ย้ายบล็อกไปที่ bact.cc แล้วนะครับ

พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
หยุด ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ ฟรี 2GB จาก Dropbox (sync กับ Windows, Linux, Mac, iPhone, Android ฯลฯ ได้)
Showing posts with label urban planning. Show all posts
Showing posts with label urban planning. Show all posts

2008-07-04

rent a house = high mobility ?

เวลานั่งรถไฟฟ้า นั่งรถไปไหนมาไหน มองเห็นตึกแถวใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่เยอะแยะมากมายในกรุงเทพ

ตึกแถวต่าง ๆ น่าจะมีการใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่ากว่านี้ จะได้ไม่ต้องสร้างตึกใหม่ให้เปลืองทรัพยากร
ทำเป็น mixed use ซะ ใช้หลายประสงค์ ถือครองร่วมกันหลายคนหลายครอบครัวหรือเจ้าของตึกแบ่งเช่า

ชั้นล่างให้เช่าเป็นร้านค้า/สำนักงาน
ชั้นบน ๆ แบ่งชั้นให้แต่ละครอบครัวเช่า
ชั้นดาดฟ้าบนสุดใช้ร่วมกัน เป็นลานซักล้าง-ตากผ้า
หรือถ้าตึกข้างเคียงจะตกลงเปิดดาดฟ้าต่อกันก็ได้-ทำเป็นลานนั่งพักผ่อน/ทำกิจกรรม (ข้างล่างไม่มีที่)

ถ้าจะทำ ต้องปรับปรุงเรื่องประตูเข้าออก ทางขึ้นลง ให้สะดวกกับทุกฝ่าย

แบบนี้ ตึกแถวห้องหนึ่งอาจอยู่ได้ถึงสามสี่ครอบครัวเล็ก ๆ ตามลักษณะครอบครัวคนทำงานรุ่นใหม่ในเมือง

อีกเรื่องที่เกี่ยวข้อง ที่จะทำให้เรื่องข้างบนเป็นไปได้มากขึ้น คือ
ค่านิยมเรื่อง “เช่าบ้าน = ไม่มั่นคงในชีวิต”
น่าจะปรับเปลี่ยนเป็น “เช่าบ้าน = คล่องตัวสูง” มี mobility เคลื่อนย้ายสะดวก
ซึ่งน่าจะเหมาะกับลักษณะชีวิตคนทำงานรุ่นใหม่มากกว่า ที่ย้ายสถานที่ทำงานบ่อยครั้ง (ทั้งจากการย้ายองค์กร หรืออยู่ในองค์กรเดิมแต่ต้องเดินทางเปลี่ยนที่ทำงาน) ทั้งตอบสนองความต้องการที่จะมีบ้านอยู่ใกล้ที่ทำงาน เพื่อความสะดวก ลดค่าเดินทาง ประหยัดเวลา เพิ่มคุณภาพชีวิต (สามารถย้ายบ้านตามที่ทำงานได้สะดวก ไม่ต้องห่วงเรื่องซื้อขายบ้าน หรือทำสัญญาระยะยาว)

นอกจากนี้ ความคล่องตัว-ไม่ติดกับพื้นที่ น่าจะช่วยเรื่องการย้ายถิ่นฐาน/โยกย้ายบุคลากรที่ขาดแคลนในเขตนอกศูนย์กลาง (กรุงเทพและหัวเมืองใหญ่) เพิ่มโอกาสกระจายงาน กระจายความเจริญได้ด้วย — ไม่ทำให้เมืองหลวงหรือหัวเมืองมันโตเกินไป ซึ่งนำมาสู่ปัญหาการจัดการต่าง ๆ เช่นสาธารณูปโภคไม่เพียงพอ สร้างยังไงก็ไม่ทัน เช่นที่เชียงใหม่กำลังแย่อยู่ตอนนี้ (ไม่ต้องพูดถึงกรุงเทพ)

ไม่ใช่ว่า ก็ทรัพยากรบุคคลมันอยู่ในกรุงเทพ (หรือหัวเมือง) ย้ายเข้าออกไม่สะดวก บริษัทก็เลยต้องมาตั้งอยู่ในกรุงเทพ แล้วพอบริษัทต่าง ๆ มากระจุกอยู่ในกรุงเทพ คนข้างนอกก็ต้องย้ายเข้ามาเพิ่มอีก เพราะนอกกรุงเทพไม่ค่อยมีงาน ทรัพยากรบุคคลทั้งหลายก็เข้ามากระจุกอยู่ในกรุงเทพ บริษัทต่าง ๆ จะตั้งบริษัท จะขยายงาน ขยายสาขา ก็ต้องอยู่ในกรุงเทพอีกนั่นแหละ ไปที่อื่นมันไม่มีคน ก็วนไปเรื่อย ๆ เป็นงูกินหาง ไก่กับไข่

เรื่อง workforce mobility หรือความคล่องตัวในการเคลื่อนย้ายแรงงานนี้ เป็นนโยบายของสำคัญของการสร้างและรักษาความมั่งคงของสหภาพยุโรป ไม่ให้ความเจริญมันเหลื่อมล้ำ พอคนย้ายได้ง่าย งานก็ย้ายได้ง่ายด้วย ปลดล็อกงูกินหาง

เอกสาร Mobility in Europe [pdf]
โดย มูลนิธิยุโรปเพื่อการปรับปรุงสภาพการทำงานและการใช้ชีวิต Eurofound - European Foundation for the Improvement of Living and Working Conditions

ความคล่องตัวในการเคลื่อนย้ายแรงงานนี้ เกี่ยวหลายเรื่อง แม้ที่เด่นเป็นข่าว มักจะเป็นเรื่องข้อกฎหมาย ข้อตกลงระหว่างประเทศ เช่นเรื่องกฎหมายคนเข้าเมือง กฎหมายแรงงาน แต่เรื่องสภาพแวดล้อม เรื่องการใช้ชีวิตของแรงงานก็สำคัญ ที่พัก (สัญญาขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ราคาพอรับไหว ไม่ผูกมัดเกิน) ระบบขนส่ง (เมือง-รอบนอก / งาน-ที่พัก) ภาษา (กรณีพูดต่างภาษาควรสื่อสารภาษากลางกันได้) วัฒนธรรม (ที่อดทดอดกลั้น เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่คลั่งชาติ เปิดใจรับความแตกต่าง) คือแรงงานก็เป็นคนน่ะ นอกจากสภาพแวดล้อมในการทำงานดี ๆ แล้ว ก็อยากได้สภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตที่ดี ๆ เช่นกัน

สภาพที่ปราถนา เพื่อเมืองที่มีชีวิต live life :
ที่อยู่อาศัยย้ายเข้าออกคล่องตัว - ระบบขนส่งสะดวก - สื่อสารภาษากลางได้ - วัฒนธรรมเปิดกว้างรับความแตกต่าง
สองอันหลังสำหรับการจะเป็นเมืองระดับภูมิภาค/นานาชาติ

ที่จะให้เมืองไทยเป็นศูนย์กลางโน่นนี่ เป็น hub จะดันเมืองนั้นเมืองนี้เป็นเมืองระดับภูมิภาค ระดับนานาชาติ แต่ทุกอย่างมันก็ต้องอาศัยคนด้วย ทั้งคนภายในประเทศ ภายนอกประเทศ จะเป็น hub แต่เขาเดินทางเข้ามาทำงาน/ใช้ชีวิตไม่สะดวก ใครเขาจะอยากมา แล้วจะเป็น hub ได้ยังไง ? จะมีเมืองศูนย์กลางหลาย ๆ เมืองได้ยังไง ? (แนวคิด mobility นี้ไม่ได้ปฏิเสธเมืองศูนย์กลาง แต่ปฏิเสธการมีศูนย์กลางแต่ที่เดียว อะไร ๆ ก็อยู่ในเมืองนี้ - เช่นกรณีกรุงเทพ)

ในแง่สิทธิโดยทั่วไป-ไม่ได้เจาะจงเรื่องแรงงาน เรื่อง mobility นี้เกี่ยวกับ สิทธิในการเดินทาง/เสรีภาพในการเคลื่อนย้าย mobility rights / rights to travel / freedom of movement

เฮ้ย เริ่มจากตึกแถว มาจบที่เรื่องสิทธิได้ไง

ย้อนกลับไปใหม่ คิดว่า “เช่าบ้าน = คล่องตัวสูง” ไหม ?

กลับไปทำงานต่อดีกว่า

ปรับปรุง 2008.07.04: เพิ่มเรื่อง cosmopolitan

technorati tags: , , , ,

2008-02-07

Jaime Lerner: Sing a song of sustainable cities

TED Talk - Jaime Lerner: Sing a song of sustainable cities

ชอบไอเดียเรื่องเอาระบบขึ้นลงรถไฟฟ้า มาใช้กับรถเมล์ (ทำป้ายรถเมล์ให้คล้าย ๆ ที่รอรถไฟฟ้า ทำประตูรถเมล์ให้มีหลาย ๆ ประตูแบบรถไฟฟ้า) แล้วเชื่อมทั้งรถไฟฟ้าและรถเมล์เข้าด้วยกัน — “ระบบเดียวกัน ต่างกันแค่พาหนะ”

technorati tags: , , ,

2007-08-15

aesthetic of gravity

สุนทรียศาสตร์ของแรงโน้มถ่วง
เรียบเรียงจาก Pierre von Meiss (2000), The Aesthetic of Gravity, Architectural Research Quarterly; Volume 4 /NO.3, London: Cambridge Press
โดย post-metropolis — บล็อกนักเรียนไทย การผังเมือง คาสเซิล เยอรมนี

[ ผ่าน romance was not built in one day ]

technorati tags: , ,

2007-05-11

Live+Work Bazaar 2550 B.E.

ห้องแถว 2550 - "เครื่องมือ" สู้ทุนข้ามชาติในรูปแบบ "อาคาร"
โดย คุณยรรยง บุญ-หลง

ออกแบบมาสำหรับเมืองที่มีความหนาแน่นสูง
กระจายพื้นที่สาธารณะ-พื้นที่แลกเปลี่ยนค้าขาย โดยเพิ่มและดึงพื้นที่เหล่านั้นเข้าใกล้พื้นที่ส่วนตัว

สําหรับนักลงทุนที่ต้องการกําไรจากที่ดิน และกําลังคิดที่จะสร้างห้างสรรพสินค้าหรือซูเปอร์มาเก็ต (อย่างโลตัส ) สิ่งที่ควรไตร่ตรองให้ดีก็คือ ระบบรวมศูนย์และระบบมาตรฐานเิชิงเดี่ยว (standardization) นั้นจะนําไปสู่การจัดการในลักษณะ "สังคมนิยม" มากขึ้นๆ ความเป็นปัจเจกนั้นจะน้อยลงเมื่อกิจการขยายใหญ่ขึ้น ผลผลิตจะไม่หลากหลาย และความคิดสร้างสรรค์ (ซึ่งต้องการความเป็นปัจเจกชน) ก็จะน้อยลง ในประเทศสหรัฐอเมริกา ร้านหนังสือ และห้างใหญ่ๆ กําลังประสบปัญหาขาดทุนเพราะไม่สามารถแข่งกับพ่อค้ารายย่อยทาง eBay ได้

eBay นั้นมีหลักการง่ายๆ ก็คือ สร้างพื้นที่สาธารณะขึ้นมาให้ผู้คนแลกเปลี่ยนสินค้ากันเอง โดยเก็บเพียงค่าธรรมเนียมในการเข้าร่วม ผลปรากฎว่า eBayได้กําไรมหาศาลเพราะเขา ไม่ต้องลงทุนหาสินค้าเองเลย หากเพียงแค่เปิดพื้นที่ให้คนมาใช้เท่านั้นก็พอ

ห้องแถว 2550 ก็อาจมีลักษณะคล้ายๆ กับ eBay คือ เปิดพื้นที่สาธารณะใหม่ขึ้นมาให้คนได้ใช้ โดยเก็บค่าเช่า(สําหรับห้องแถว) และค่าธรรมเนียม(สําหรับแพงลอย) ในราคาถูกแต่เก็บมากรายขึ้น ยิ่งคนมาขายเยอะก็ยิ่งเก็บได้เยอะและเก็บได้ถูกลง เป็นผลให้คนมาขายมากขึ้นอีก

ดูไปดูมา คล้าย ๆ คอมมูน+ทุนนิยม :D

จุดแข็งของคนตัวเล็ก ๆ ที่ควรจะปลุกใช้คือ "ความปรับตัวได้เร็ว"

(ไอเดียและแบบแปลน ผู้ออกแบบเปิด โอเพนซอร์ส ครับ)

[ลิงก์ ห้องแถว 2550 | ผ่าน คนชายขอบ]

technorati tags: , ,

2007-04-11

Alternative (Post) Modernity: An Asia Perspective

จากรีวิวที่ I am what I am

แต่ถึงอย่างไรกลุ่มสถาปนิกและนักคิดจำนวนหนึ่ง ได้พยายามชี้ให้เห็นคุณค่าการดำรงอยู่ของความหลากหลาย ความไร้ระเบียบและความแออัด อันเป็นส่วนหนึ่งและสเน่ห์อย่างหนึ่งของภาวะความเป็นเมือง หนึ่งในกลุ่มดังกล่าว วิลเลี่ยม ลิม ดูเหมือนจะเป็นผู้หนึ่งที่มีความรู้ความเข้าใจ และเชี่ยวชาญในความเป็นเมืองของเอเชียโดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะถิ่นพำนักของเขา (สิงคโปร์) ในหนังสือ (โพสต์)โมเดิร์นทางเลือกมุมมองของเอเชีย (Alternative (Post) Modernity: An Asia Perspective) ของเขา ดู เหมือนจะเป็นการรวบรวมงานเขียนและปาฐกถาที่มุ่งให้คุณค่าในการวิเคราะห์ ความเป็นเมือง สถาปัตยกรรมเมือง และความไร้ระเบียบที่ดำรงอยู่ในเมือง ตลอดจนการกดทับของผังเมืองสมัยใหม่ต่อความไร้ระเบียบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ลิมได้ชี้ให้เห็นถึงการมองความหลากหลายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของเมือง ไม่ว่าจะเป็นผู้คน กิจกรรมทางสังคม และวิถีชีวิตที่มีความแตกต่างกันออกไป ในความคิดของเขาความไร้ระเบียบ ไร้กฏเกณฑ์ และแออัดของสถาปัตยกรรมและผังเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มิใช่สิ่งที่น่ารังเกียจ หรือเป็นสิ่งที่สมควรปิดบัง กดทับและเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด หากแต่ความไร้ระเบียบดังกล่าวกลับเป็นสิ่งที่บ่งบอกที่อัตลักษณ์และ สเน่ห์พิเศษของเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สถาปัตยกรรมเมืองแบบสมัยใหม่มีส่วนในกระบวนการกดทับ ปิดบังสภาพอันไร้ระเบียบของเมืองเดิม

“การคำนึงถึงถนนและอาคารที่มีอยู่เดิมทำให้สิ่งก่อสร้างที่เกิดขึ้นใหม่นั้นคู่ขนานไปกับถนนเส้นหลัก ในขณะที่สภาพเดิมของเมืองและพื้นที่ด้านหลังของสิ่งก่อสร้างใหม่นั้นถูกทิ้งไว้โดยไม่เปลี่ยนแปลง สภาพสังคมเช่นที่เคยผนวกกับความทรงจำและสิ่งก่อสร้างของอดีตถูกคงไว้เบื้องหลังของการพัฒนาสมัยใหม่”

อ่านอีกรีวิวที่ Quarterly Literary Review Singapore (ภาษาอังกฤษ)

รายละเอียดหนังสือ, การสั่งซื้อ (คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มธ.)

หนังสือที่เกี่ยวข้องกับสถาปัตยกรรม หลังสมัยใหม่ เมืองเอเชีย และสิงคโปร์ โดย วิลเลียม ลิม

[ผ่าน I am what I am]


ต่อเนื่อง: Pet Architecture

technorati tags: , ,

2006-08-08

Sarasatr

The 10th Sarasatr Symposium on SITUATIONIST SPACES


การประชุมทางวิชาการระดับชาติว่าด้วยการออกแบบทุกสาขา
รวมทั้งสถาปัตยกรรม และศาสตร์เกี่ยวเนื่อง
วันที่ 26 - 27 ตุลาคม 2549
ณ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พื้นที่ทางความคิดของศาสตร์ทางการออกแบบ และสถาปัตยกรรมจะเป็นอย่างไร เมื่อปรากฏการณ์ทางสังคม เศรษฐกิจ การเมืองในปัจจุบันนั้นซับซ้อน มีเงื่อนไข และเกิดเป็นสถานการณ์เฉพาะที่ เฉพาะเวลา เฉพาะกลุ่ม อย่างหลากหลายมากขึ้น

ขอเชิญชวนสถาปนิก นักออกแบบ นักผังเมือง ศิลปิน อาจารย์ นิสิตนักศึกษา รวมทั้งนักวิชาการ และนักปฏิบัติทุกสาขาอาชีพ ทุกเพศวัย ร่วมส่งบทความ เสนอผลงาน และเข้าร่วมสัมมนาทางวิชาการที่ขยายพื้นที่ทางความคิดแบบสถานการณ์นิยมตามมุมมองของท่านอย่างอิสระและสร้างสรรค์

รายละเอียดที่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน | เว็บไซต์: sarasatr.info

Wikipedia:

tags: , , , , ,

2006-01-28

SOCIAL decentralised distributed network clusters

social decentralised distributed network clusters

สี่คำหลัง ไม่รวมศูนย์ กระจาย เครือข่าย กลุ่มก้อน เหมือนเป็นศัพท์คอมพิวเตอร์ หรือคณิตศาสตร์ กราฟ ระบบอะไรสักอย่าง

เพิ่มคำหน้าเข้าไป สังคม คราวนี้มันก็เป็นเรื่องสังคมศาสตร์ละ เอ้อ ง่ายดี :P

การศึกษาด้านสังคมศาสตร์ในปัจจุบัน มีการอธิบายสังคมสัตว์และสังคมมนุษย์ รวมถึงพฤติกรรมในสังคมหลายอย่าง เช่น การขึ้นลงของราคาสินค้าในตลาด การเลือกเส้นทางไปหาน้ำหวานของผึ้ง การบินของฝูงนก เหล่านี้อธิบายได้ด้วยสี่คำหลังข้างบน bottom-up, self-organized system อะไรทำนองนั้น ในความเหมือนจะไร้ระเบียบ มีระเบียบซ่อนอยู่

อ่านเท่าไหร่ก็ไม่ค่อยเก็ทหรอก :P มีหนังสือแนวนี้กองอยู่บ้านสองสามเล่ม อ่านข้ามไปข้ามมา ไม่จบซักกะเล่ม — เป็นเรื่องปกติ