปัตย์ ศรีอรุณ : คน เมือง พื้นที่ออนไลน์ (ออนไลน์ศึกษา เน็ตติเซ่นมาราธอน 2553; 2010.11.23) ↓↓↓



I say something (ร้องเพลงบนถนน Ximending ไทเป; 2010.10.28) ↓↓↓



Sean Ang: Social Media, Democracy, and Asian Values (ผู้อำนวยการ Southeast Asian Centre for e-Media (SEACeM) @ Internet Governance Forum ครั้งที่ 10; 2010.09.xx) ↓↓↓



Internet Governance and Human Rights: Frank La Rue (ผู้รายงานพิเศษว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิในเสรีภาพในการแสดงออก แห่งองค์การสหประชาชาติ @ IGF10; 2010.09.13) ↓↓↓



Internet Governance and Human Rights: Anriette Esterhuysen (ผู้อำนวยการบริหาร Association for Progressive Communications (APC) @ IGF10; 2010.09.13) ↓↓↓



ปอกมะม่วง แบบบันดุง Mango crafting - Bandung fruit cart (บันดุง อินโดนีเซีย; 2010.07.xx) ↓↓↓



@pruet โชว์น้ำจิ้ม ถก e-read #BarCampCM (บาร์แคมป์เชียงใหม่ 3; 2010.06.12) ↓↓↓



วิธีดูช่อง 11 NBT เพื่อความสมานฉันท์ (anti-propaganda; 2010.03.22) ↓↓↓



มีอีก ที่ arthittube

2553 เป็นปีที่มีอะไรเกิดขึ้นเยอะแยะเยอะแยะ ทั้งกับสังคมรอบตัวที่ผมต้องอยู่กับมันหรือผ่านไปเจอมัน โดยเฉพาะในมิติการเมือง ซึ่งแน่นอนว่ามันก็ทำให้เกิดอะไรขึ้นกับตัวผมเยอะแยะเช่นกัน แล้วก็ใช่ว่าจะรับมือกับทุกเรื่องได้ดี บางเรื่องที่มีโอกาสจะได้ทำ ก็ทำไม่ไหวซะอย่างนั้น คือมันเยอะจัด แทรกเข้ามา พุ่งเข้ามา

2554 นี่ หลัก ๆ ก็คงจะเน้นไปที่วิทยานิพนธ์ กับเรื่องเกี่ยวข้อง เช่น ข่าว การเปิดข้อมูลภาคสาธารณะ อะไรแบบนี้แหละ เอาให้มันจบ ๆ ซะที

สวัสดีปีใหม่ทุกคน (แฟนคลับด้วย :p)

technorati tags: , ,

2010-12-07

ปริศนาไขกระจ่าง: ทำไมหน้าเป็นผื่น-แห้ง?

เมื่อวานไปหาหมอผิวหนังที่โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ตรงสาทร

คือผิวตรงหน้า รอบ ๆ จมูกและมุมปาก มันแห้งมาก ลอกเป็นขุย ๆ และเป็นผื่นแดง เป็น ๆ หาย ๆ มานานมากแล้ว ไปหาหมอพวกคลีนิคผิวหนัง-สิว มาทีนึง ก็หายไปพักนึง แล้วก็เป็นใหม่ ก็เลยคิดว่า ช่างมันเหอะ ปล่อยไปงี้แหละ (แต่เวลามันแห้งมาก ๆ แล้วผิวแตกนี่ โคตรเจ็บอ่ะ)

เข้าไปนั่งในห้องหมอยังไม่ทันทำไร คำถามแรกที่หมอถามก็คือ นอนดึกใช่มั๊ย?

ช็อค แหงะ รู้ได้ไง

ดูหน้าก็รู้แล้ว มีผื่น มีรอยโค้งๆ ตรงนี้
อย่านอนดึก อย่ากินเหล้า เดี๋ยวก็หาย
แต่เดี๋ยวมันก็เป็นใหม่นะ ไม่ต้องห่วง เป็น ๆ หาย ๆ ไปงี้แหละ อีกหลายร้อยครั้ง

แล้วหมอก็สั่งยาให้ มีสบู่ล้างหน้า (Physiogel ไปซื้อตามร้านอย่าง Boots เองก็มี) กะยาฆ่าเชื้อราสองเม็ด กินสัปดาห์ละเม็ด ส่วนครีมทาหน้าบรรเทาอาการแพ้-ผื่น พอบอกหมอไปว่ามีแล้ว หมอก็เลยถามว่าเป็นครีมอะไร
T.A. อะไรซักอย่างน่ะครับ เมื่อวานเพิ่งได้มา ทาไปครั้งเดียว มันโอไหมหมอ
ได้ ๆ ตัวนั้นใช้ได้ ถ้าหายเมื่อไหร่ก็หยุดทา มันมีสเตรียรอยด์น่ะ
หมอก็เลยขีดฆ่าครีมทาหน้าออกจากใบสั่งยา
ถ้ามีแล้วก็ไม่ต้องเอาไปอีก

ด้วยความสงสัยว่ามันเรียกว่าอะไร เลยถามให้พยาบาลเขียนชื่อโรคมาให้
มันเรียกว่า Seborrhoeic dermatitis หรือ โรคผื่นไขมันอักเสบ เรียกย่อ ๆ ว่า Sebderm

อ่านดูในวิกิพีเดีย ประมาณว่าเกี่ยวกับเชื้อราและยีสต์ที่อาศัยอยู่บนผิวหน้าของคน สิ่งมีชีวิตพวกนี้ปกติก็อยู่ร่วมกับคนไม่มีอันตรายอะไร แต่เมื่อไหร่ที่ภูมิต้านทานเราตก พวกนี้มันก็จะโตเกินปกติ อะไรแนว ๆ นี้ (อ่านในวิกิพีเดียแล้วมันดูซับซ้อนมาก และสาเหตุที่แท้จริงก็ยังไม่มีใครรู้ ที่รู้ตอนนี้เป็นเพียงการคาดเดา เกี่ยวกะเรื่องเครียดเรื่องอะไรด้วย ก็ว่าไป)

ภูมิต้านทานเราจะต่ำ เวลาอดนอน (ต้องนอนตอนกลางคืนด้วย นอนตอนกลางวันก็ไม่ได้) กินเหล้า อะไรแนว ๆ นี้ (เมื่อก่อนตอนที่เป็นงูสวัด ก็เหตุเดียวกัน ตอนนั้นหมอถามด้วยว่าเที่ยวผู้หญิงไหม เพราะถ้าเป็น HIV ก็ทำให้ภูมิต้านทานต่ำเหมือนกัน ตอนนั้นนอกจากยาฆ่าไวรัสที่หมอจ่ายมาแล้ว ยังให้กินวิตามินบีด้วย แนวว่าจะช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิ)

ใครไม่อยากจะเป็น มันก็มีวิธีป้องกันอยู่ ลองค้นจากเน็ต เลือกเอาอันที่สั้น ๆ และไม่จู้จี้จนเกินไป (แปลว่าพอจะปฏิบัติได้) เช่น

ความรุนแรงของ seborrheic dermatitis สามารถลดได้โดยการควบคุมปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ความเครียด ความอ่อนล้า การเปลี่ยนแปลงของอากาศ การปล่อยให้ผิวมัน การใช้แชมพูหรือโฟมล้างหน้าบ่อย การใช้โลชั่นที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ การมีสิว และภาวะอ้วน

นายแพทย์กฤษณะ สุวรรณภูมิ

พยาบาลบอกไม่ให้กินหวานด้วย มันจะทำให้ยีสต์โต​ ง่ะ เหล้าเบียร์ก็อด โค้ก เยลลี่ แหงะ อดอีก

เราสังเกตได้ว่า เวลานอนดึก ทำงานติดต่อกันดึก ร่างกายจะร้อนด้วย แล้วหน้าก็จะมัน ๆ ไขมันนี่ดูจะเกี่ยวข้องกะการเกิดโรคด้วย

คนอื่น ๆ ที่เขาเป็นกัน ก็ประมาณนี้แฮะ นอนดึก

สรุปว่า อย่าเครียด อย่าอดนอน อะไรแนว ๆ นี้ แล้วมันก็จะดีเอง

ใช่ จริง ๆ แล้วต้องขอบคุณโรคพวกนี้นะ มันเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกาย ว่าเธอใช้ฉันมากเกินไปแล้วนะ ให้ฉันพักได้แล้ว พยาบาลบอก

technorati tags: , ,

2010-03-16

We're Different, We're the Same.

ถ่ายตัวเราเอง

ผมออกไปถ่ายรูปคนเสื้อแดงสามวันมานี้
ไม่ได้ตั้งใจออกไปถ่ายอะไรเป็นพิเศษ

แต่พอเอารูปมาดู ๆ ก็คิดว่ามันคงมีประเด็นไม่กี่อย่าง

ผมถ่ายภาพคนกิน คนนอน คนเฮฮา ร้องเพลง เต้นรำ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์จนถึงที่ขับถ่าย กิจกรรมต่าง ๆ ที่มนุษย์ทำ
ความหมายไม่มีอะไรไปกว่า นี่ พวกเขาก็เป็นมนุษย์

ผมถ่ายภาพป้ายข้อความต่าง ๆ
นี่คือสิ่งที่เขาต้องการสื่อสาร ความอัดอั้นตันใจ
เราจะเห็นด้วยหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ แต่เราเคยได้ยินมาก่อนบ้างไหม
ในทีวีวิทยุที่รัฐครอบนำ ข่าวสารในช่วงนี้มีแต่เรื่องจราจร เรื่องควบคุมชุมนุม
แล้วเรื่องที่คนเหล่านี้ อาจไม่ใช่แกนนำ แต่เป็นกลุ่มเล็ก ๆ ต้องการพูด หายไปไหน
ผมถ่ายป้ายพวกนี้ เผื่อจะมีคนได้เห็นมากขึ้น

แค่การไปเดินในกลุ่มผู้ชุมนุมแบบผ่าน ๆ
ได้คุยกับผู้ชุมนุมไม่กี่คน
คงไม่อาจทำให้ผมเข้าใจอะไรพวกเขาขึ้นมาได้เสียเท่าไหร่
ความเป็นอยู่ ความเดือดร้อน ความต้องการ
ผมไม่สามารถเคลมได้ว่าผมรู้อะไรเพิ่มขึ้นในสิ่งเหล่านั้น

ผมรู้ก็แค่ว่า พวกเราทั้งหมดเหมือนกัน

คนเหมือนกัน


มันส์เหมือนกัน


ไม่ขายเหมือนกัน


ถ่ายเหมือนกัน


ตีพิมพ์ครั้งแรกใน Facebook: ถ่ายตัวเราเอง

มุมมองจากชาวต่างชาติผู้อยู่ใกล้ชิดกับ 'เสื้อแดง'

technorati tags: , ,

2008-04-21

Bangkok Middle Class Freeze

Joined Bangkok Freeze yesterday. Mixed feeling.

วันนี้ (เมื่อวานนี้) ไปดู Freeze กับเขามาด้วย อันที่มาบุญครองนี่ ได้ดูตอนท้าย ๆ ส่วนที่พารากอน ก็เดินไปทำเนียน ๆ เป็นนักท่องเที่ยวกำลังถ่ายรูปชาวบ้านที่กำลังแข็งอยู่ ถ่ายไปถ่ายมา ตัวเองก็แข็งไปด้วยซะงั้น (ทำหยั่งกะมันเป็นโรคติดต่อ)

เจอพี่ยุ้ย พิท ฮันท์ และคนรู้จักหรือเพื่อนของคนรู้จักอีกจำนวนหนึ่ง ได้เจอ GX-100 อีกตัวแล้ว พร้อมวิวไฟน์เดอร์ด้วย กิเลสพุ่ง

ไปกิน Holy Pizza ไม่อร่อยเหมือนที่เดือนที่แล้วกิน สั่งคนละอย่างด้วยแหละ รู้งี้กินพิซซ่าดีกว่า

โค้กไม่มี รับเป็ปซี่ได้มั๊ยคะ ... โอ้ว แต่ว่า กระเทียมจีน กระเทียมไทย คนยังไม่ได้แยกกัน กระเทียมมันก็เหมือน ๆ กันหมด เป็นงั้น

ลิซ่าโทรมาบอกว่ามีอีกรอบนะที่พารากอน ไว้เจอกัน แต่ก็ไม่ได้เจอ (พี่ยุ้ยก็เท็กซ์มา thx) เหมือนจะมีหลายคนจำเขาได้ ที่ไปกันทั้งบ้านน่ะ พ่อแม่ลูก ดูท่าจะอารมณ์ศิลปินกันทั้งบ้าน เจอพี่ด็อกนั่งอยู่หน้าน้ำพุ

นอกจากแข็งแล้ว ก็อยากเห็น flash mob ทำนอง street art/performance อะไรแบบนี้อีก ใครมีไอเดียอะไร ก็ช่วยผลิตกันออกมาเยอะ ๆ ด้วยเน้อ — พวกคนขับรถเขาจะได้อิจฉามั่ง ที่ไม่ได้เดินถนน :P ... แต่ก็อ่ะนะ ทางเท้าจริง ๆ เราก็คงไม่ค่อยมีให้ทำหรอก มีแต่ทางเดินระหว่างห้าง กะสกายวอล์กให้เดินล่ะมั้งเนี่ย ย่านการค้าธุรกิจกรุงเทพ ... บีทีเอสนี่มันทำลายล้างจริง ๆ ...

เวลาคนไทยยืนขึ้นทั้งโรงหนัง ตัวนิ่ง ฝรั่งมันจะนึกว่าเล่น freeze อยู่รึเปล่านะ ? เล่นบ่อยจัง

วิ่งจาก freeze ไปดู Love in the Time of Cholera คนข้างหน้าไม่ยืน ตำรวจไม่เห็นไปจับ (หนังชื่อไทยว่า “รักนะ จู๊ด จู๊ด”)

ใครจะช่วยทดสอบ Firefox ภาษาไทย build 302 สำหรับ GNU/Linux ออกมาแล้ว

Twaiku คือ ไฮกุ บน twitter

รูปฟรีซ วิดีโอคลิป ลองหาดูตามเว็บล็อกต่าง ๆ ครับ ถ่ายกันไว้เยอะมาก fukduk.tv บอกว่าจะรวม ๆ ให้ดูด้วย ใครมีเด็ด ๆ ลองส่งไป หรือจริง ๆ ทำเองก็ได้ ก็อัพขึ้น YouTube ไปซะ (เขาบล็อคก็ไม่ต้องไปกลัว) ใส่แท็ก bangkokfreeze และ freezebangkok

เสื้อยืด “ชนชั้นกลาง” หาซื้อได้ที่ข้างทาง ถนนข้าวสาร ทำเองขายเอง ยุเขาให้ทำเว็บไปเลย ขายบนเว็บ แต่ระหว่างนี้ไปเดิน ๆ ดูได้ที่ข้าวสาร ไม่รู้มาวันไหนมั่ง (ไม่รู้จะพูดทำไม - -") ดูจะทำเป็นงานอดิเรก

เอ้าฝึกกันไว้ อารยะขัดขืน ครั้งหน้าเราจะไปฟรีซกันหน้าสภา/ลานพระรูป (เอ้า ฮา...)

หรือในความหมาย “หยุด อย่าขยับ!” พวกเราทุกคนฟรีซ-ถูกปล้นกันไปหมดแล้ว ความเป็นเจ้าของชีวิตตัว (เอ้า ฮา...)

ทำไมเธอไม่ทำ ทำไม / นกร้อง รุ่งเช้ามา / นอนดึกเล่นเน็ต กับตัวเอง

technorati tags: , , , ,

2008-03-02

2 Mar 2008

เมื่อคืนฝันว่า ยืมรถน้องคนเล็กไปมหาลัย จอดไว้ใต้ต้นไม้ พองานเลิกออกมา ปรากฎว่ากระโปรงหน้าถูกทุบมีรอยไหม้ ประตูหน้าถูกปลดด็อก และเครื่องถูกถอดหายไปแล้ว โอ้ว~

สะลึมสะลือเปิดตา เฮ้ย เรานอนกลิ้งมาอยู่ข้าง ๆ น้องคนที่ว่า ตกใจตื่นเลย กลัวมันรู้ว่าเราทำรถมันหาย เอ้ย นี่มันฝันไปนี่หว่า ไม่ใช่!

วันนี้ไปเลือกตั้ง นั่งรถเมล์กลับบ้าน ราคา 3.75 บาท วู้ว~

กานต์ ยืนยง, เมื่อเราถูกสาป ให้จดจำประวัติศาสตร์อย่างกระพร่องกระแพร่ง

วิทยากร บุญเรือง, ขอโทษด้วย ที่ผมเคยไปเลือกทักษิณ!

technorati tags: , ,

2008-02-03

la la la la

เพิ่งกลับจากรับน้องภาค

ไม่ได้ไปมานานมากแล้ว ก่อนหน้านี้ไปทุกปีเลย จนกระทั่งไปเรียนต่อ ก็ไม่ได้ไปอีกเลย

มีพี่ ๆ บัณฑิตไปกันเยอะแยะ ทั้งบัณฑิตสด ๆ และบัณฑิตแก่ ๆ
น้องไอทีรุ่น 12 เรารุ่น 2 พอบอกรุ่นไป ทั้งห้องร้อง หู~~~ ... เสีย self ไปพักนึง

ฝนตกทั้งเช้าทั้งเย็น ก็เลยไม่ค่อยได้ทำอะไรกันเท่าไหร่
วันแรกไปถึงก็เที่ยงคืนกว่า กินเหล้าคุยกันถึงเช้า เรียกน้อง ๆ มา 'รับแสง' ('ประเพณี' ที่เกิดขึ้นอย่างบังเอิญ ๆ จนไม่น่าเชื่อว่ามันจะยังเหลือรอดมาถึงทุกวันนี้ เหมือนกับเกมหลาย ๆ อย่าง ที่เมื่อก่อนเป็นไง เดี๋ยวนี้ก็แทบไม่ต่างไปเท่าไหร่)
ได้นอนตอนเจ็ดโมงกว่า ตื่นมาไม่รู้ตอนไหน เห็นฝนตก ก็เลยนอนต่อ ตื่นอีกทีก็บ่ายสามโน่น อดกินข้าว ต้องรอรอบเย็น

ตอนดึกก็เปิดใจ บายศรีอะไรไปตามเรื่อง (ภาคบังคับ) แล้วก็บาร์บีคิว กินเหล้า (ภาคบังคับกว่า) และเปิดตัว 'octopus' the killer
ร้องเพลงเฮฮาไปเรื่อย แบบว่าหายไปนาน เต็มที่เต็มที่ ซักพักฝนก็ตกอีก ต้องหลบ ๆ มารวมกันอยู่ในเตนท์
อยู่กันจนตีห้าโน่นละมั้ง แล้วก็แยกย้ายกันไปตอนฝนมันซา ๆ อีกรอบ

ตื่นเที่ยง เพราะต้องเช็คเอาท์ ไม่งั้นคงนอนยาวอีก
ตอนลงมากินข้าวต้ม น้องทัก หมดศรัทธาแล้วว่ะพี่ มาดทีเอหายหมด เราบอก เออดี จะได้ขำ ๆ
ถ่ายรูปหมู่ ขึ้นรถ กลับบ้าน

ขากลับฝนตกหนักอีก น้ำท่วมในที่พักมอเตอร์เวย์ สงสารร้านค้าตรงหัว ๆ และท้าย ๆ เพราะน้ำมันท่วมจนปริ่มฟุตบาท ลูกค้าหายหมด ไม่อยากเดินมา พนักงานร้านกาแฟดิโอโร่ยืนมองกระจกออกมาข้างนอกหน้าร้าน ไม่มีลูกค้า เขาน่าจะทำระบบระบายน้ำดี ๆ หน่อย

เหนื่อย ตอนแรกว่าจะไปนอน ๆ ชิล ๆ เพราะอาทิตย์ที่ผ่านมาเหนื่อยมาก ไม่ค่อยได้นอน แต่ก็สนุกดี เป็นการพักผ่อนเหมือนกันล่ะน่า แม้จะโหดไปหน่อย :)

technorati tags: ,

2008-01-26

Dr. Sa-nguan life and thoughts

จากหนังสือ งานกับอุดมคติของชีวิต นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ (หน้า 3-5)

... ผมเข้าร่วมขบวนการกิจกรรมนักศึกษาตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 จนกระทั่งขบวนการกิจกรรมนักศึกษาถูกทำลายในวันที่ 6 ตุลา พ.ศ. 2519 แม้ว่าจะไม่ใช่ประเภทมือไมค์ไฮปาร์ค ซึ่งไม่ใช่สไตล์ของนักศึกษามหิดล แต่เราก็มีรูปแบบกิจกรรมที่ไปเสริมกับนักศึกษามหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในแนวทางของเรา

ที่ผมมองว่าสังคมนักศึกษาขณะนั้นเป็นสังคมอุดมคติ ก็เพราะในขณะนั้นชีวิตนักศึกษาเป็นสังคมรวมหมู่ที่ทุกคนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน โดยมีเป้าหมายอย่างเดียวกันก็คือ การที่จะสร้างสังคมที่เป็นธรรม และก็ทำให้ประเทศชาติเป็นประเทศที่มีความยุติธรรม ประชาชนทุกคนมีศักดิ์ศรี ไม่ถูกทอดทิ้ง

ผมจำได้ว่ารู้สึกรักและนับถือเพื่อนนักศึกษาหลาย ๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่ทุ่มเทชีวิตทั้งกายและใจเพื่อที่จะรับใช้ประชาชน ซึ่งแรงบันดาลใจและตัวอย่างจากคนเหล่านี้ ทำให้ผมมีแนวคิดและมีความฝังใจว่า อยากจะเห็นสังคมรวมหมู่ที่ดีที่ทุกคนแบ่งปันเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน ซึ่งแนวความคิดนี้เป็นฐานคิดที่สำคัญของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ว่า เราจะไม่ปล่อยให้พี่น้องในสังคมเดียวกันนี้ต้องป่วยตายและตายไปโดยไม่ได้รับการดูแลด้วยเหตุว่าเขาไม่มีเงิน

...

เมื่อมีการปราบปรามนักศึกษาผมเองก็มีชื่ออยู่ในบัญชีที่ต้องถูกจับกุมเช่นเดียวกับเพื่อนนักกิจกรรมคนอื่น ๆ อีกหลายคน ในเวลานั้นพวกเราแต่ละคนต้องตัดสินใจเลือกทางชีวิตของตัวเอง ในจำนวนไม่กี่ทางเลือกที่มี ผมตัดสินเลือกที่จะอยู่ต่อสู้ในเมืองต่อไป แม้ว่าต้องหลบซ่อนตัวอยู่ระยะหนึ่งก็ตาม ในขณะที่เพื่อน ๆ จำนวนหนึ่งเลือกที่จะไปจากเมืองเพื่อต่อสู้กับรัฐบาล

...

นอกจากนั้น ความที่ผมไม่ถูกจับ แม้จะมีรายชื่อตามจับของทางการอยู่ ทำให้ผมไม่สามารถจะได้รับพระราชทานปริญญาบัตรต่อหน้าพระพักตร์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การรับปริญญาต่อหน้าพระพักตร์และมีรูปถ่ายไปติดที่บ้าน ถือเป็นค่านิยมของครอบครัวชนชั้นกลางซึ่งเป็นครอบครัวชาวจีน เป็นค่านิยมที่พ่อแม่จะภาคภูมิใจเป็นอันมาก ผมเองอยากจะให้ความภาคภูมิใจกับคุณพ่อคุณแม่ผมมาก และปราถนาอย่างยิ่งที่จะมีโอกาสนั้น ในขณะนั้นผมถูกเรียกไปพบจากอาจารย์ผู้ที่รักและห่วงใยผมมากท่านหนึ่ง คือคณบดีคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี ได้แก่ ศ.นพ. ทวี บุญโชติ ได้แจ้งกับผมว่าทางตำรวจได้แจ้งกับทางมหาวิทยาลัยว่า ผมจะต้องไปมอบตัวเนื่องจากผมเป็นผู้ที่มีรายชื่อว่าทางการตามจับอยู่ จากนั้น ผมก็จะเป็นอิสระ จะไม่มีผู้เฝ้าติดตาม และสามารถไปรับพระราชทานปริญญาต่อหน้าพระพักตร์ได้ นอกจากผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหิดลแล้ว ตำรวจยังส่งผู้บริหารโรงพยาบาลวชิรพยาบาลซึ่งผมทำงานอยู่มาเกลี้ยกล่อมผมด้วย ผมได้แจ้งกับผู้บริหารทั้งจากมหาวิทยาลัยมหิดลและโรงพยาบาลวชิรพยาบาลอย่างสุภาพ แต่ดื้อรั้นว่า ผมไม่ได้ทำอะไรผิด การเคลื่อนไหวของขบวนการนักศึกษาเป็นไปได้ด้วยความหวังดีต่อชาติบ้านเมืองและประชาชน หากทางตำรวจเห็นว่าผมทำผิดและมีหมายจับอยู่ ก็มาจับกุมได้เลย ผมจะไม่หนีไปไหน แต่ผมจะไม่มีทางมอบตัวเด็ดขาด ผมยังได้บอกไปอีกว่า หากให้เลือกใหม่ได้ ผมก็คงยังเลือกทำแบบเดิมอีก (พูดง่าย ๆ ก็คือ ยืนยันว่าขบวนการนักศึกษาไม่ได้ทำอะไรผิดแม้จะถูกตามจับก็ไม่เสียใจ)

ทั้งหมดเป็นการพูดที่ออกไปจากความรู้สึกที่แท้จริงในขณะนั้น สุดท้ายผมจึงจบมหาวิทยาลัยไปทำงานต่างจังหวัดโดยไปรับปริญญาจากสำนักงานอธิการบดีเองในภายหลัง


สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เผยแพร่หนังสือ 3 เล่ม เพื่อเผยแพร่ข้อเขียนที่ทรงคุณค่าให้เป็นประโยชน์กับสังคม และสมทบ “กองทุนนายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เพื่องานมิตรภาพบำบัด เพื่อนช่วยเพื่อน” เพื่อสานต่อภารกิจครั้งสุดท้ายของนพ.สงวนต่อไป

สนใจ ติดต่อ
สำนักสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคี สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
โทร. 0-2831-4000 ต่อ 4134
และดาวน์โหลดที่เว็บสปสช. (หรือตามลิงก์ข้างบน)

ร่วมอาลัย นพ. สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ (18 มี.ค. 2495 - 18 ม.ค. 2551)

[ ลิงก์ สปสช. | ผ่าน หมวย ]

technorati tags: , , , ,

2008-01-10

masked rider

ช่วงนี้เปื่อยอยู่ครับ เป็นหวัด ไข้ ไอ

เปิดคอมตอบอะไรได้ก๊อก ๆ แก๊ก ๆ แต่ทำงานยาว ๆ ไม่ได้เลย ปวดหัว

ไปไหนมาไหน ก็ดูจะมีคนป่วยเยอะเหมือนกัน ไอค๊อกแค๊ก

เป็นตั้งแต่กลับจากฮ่องกง (ไปเที่ยวปีใหม่กับที่บ้าน) ไม่รู้จะเป็นหวัดนกรึเปล่า ฮี่

ตอนอยู่ที่นั่น เห็นคนใส่ผ้าปิดปากเดินไปเดินมา ตอนแรกเราคิดว่าเขาคงใส่เพราะกลัวติดหวัดจากคนอื่น ฮ่องกงมันเสี่ยง เคยระบาด
พี่สาวบอก ไม่ใช่ เขาใส่เพราะเขากลัวจะเอาหวัดไปติดคนอื่นตะหาก
เอ้า เหรอ เราเพิ่งรู้

แล้วก็นึกได้ว่า ตอนไปงานประชุม SNLP 2007 ก็มีคนญี่ปุ่นคนนึงใส่เหมือนกัน ตอนแรกก็นึกว่าอะไร อ๋อ เป็นหวัด วันที่สองหายดีก็ไม่ใส่แล้ว

เป็นเรื่องที่ดีแฮะ ในใจคิดตอนที่คุยกับพี่สาว
แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาใส่เองในเวลาไม่นานหลังจากนั้น

กลับมาใหม่ ๆ ก็แค่ครั่นเนื้อครั่นตัวเฉย ๆ สักพักเริ่มปวดหัว มีน้ำมูก ไม่กี่วันก็เริ่มไอ

พอไอไปได้วันสองวัน ก็เลยตัดสินใจ ไปเซเว่น ซื้อผ้าปิดปากมาใช้บ้าง

กลัวคนใกล้ตัวติดน่ะ พ่อนี่ก็ไออยู่ ไม่รู้ติดจากผมไปรึเปล่า

วันแรกที่ใช้ก็เขิน ๆ ไม่เคยทำ แต่ตอนนี้เฉย ๆ ละ ที่เพิ่มขึ้นมาน่าจะเป็นเรื่องตอบคำถามบางคนที่เจอมากกว่า ว่าใส่ทำไม อย่างวันนี้ที่ประชุม Thai Studies ผู้นำเสนอก็แซวขำ ๆ (ประมาณว่า “ผมรู้สึกแปลก ๆ มีคนใส่หน้ากากตรงนั้น มันเหมือนเค้ารู้อะไรที่ผมไม่รู้” - -")

ไปนอนดีกว่า

(งานอะไรที่ค้าง ๆ อยู่ จะทยอย ๆ ส่งไปนะคร้าบ)

technorati tags: ,

2007-11-23

my stomach

ท้องเสียมาตั้งแต่วันจันทร์แล้ว ถ่ายบ่อยและถ่ายเป็นน้ำ

ตอนแรกคิดว่าเดี๋ยวมันก็หายเอง เพราะก็เคยเป็นแบบนี้มาก่อนหลายที ทุกทีก็แค่พยายามกินอะไรร้อน ๆ เดี๋ยวมันก็หาย
วันจันทร์กับอังคาร กินก๋วยเตี๋ยวปลาไปตอนเย็น

เช้าวันพุธ ก็ดูท่าจะโอเคแล้ว มันยังปวด ๆ นิดหน่อย แต่ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว ก็ยังไปสัมมนาที่แลบได้ กลางวันก็กินข้าวคลุกกะปิที่โรงอาหาร ก่อนจะขึ้นรถกลับตอนสี่โมง ก็ถ่ายไปอีกรอบ แต่ก็คิดว่ามันไม่ได้หนักมาก ไม่น่าจะเป็นอะไรแล้ว

ตอนเย็น ๆ รู้สึกหนาวมาก แต่เราคิดว่าเป็นเพราะห้องสมุดศูนย์รังสิต (ตรงใกล้ ๆ ว.จ. ไม่ใช่หอป๋วย) เค้าเปิดแอร์เย็นเกินไปเอง (นศ.บ่นเยอะ หอป๋วยเองก็เหมือนกัน มีกระดาษความเห็นเขียนประมาณว่า “หมีขาวจะออกมาฆ่านศ.แล้ว”) ไม่ได้คิดว่าตัวเราไม่สบายอะไร

แล้วคืนวันนั้น ไม่รู้นึกครึ้มยังไง เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อแล้วเห็นคนอื่นเค้ากำลังหยิบเบียร์กัน พอกลับหอไปเราก็เลยเอาบ้าง (ไม่ได้เจียมเลย)

ปรากฎว่า เช้าวันพฤหัส อาการยิ่งหนัก ทั้ง ๆ ที่คืนพุธที่ว่ากินเบียร์ ก็กินไปแค่ไม่ถีง 1/5 ของกระป๋อง(เล็ก)

บ่ายพฤหัสก็ไปติว NetBeans น้อง แล้วก็กลับศูนย์รังสิต วันนั้นทั้งวันกินไปแต่ ไส้กรอกพันเบคอน ตอนกลางวัน

กลับมาที่หอ ไปศูนยเมื่อวานเย็นหมดแรงเลย ตามข้อพับนี่ไม่มีแรงจริง ๆ เมื่อยไปหมด
นึกขึ้นได้ว่ามีผงเกลือแร่ติดอยู่ที่หอ ก็เลยชง ๆ กินไป (ผสมโซดานะ ที่ห้องไม่มีน้ำเปล่าเหลือ - -" — ปกติผมกินโซดาเปล่า ๆ น่ะ เดี๋ยวจะหาว่าขี้เหล้า :P — ตอนเทผสมกันนี่ ฟู่ มาก ๆ)

วันนี้ก็ยังปวดอยู่นิดหน่อย ยังไม่หายดี แต่ก็ดีกว่าเมื่อวานเยอะ ตอนแรกตั้งใจจะไปสัมมนาที่เศรษฐศาสตร์ กับไปห้องสมุดบัญชีที่ท่าพระจันทร์ (ไปยืม The Text Mining Handbook .. มีอยู่เล่มเดียวที่ห้องสมุดบัญชี งงป่ะ บัญชีเค้าใช้ด้วยเหรอ อยากอ่าน แต่มัน request ให้ส่งมารังสิตไม่ได้)

วันนี้กินแต่น้ำ ชา แล้วก็ ฝรั่ง ทั้งวัน ไม่กล้ากินข้าว
เย็นนี้ไปงานแต่งงานเพื่อนที่มหาลัย ไม่รู้จะกินอะไรได้มั๊ย
(เป็นงานแต่งซึ่งจำผิดนึกว่าเป็นเสาร์ที่ผ่านมา หยิบสูทออกจากบ้านซะดิบดี โทรไปหาเพื่อน เฮ้ย งานแต่งxxxมันกี่โมงวะ เพื่อนตอบมาว่า แต่ศุกร์หน้า(นี้)ตะหาก อ้าว แล้ววันนี้งานแต่งใครหว่า เราจำได้ว่าเพื่อนเราแต่งวันนี้อ่ะ ปรากฎว่า ตอนเย็นโทรหาเพื่อนที่โรงเรียน ด้วยธุระอื่น ยังไม่ทันจะพูดอะไร มันถามมาก่อนเลย เฮ้ย ทำไมมึงไม่ไปงานแต่งไอ้yyyวะ? ... เอ้า ชิบหาย กูว่าแล้ว มันต้องมีงานแต่งใครซักคน ... เฮ้อ ปลาทองจริง ๆ - -")

เป็นสัปดาห์ที่ไม่มีแรงจริง ๆ

เอ้อ เมื่อวานไปดูหนังมา (เจ๋งมะ ไม่มีแรง แต่จะไปดูหนัง แต่คิดว่าตอนนั้นถ้าต่อรถกลับบ้านอีกทีทันทีเลย อาจจะไปตายในรถได้ นั่งเฉย ๆ อยู่ในโรงหนังก็ดีกว่าเยอะล่ะน่ะ)

“รักแห่งสยาม” เป็นหนังรัก ของ ทุกวัย และ ทุกเพศ จริง ๆ เราดูแล้วน้ำตาไหลไปหลายตอน มันไม่ได้เศร้าหรอกนะ แต่มันโดน เราคิดว่าคนรุ่นเรา โดยเฉพาะคนในเมือง และเคยมีชีวิตช่วงหนึ่งประมาณนั้น ก็คงจะโดนคล้าย ๆ กับเรา — เพลงก็เพราะด้วย

technorati tags: ,

2007-10-08

Remember, Remember the Sixth of October

สัปดาห์ที่ผ่านมามีเรื่องครบรอบหลายอย่าง ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตผม

2 ตุลา .. 26 ปีที่แล้ว วันเกิดเพื่อนที่เจอกันที่เบอร์ลิน

3 ตุลา .. 17 ปีที่แล้ว วันรวมชาติเยอรมัน “Tag der Deutschen Einheit” หลังจากกำแพงเบอร์ลินพังลง

4 ตุลา .. ปีที่แล้ว ผมลาเบอร์ลิน

5 ตุลา .. ปีที่แล้ว ถึงกรุงเทพ ไปงานแต่งงานเพื่อนที่เจอกันที่เอดินบะระ-จบธรรมศาสตร์รุ่นเดียวกัน

6 ตุลา .. 31 ปีที่แล้ว ที่ธรรมศาสตร์ สังหารหมู่นักศึกษาและประชาชน

7 ตุลา .. 58 ปีที่แล้ว “Tag der Republik” วันก่อตั้ง DDR เยอรมนีตะวันออก ที่ ๆ ผมเคยทำงาน

จริง ๆ แล้วผมเป็นคนขี้ลืม

technorati tags: , ,

2007-06-23

23 June 2007

ตอนนี้ บนเคเบิ้ลทีวี ฉาย เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล

ฝนเพิ่งหยุดตก หลังจากตกมาทั้งเย็น

ยังไม่ได้ไปซื้อหมึกพิมพ์ให้พ่อ

พรุ่งนี้ครบรอบ 75 ปี การปฏิวัติสยาม

2007-06-22

bact' is B

เราเรียกร้องให้ผู้คนลุกขึ้นต่อต้านการตื่นเช้า คือ ข้อความรณรงค์ที่กลุ่ม B-Society ซึ่งก่อตั้งโดย ดร. คามิลลา คริง ใช้เรียกร้องความสนใจจากประชาชนในเดนมาร์ก โดยอ้างถึงผลงานวิจัยที่สถาบันพันธุศาสตร์หลายแห่งได้สรุปไว้ว่า ‘เวลาชีวภาพ’ ที่กำหนดตารางเวลาในชีวิตประจำวันของมนุษย์ขึ้นอยู่กับยีนควบคุมเวลาชีวภาพ อันมีลักษณะแตกต่างกันออกไป ทำให้มีการแบ่งประเภทของบุคคลเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ กลุ่ม A และ กลุ่ม B

กลุ่มเคลื่อนไหวในเดนมาร์กที่ใช้ชื่อ B-Society ได้ประกาศว่าการครอบงำวิถีชีวิตและเวลาการทำงานที่เป็นอยู่ในสังคมปัจจุบัน ถูกกำหนดตามความเคยชินของบุคคลกลุ่ม A ทำให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตของคนกลุ่ม B อย่างหนัก เนื่องจากเวลาชีวภาพของคนกลุ่ม B ไม่เหมาะกับเวลาทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 4 โมง เย็น การตื่นเช้าตรู่เพื่อมาทำงานในเวลาดังกล่าว ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานของพวกเขาลดลง และสาเหตุนี้จะนำไปสู่การกล่าวหาว่าคนกลุ่ม B คือพวกเกียจคร้าน, ขาดความกระตือรือร้น และไม่มีความเป็นมืออาชีพ

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้กลุ่ม B-Society ถูกก่อตั้งขึ้นในเดนมาร์กเมื่อ 4 เดือนก่อน และปัจจุบันทางกลุ่มมีสมาชิกถึง 4,800 คน จนสามารถต่อรองให้สภาเทศบาลกรุงโคเปนเฮเกนตระหนักถึงข้อเท็จจริงนี้ และจัดให้มีการหางานที่เหมาะสมกับคนกลุ่ม B ที่ต้องการทำงานตั้งแต่เวลา 10 โมงเช้า ไปจนถึง 2 ทุ่ม (หรือดึกกว่านั้น) รวมถึงโรงเรียนมัธยมบางแห่งได้เปิดให้มีการเรียนการสอน ณ เวลา 10 โมง นอกเหนือจากการเรียนในเวลา 8 โมงเช้าตามปกติ

เราว่าเราก็ บี อ่ะ ... มีงานอะไรที่เหมาะกับเรามั่งอ่ะ ? :P

[ ลิงก์ B-Society | ผ่าน anpanpon, Girl Friday, ประชาไท ]

technorati tags:

2007-05-14

home, finally

กลับถึงบ้านแล้ว

ถึงดอนเมืองห้าทุ่ม นั่งรถเข้าเมือง ไปลงทองหล่อ แวะร้าน always never ซอยแจ่มจันทร์ กินเบียร์หนึ่งขวดใหญ่และหนึ่งขวดเล็ก แล้วกลับบ้าน

แท็กซี่เปิดฟัง “เดอะช็อก” ตลอดทาง

เป็นการจบทริป “เดินทางกับตัวเอง” โดยสวัสดิภาพ

ขอบคุณแรงบันดาลใจและรอยยิ้มทั้งหลายระหว่างทาง

home, finally

technorati tags: ,

2007-05-13

Waiting for Bangkok

เชียงใหม่ฝนตก สี่

18:46
(เย็นวันอาทิตย์)

กลับมาที่นิมมานอีกรอบ

ฝนตกตลอดเวลา

เที่ยวบินไปดอนเมือง ที่ราคาพอรับได้ มีอีกทีก็โน่น สามทุ่มสี่สิบ นกแอร์

ก็เลย หลังจากจองตั๋ว นั่งรถเมล์เข้ามาในเมืองใหม่

ถูกแซงคิวตอนซื้อตั๋วเครื่องบิน
“ขอโทษครับ” “ขอบคุณครับ”
สองประโยคติดกัน เป็นการห้ามปราม
พร้อมกับเดินเข้าไปที่หน้าช่องขายตั๋วทันที

รถเมล์วิ่งไปไหน สาย 6R เขียนว่า วนขวา
หนองหอย สนามบิน อะไรทำนองนี้
ขึ้นไปแล้วค่อยถามละกัน ไม่ได้รีบ

สุดท้ายได้ไปลงหลังมอ
เออ ยังไม่ได้มาแถวนี้เลยหนิ

ของกิน หนังสือเช่า ร้านซักรีด และสารพัดกิจการเท่าที่จะนึกออกได้ สำหรับเด็กหอ
บรรยากาศนักศึกษาอย่างที่สุด ประมาณแถวเชียงราก แต่หนาแน่นกว่าเยอะ
โน่น โต๊ะข้าง ๆ ใส่เสื้อคณะทั้งโต๊ะ ศึกษาศาสตร์

กินก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยไปหนึ่งชาม
(ถัดไปหน่อย มีร้านชื่อ ภูเก็ต - นานาชาติจริง ๆ ประเทศนี้)

แล้วก็เดินมาเรื่อย ๆ ผ่านคลองชล หอศิลป์
สุดท้ายก็กลับมาที่นิมมาน

...

ก่อนหน้านี้ไปนั่ง Sunday Cafe by Vajira and friends มา
ชอบนะ
แปลก ๆ นิดหน่อย อาจจะเพราะมันกันเองจัด แต่ดีทีเดียว :)

เปิดแผ่น เพลงแนวที่คิดว่า anpanpon มันต้องชอบแน่
เอาเพลง I love you, ono ของ Stereo Total ให้พี่เค้าเปิดด้วย
(ในโปสการ์ดโปรโมตงาน มีบอกด้วยว่า ให้นำเพลงของคุณมาเปิดได้หนึ่งเพลง)

Slot Machine มาด้วย มีกิ๊กเล็ก ๆ ร้อง+เล่นอคูสติก ดีนะ
(ถ่ายวีดิโอคลิปมานิดหน่อย ว่าจะส่งไป jiggaban.com พร้อม ๆ กับคลิปเมื่อคืนที่ขันอาษา รอไปดูที่นั่นละกัน ไม่รู้จะใช้ได้รึเปล่า)

มาเชียงใหม่คราวนี้ ได้พบได้เจออะไรเยอะแยะทีเดียว

และเป็นอีกครั้ง ที่ผมได้เดินทางไปสู่ผู้คน ไม่ใช่สถานที่

มีเพื่อนใหม่ ๆ :)


เชียงใหม่ฝนตก: หนึ่ง สอง สาม สี่

technorati tags: , ,

Sun-day Cafe

เชียงใหม่ฝนตก สาม

14:13
(บ่ายวันอาทิตย์)

อยู่ที่ Cafe de Nimman

มีงาน “Sunday Cafe”
Smirnoff น้ำเมาสีใสเป็นผู้สนับสนุน
เครื่องดื่มและขนมฟรี

บีนแบ็กเกลื่อนพื้น สีแดงขาว
ฝนข้างนอกตก

วชิราจะมาเปิดแผ่นที่นี่อีกแล้ว
มิกเซอร์ชุดเดียวกับเมื่อคืนเลย

ดูไปดูมา เหมือนจะมีแต่คนรู้จักกัน (ซึ่งผมไม่ได้รู้จักกับเค้านะ) ในร้าน
คลับคล้ายคลับคลางานที่ขันอาษาเมื่อวาน
กันเองดี

ฝนดูท่าจะหยุดแล้ว

ตก ๆ หยุด ๆ เป็นอย่างนี้ในทุกวันที่อยู่ที่นี่
จนไม่มีประโยชน์ที่จะถามว่า “ฝนตกรึเปล่า?”
เพราะชั่วเวลาหันไปดูว่าฝนตกไหม และหันกลับมาตอบ เมื่อคุณหันกลับไปดูฟ้าอีกที มันอาจจะกลายเป็นคนละอย่างกับที่เพิ่งตอบไปก็ได้
เมื่อวานไม่ได้ไปเที่ยวไหน กว่าจะออกจากบ้านก็หกโมงโน่น รอฝน

ออกจากบ้านมิเชลตอนเกือบบ่ายโมงได้
พี่อ้อแฟนแกมาส่งที่นิมมาน

กินราเม็งไม่หมด ปวดท้องที่กลางชาม
ไม่ค่อยได้กินอะไรเยอะ ๆ ก่อนบ่ายสามมานานแล้ว

ว่าจะเขียนโปสการ์ด ยังไม่ได้เขียน
จะเขียนอย่างไรดี ให้สื่อสารโดยไม่ทำลายความรู้สึกดี ๆ

แดง ขาว แดง ขาว

แถบสีที่บอกให้หยุด

ห่าง ๆ กันอย่างที่เธอว่า ดูจะดีกว่าจริง ๆ

วันนี้เป็นวันดีอีกหนึ่งวัน


ป.ล. Smirnoff จะจัดงานปาร์ตี้ที่กรุงเทพ 26 พ.ค. นี้ พี่ที่จัดงานเค้าว่า ใส่เสื้อขาวไปนะ เดี๋ยวจะมีโปรเจคเตอร์ยิง ๆ interactive art งานจัดที่ดาดฟ้าตึกจอดรถรถไฟฟ้าใต้ดิน รัชดา (ศูนย์วัฒนธรรม?) ใกล้เอสพลานาด - ตามรายละเอียดได้ที่ www.beclearlyoriginal.com (นี่เข้าข่ายโฆษณาเหล้านะ)


เชียงใหม่ฝนตก: หนึ่ง สอง สาม สี่

technorati tags: , ,

Fall on deaf heart

Fall on Deaf Ears - May 2007 - party by Vajira

เชียงใหม่ฝนตก สอง

1:49
(คืนวันเสาร์ เช้าวันอาทิตย์)

กลับมาถึงบ้านมิเชลแล้ว

การมาเชียงใหม่ครั้งนี้ ไม่ได้มีอะไรเลวร้ายจนเกินไปนัก - เพื่อนบางคนเป็นห่วง

ออกจะสนุกเสียด้วยซ้ำ

ผมได้พบอีกครั้ง หลังจากลืมไปเสียนาน ว่าเพื่อนนั้นเป็นอะไรที่สำคัญเหลือเกิน และดูเหมือนจะช่วยบรรเทาสารพัดสิ่งให้เราได้ แน่นอน ไม่มีใครแก้ปัญหาอะไรให้เราได้
แต่เพียงเมื่อมีความรู้สึกว่า มีใครรับฟังเรา และพยายามจะเข้าใจเรา เท่านั้นมันก็เป็นกำลังใจอย่างมากแล้ว สำหรับเราที่จะผ่านปัญหาต่าง ๆ ด้วยตัวเราเองต่อไป

อันที่จริงแล้ว ผมรู้ในข้อสำคัญนี้มานานแล้ว เหมือนที่ใคร ๆ ต่างก็รู้ - เพื่อน

หากแต่บางชั่วยามที่เผลอไผล ใจมันก็หวังจะเปลี่ยนเพื่อนที่ใกล้ชิดให้กลายเป็นอื่นไปเสีย

ซึ่งก็ได้พบแล้วว่า มันไม่ใช่เรื่องที่เข้าท่าเท่าใดนัก

วันนี้ที่ร้านขันอาษา ใกล้ประตูช้างเผือก

เมี๊ยะ รุ่นน้องที่มหาลัย มาเที่ยวด้วยกันเป็นเพื่อน
เธอมาจากลำปาง วันรุ่งขึ้นจะมาทำฟันพอดี

วชิราบรรเลงแผ่น ผู้คนมากมายยิ้นแย้มโอภาปราศัยเป็นมิตร เราเอาความสุขมาแบ่งปันกันที่นี่

ก่อนหน้านี้ หลังจากนี้ ใครบางคนอาจมีทุกข์ปัญหา วาระที่ต้องขบคิดกังวล
แต่ในช่วงสามสี่ชั่วโมงที่เราใช้จ่ายด้วยกัน แบบหมู่คณะ
ดูเหมือนมันจะฟื้นฟูพลังงานบางอย่างในตัวเราคืนมา

Fall on Deaf Ears atmosphere

เสียงดนตรีที่พอใจ และบรรยากาศความสนุก
ผมเต้นและกระโดด โลดแล่นบนพื้นและในความคิด
ปากตะโกนร้องเพลงอย่างไม่คิดจะเก็บไว้
คนควบแผ่นดูเหมือนจะชอบโมเดิร์นด็อกและสครับบเป็นพิเศษสำหรับคืนนี้

พรุ่งนี้ผมจะกลับกรุงเทพอย่างมีความสุข

และหวังว่าเพื่อน ๆ ทุกคนจะมีความสุขสบายใจเช่นกัน
สิ่งที่เป็นระยะเวลานานแล้ว ที่ผมไม่สามารถให้คนรอบข้าง หลายคน รู้สึกได้
คงเหมือนการเล่าเรื่องตลก ยิ่งคุณพยายามทำให้ขำ ยิ่งไม่ขำ

พรุ่งนี้ผมจะกลับกรุงเทพอย่างเป็นธรรมชาติ หวังว่าอย่างนั้น


ป.ล. Fall on Deaf Ears จะไปเล่นที่กรุงเทพ วันที่ 15 มิถุนานี้ ที่ร้านปลาดิบ พหลโยธิน บีทีเอส อารีย์ ตามข่าวได้ที่ iamvajira.blogspot.com เขาว่าถ้ามีเสื้อลายขวางก็ใส่ไป


เชียงใหม่ฝนตก: หนึ่ง สอง สาม สี่

technorati tags: , ,

bact' is a friend in/of Chiang Mai

เชียงใหม่ฝนตก หนึ่ง

21:19
(คืนวันเสาร์)

ขณะที่พิมพ์โพสต์ชิ้นนี้ ผมนั่งอยู่หน้าร้าน “ขันอาษา”

ร้านเต็ม ไม่มีที่นั่ง ไม่รู้จะยืนตรงไหน กลัวบังเขา ดูเกะกะ

เลยหาที่นั่งนอกร้าน บ้านข้าง ๆ เขาปิดแล้ว และเปิดโน๊ตบุ๊ค - บ้า

don't leave me high, don't leave me dry

วันนี้ วชิรา มาเปิดเพลงที่ร้านนี้
กิจกรรมหนึ่งเดือนหนึ่งครั้ง “ทะลุหูขวา” Fall on Deaf Ears

ผู้คนคึกคัก

นัดรุ่นน้องไว้ คนหนึ่งท่าจะไม่มาแล้ว อีกคนหนึ่งกำลังจะมา

มาคราวนี้ เป็นเชียงใหม่อีกแบบ ที่ผมควรจะรู้จักไว้

Chiang Mai moto

ขี่มอไซค์รอบเมือง ดูนั่นดูนี่ เข้าตรอกซอกซอย มีความสุขกับตัวเอง
พบสถานที่ใหม่ ผู้คนใหม่ อะไร ๆ ก็ใหม่ไปหมด — เชียง-ใหม่ มาก ๆ :)

เพลงเพราะ บรรยากาศดี
ผมนั่งอยู่ริมถนน เพลิน ๆ

ฝนตกทั้งวัน ไม่ได้ออกไปไหน ได้ออกจากบ้านก็โน่น ห้าโมงกว่า
ไปนั่งอยู่ร้าน happyhut นิมมานเหมินทร์ ใช้อินเทอร์เน็ต ในร้านหนาวสั่น

โอ๊ย เพลงนี้ก็เพราะอีกแล้ว

ผมว่าแบบนี้ก็ดีนะ

คือคุณต้องอยู่กับตัวคุณเองให้ได้ก่อน
มีความมั่นคง มั่นใจ
ไม่งั้นก็อย่าหวังว่าใครจะมาอยู่กับคุณแล้วจะสบายใจเลย

ผมโลเล เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
เดินทาง เปลี่ยนที่ ย้าย ตลอดเวลา moving relocating
บางคนรวมถึงพี่สาวผม บอกผมว่า พวกเขาเหมือนจะมองเห็นว่า ผมมองเห็นเป้าหมายในชีวิตตัวเองอย่างไร
แต่ตัวผมเองนั้น รู้สึก แกว่ง ๆ ในบางที
รู้ว่าต้องการอะไร แต่ไม่รู้จะไปยังไง บางคราว

เพลงนี้ก็เพราะ (ไม่รู้จักชื่อสักเพลง)

ไม่รู้จะเดินทางไปไหนกันนัก

ไปก็แต่ตัว ประสบการณ์ก็คงแต่ทางกาย สมอง ความรู้

แต่เหมือนใจจะไม่ไปไหน ย่ำอยู่กับที่ ไม่มีการเรียนรู้ พัฒนา

เพื่อนอย่างน้อยสองคน บอกผมว่า ผมไม่เหมือนคนที่เคยรู้จัก
หมดความมั่นใจ ไร้เสน่ห์

ดูท่าจะจริง - ไม่ล่ะ จริงเลยทีเดียว

สิงห์เล็ก 50 สิงห์ใหญ่ 85
ไม่มีที่นั่ง กินสิงห์เล็กละกัน
เดี๋ยวไปจัดการต่อ

เราว่าเราเป็นคนรักเพื่อน - ใช่มั๊ย ?
แต่บางครั้งบางที เรายังไม่รู้ว่าจะรักยังไงให้ไม่เกินเพื่อนดี

เพลงนี้ก็เพราะ

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ล้วนเป็นเรื่องดีงาม

เขาเปิดเพลง “Silent sigh” จาก About a Boy

เฮ้ ผมรักบรรยากาศนี้ ช่วงเวลานี้ เมืองนี้ ประเทศนี้ โลกนี้ และผู้คนในโลกนี้
ทุกคน และ ทุกคน

bact' is a friend :)


ป.ล. ชาวเชียงใหม่ ฟังวชิราเปิดแผ่นได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ 12:00-14:00 น. คลื่น 106.5 MHz สนับสนุนโดย Nokia


เชียงใหม่ฝนตก: หนึ่ง สอง สาม สี่

technorati tags: , ,

2007-05-12

Celebrating the Life of Poonsuk Banomyong

ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ ภริยารัฐบุรุษอาวุโส ปรีดี พนมยงค์ ได้ถึงแก่อนิจกรรมแล้วโดยสงบ เมื่อเวลา 2:00 น. ของวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 สิริอายุ 95 ปี 4 เดือน 9 วัน

ทายาทของท่านผู้หญิงได้ส่งเอกสารเผยแพร่ “คำสั่งถึงลูก” ที่ท่านผู้หญิงได้เขียนไว้ด้วยลายมือ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2541 มีใจความดังนี้

“เมื่อแม่สิ้นชีวิต จะไม่ขอรับเกียรติยศใดๆ ทั้งสิ้น ให้ประกาศทางวิทยุและหนังสือพิมพ์เพื่อให้ญาติมิตรรับทราบ ไม่มีการสวดอภิธรรม และ มีพิธีไว้อาลัยที่สถาบันปรีดี โดยนิมนต์พระที่นับถือมาแสดงธรรมกถา ไม่รบกวนญาติมิตรไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ หรือเงินช่วยทำบุญ หลังฌาปนกิจศพ ให้นำอัฐิไปลอยอังคารที่ปากน้ำเจ้าพระยา ซึ่งสถานที่ที่แม่เกิด หากมีเงินบ้างให้ทำบุญแก่มูลนิธิต่างๆ เพื่อสาธารณกุศล สุดท้ายขอให้ลูกทุกคน ทำตามที่แม่สั่งไว้อย่างเคร่งครัด ไม่ต้องฟังความเห็นของผู้หวังดีทั้งหลาย”

ทาง สถาบันปรีดี พนมยงค์ จะมีพิธีไว้อาลัยท่านผู้หญิงพูนศุข ในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคมนี้ และระหว่างนี้ได้เปิดให้ลงนามไว้อาลัยได้ทุกวัน

เกี่ยวข้อง:

[ผ่าน ประชาไท]

technorati tags: , ,

2007-05-07

I Heart Huckabees

เมื่อวานดู I Heart Huckabees [IMDb]

ชอบ

เราน่าจะเห็นโปสเตอร์เรื่องนี้มานานมากแล้ว ที่สถานีรถไฟใต้ดินลอนดอนที่หนึ่ง และที่อื่น ๆ - หรือมันอาจจะเป็นของอีกเรื่องก็ได้ มีหนังอีกเรื่องหนึ่งที่มีโปสเตอร์ประมาณนี้ ช่อง ๆ คล้าย ๆ กัน

หนังพูดถึง ความหมายของชีวิต ความเชื่อมโยงของทุกสรรพสิ่ง ประเด็นยิ่งใหญ่ไกลตัวชะมัด แต่สนุกดี - ขำ ๆ เพี้ยน ๆ หากดูจบแล้วก็ยังติดหนึบอยู่กับหัว

พวกเรานั้นล้วนไม่แตกต่างกัน และเกี่ยวข้องกันอยู่

ขอขอบคุณบรรดาสปอนเซอร์ทุกท่านที่ไรท์แผ่นมาให้ดู :)

technorati tags: