ย้ายบล็อกไปที่ bact.cc แล้วนะครับ

พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
หยุด ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ ฟรี 2GB จาก Dropbox (sync กับ Windows, Linux, Mac, iPhone, Android ฯลฯ ได้)
Showing posts with label surveillance. Show all posts
Showing posts with label surveillance. Show all posts

2010-02-16

subject: #GT200 and #sniffer

ต่อจากประชาธิปไตยแบบไทย ๆ เราก็มีคณิตศาสตร์แบบไทย ๆ :
13/20 = 100%

ผมเห็นว่า GT200 (เครื่องตรวจระเบิด, เขาอ้างว่าเป็น) และ sniffer (เครื่องดักฟังข้อมูลบนเครือข่าย) นั้นมีส่วนคล้ายกันในหลาย ๆ เรื่อง

ตั้งแต่เรื่องพื้น ๆ อย่างการจัดซื้ออุปกรณ์ราคาแพง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการเอื้อประโยชน์ตอบแทน ซึ่งเรื่องนี้กระทบรายจ่ายของประเทศ-ของเรา แต่อาจจะไม่ได้กระทบกับชีวิตเราตรง ๆ

เรื่องอุปกรณ์ไม่มีประสิทธิภาพตามอ้าง ซึ่งเรื่องนี้อาจจะกระทบชีวิต-ความปลอดภัย-ของเราได้ตรง ๆ เช่น อุปกรณ์ตรวจจับที่ไม่มีประสิทธิภาพ ก็อาจทำให้ระเบิดเล็ดรอด ไปตูมตามได้

ไปจนถึงการเรื่องที่กระทบชีวิต-สิทธิเสรีภาพ-ของเราอย่างที่เราอาจจะคาดไม่ถึง คือ การใช้อุปกรณ์ วิทยาศาสตร์ เหล่านี้ ในการสร้างความชอบธรรมแก่เจ้าหน้าที่ในการควบคุมหรือตรวจค้นเป้าหมาย (ที่อาจถูกหมายหัวเอาไว้ก่อนหน้าแล้ว) โดยไม่ต้องขอหมายค้นหรือคำสั่งศาล โดยอ้างว่า มีเหตุอันเชื่อได้ว่า เราทำผิดอะไรซักอย่าง ตามแต่เครื่องมือนั่นจะบ่งชี้ ... อย่างดีก็แค่รบกวนการดำเนินชีวิต อย่างชั่วก็ยัดข้อหา (โดยมนุษย์หรือโดยอุปกรณ์) อย่างชั่ว ๆ ดี ๆ ก็อาจจะต่อรองกันได้ เป็นช่องทางหากิน ... ในภาคใต้ของไทยเอง มีคนจำนวนมากถูกจับกุมหรือขึ้นบัญชีเพราะ GT200 ชี้(เดา)ว่าพวกเขามีระเบิด

ในเรื่องสุดท้ายนี้ GT200 และ sniffer มีความเหมือนกันอย่างมาก และมันแสดงถึงความไม่ต้องการดำเนินตามขั้นตอนกฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐจำนวนหนึ่ง (ซึ่งน่ากลัวว่า ถ้าจำนวนหนึ่งนี้ เป็นจำนวนมาก)

พวกเขาคิดว่า หมายค้น หรือ คำสั่งศาล เป็นเรื่องยุ่งยาก ไม่ควรต้องมี พวกเขาต้องการตรวจค้น ควบคุม จับกุม โดยทันที - โดยอาศัยสัญชาตญาณของพวกเขาเอง โดยการตัดสินของพวกเขาเอง - โดยไม่ต้องการการถ่วงดุลหรือคานอำนาจใด ๆ ตามกระบวนการยุติธรรม (พูดกันง่าย ๆ ว่า ศาลเตี้ย)

...

ผมพบว่า เวลาผมไปติดต่องานกับสถานที่ราชการ เจ้าหน้าที่ต่าง ๆ นั้น จะเคร่งครัดกับกฎระเบียบขั้นตอนต่าง ๆ ที่พวกเขาตั้งขึ้นอย่างมาก

แต่ก็ตลกดี ว่าเมื่อถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องทำตามกฎระเบียบขั้นตอนบ้าง พวกเขากลับไม่อยากทำ และพยายามหาช่องทางที่จะไม่ต้องทำ

ในแง่นี้ ผมจึงคิดว่าสถานะของ ประชาชน อย่างเรา ๆ และ เจ้าหน้าที่รัฐ (ข้าราชการ/ข้ารัฐการ) นั้นต่างกันอย่างชัดเจนจริง ๆ — คือมันมีกฎหมายจำนวนมากมาย ที่พวกเราจำเป็นต้องขึ้นกับ/ปฏิบัติตาม (subjected to) โดยไม่มีเงื่อนไข ในขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐ กลับมีช่องทางหรือสามารถสร้างช่องทางที่จะไม่ต้อง subjected to กฎหมายพวกนั้นได้

เมื่อพิจารณาเช่นนี้ ก็ไม่แปลกอะไร ที่ในสถานการณ์บางอย่าง ภายใต้กฎหมายต่าง ๆ ดังกล่าว พวกเราจึงไม่ได้มีสถานะเป็น ประชาชน แต่เป็น ไพร่ (subject) — คือมีแต่พวกเราเท่านั้นที่ subjected to กฎต่าง ๆ เหล่านั้น ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐนั้นจะอยู่เหนือกฎหมายที่ว่า — เป็นเจ้าในทางกฎหมาย ที่อยู่เหนือไพร่ในทางกฎหมายอย่างพวกเรา

ความเป็นเจ้าในทางกฎหมายนี้ อาจสร้างได้หลายวิธี แต่ในกรณีล่าสุดนี้ มันก็ดูตรงไปตรงมาดี ที่ความเป็นเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ มีอำนาจเหนือกฎหมาย จะถูกสร้างขึ้นโดยอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ เช่น GT200 :)

ประเด็นที่ยังน่าสงสัยคือ ถ้าเครื่องจีที 200 ไม่มีประสิทธิภาพเลย เครื่องไม่น่าจะตรวจพบสารประกอบระเบิด แต่ในการทดสอบยังตรวจพบถึง 4 ครั้ง ส่วนการตรวจ 16 ครั้งไม่พบสารระเบิด ซึ่งจำเป็นต้องหาข้อพิสูจน์ให้ได้
— พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

technorati tags: , ,

2008-03-03

New German Data Retention Act

เชกูวาราเขียน เยอรมันสอดแนม ที่ BioLawCom.de
เป็นเรื่อง กฎหมายใหม่ของเยอรมนี ที่กำหนดให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต้องเก็บข้อมูลจราจรของผู้ใช้บริการ เป็นเวลา 6 เดือน (คุ้น ๆ เหมือนพ.ร.บ.คอมฯ ของบ้านเรามั๊ยครับ ?)

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2007 รัฐสภาเยอรมันผ่านกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายต่าง ๆ เพื่อควบคุมตรวจสอบการติดต่อสื่อสาร และเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนความผิด มาฉบับหนึ่งครับ ท่ามกลางเสียงประท้วงจากคนเยอรมันนับพันนับหมื่นคน เพราะในกฎหมายฉบับดังกล่าว มีบทบัญญัติใหม่ ที่กระทบสิทธิพวกเขาอย่างมากบรรจุอยู่ด้วย

“Vorratsdatenspeicherung” (Data-Retention) เป็นคำเรียกรวม ๆ ที่หมายถึง การกำหนดหน้าที่ให้ผู้ให้บริการการโทรคมนาคม ต้องเก็บสำรอง “ข้อมูลจราจรทางการติดต่อสื่อสาร” (Traffic Data) ของประชาชนผู้ใช้บริการทุกคนเอาไว้เป็นระยะเวลา 6 เดือน ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนการกระทำความผิด ...ก็คือข้อกำหนดเจ้าปัญหาที่ว่า

ข่าวจาก European Digital Rights และ Deutsche Welle:

technorati tags: , ,

2007-07-23

Jacks the Giant Killer - Prachatai Night

ประชาไทไนท์ ตอน แจ็คผู้ฆ่ายักษ์(เขียวตาเดียว)
พฤหัส 2 สิงหา 17:30
@ โรงละครมะขามป้อม BTS สะพานควาย

ขอเชิญเหล่า “แจ็ค” ตัวเล็ก ๆ ร่วมปันไอเดียมัน ๆ ในสไตล์ 20x20
จะทำยังไงกับ “เจ้ายักษ์” ดี
จะอยู่ร่วมกัน จะสนุกกับมัน จะหลบหลีกมัน จะจัดการมันเสีย หรือจะอะไรยังไงดี ?
ในปาร์ตี้สบาย ๆ สไตล์ชาวบ้าน ๆ แสนเอกขเนก

คงมีแต่ “ชาวบ้าน” อย่างแจ็คเท่านั้นที่จะช่วยเหล่าชาวบ้านด้วยกันเองได้
... ก็ “ยักษ์” อื่น ๆ ที่ไหนจะมาสนใจ ?

[ ลิงก์ ประชาไท ]

technorati tags: , ,

2007-07-15

The Fifth Horseman Is Fear

คนป่วยแนะหนัง
The Fifth Horseman Is Fear
“ความกลัวคือเครื่องมือ”

นอกจากภาพ หนังยังเต็มไปด้วยเสียงรบกวนตลอดเวลา ทั้งนาฬิกาปลุก โทรศัพท์ กริ่งประตูบ้าน เสียงเด็กทารก ในหนังเรื่องนี้แทบไม่มีใครได้ทำกิจกรรมที่กำลังทำอยู่สำเร็จเสร็จสิ้น เพราะพวกเขาล้วนถูกรบกวนจากเสียงเหล่านี้ เสียงเตือน เสียงร้องหา เสียงที่เป็นเสมือนอำนาจรัฐจับตาทุกการกระทำของทุกตัวละคร

ชื่อหนังขยายความมาจากตอนหนึ่งในพระคัมภีร์ [ไบเบิ้ล] ที่พูดถึง มนุษย์บนหลังม้าสี่คน ที่หมายถึงสี่ประการที่จะทำลายความเป็นมนุษย์ของผู้ชายลง สิ่งนั้นประกอบด้วย ม้าสีขาวคือ โรคระบาด ม้าสีแดงคือ สงคราม ม้าสีดำคือ สตรี และม้าสีเทาคือ ความตาย และหนังเรื่องนี้ยั่วล้อถึงม้าตัวที่ห้า นั่นคือ – ความกลัว - ความกลัวนี้เองที่ทำให้คนตกเป็นเครื่องมือของอำนาจรัฐ เพื่อนกลายเป็นศัตรู คนที่เคยช่วยเหลือกันกระทั่งศพก็ยังไม่เหลียวมอง และเป็นความกลัวนี้เองที่ใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำลายมนุษย์

และแม้ว่าในเวลาปัจจุบัน นาซีได้ล่มสลายไปยาวนานแล้ว แต่เผด็จการยังคงเกิดใหม่ทุกวัน หนังคือภาพร่างคร่าวของประชาชนที่ตกอยู่ภายใต้ความกลัวอันเป็นเครื่องมือสำคัญที่รัฐใช้เสมอมา ความกลัวถึงสถานะที่ไม่มั่นคง ความกลัวที่จะไม่ได้เลือกตั้ง ความกลัวที่จะไม่มีรัฐธรรมนูญ ความกลัวคือเครื่องมือเสมอ

ฉากสุดท้ายของหนังพาเราย้อนกลับมาที่ป้ายประกาศนั้นอีกครั้ง ตัวหนังสือบนป้ายเขียนว่า เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของประชาชนหากเห็นสิ่งไม่ชอบมาพากลให้โทรแจ้ง เบอร์ 44811 เพื่อรัฐ ตัวหนังสือบนป้าย ทำให้ผมใคร่ครวญไปถึงบางป้ายที่ออกมารณรงค์ให้คนไปรับร่างรัฐธรรมนูญในบ้านเรา เป็นเด็กดีของพ่อแม่ เป็นเครื่องมือของเครื่องมือที่อำนาจรัฐใช้กับเรา เครื่องมือที่อาศัยเชื้อเพลิงชื่อ ความกลัว

technorati tags: ,

2007-07-07

BEHAVE! - Big Brother Is Watching You!

รายงาน จับตา ไอซีที : ออก กม.ลูก บังคับเก็บประวัติคนเล่นเน็ต เลข 13 หลัก เลขบัญชี เลขบัตรเครดิต (ประชาไท)

ประกาศกฎกระทรวง เกี่ยวกับข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์
(เพื่อประกอบใช้กับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์)

ข้อ 6 ผู้ให้บริการ มีหน้าที่จัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ดังนี้

(1) ข้อมูลที่สามารถระบุและติดตามถึงแหล่งกำเนิด ต้นทางของการติดต่อสื่อสารถึงกันด้วยระบบคอมพิวเตอร์ หรือการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้
(2) ข้อมูลที่สามารถระบุปลายทางของการติดต่อสื่อสารถึงกันด้วยระบบคอมพิวเตอร์ หรือการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้
(3) ข้อมูลที่สามารถระบุพฤติกรรมการติดต่อสื่อสารถึงกันด้วยระบบคอมพิวเตอร์ หรือการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต เช่น วันที่ เวลา ปริมาณการติดต่อ และระยะเวลาของการติดต่อสื่อสารระบบคอมพิวเตอร์ หรือการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้

ทั้งนี้ ในการเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ให้บริการเก็บเพียงเฉพาะในส่วนที่เป็นข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่เกิดจากส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริการของตน

พี่ใหญ่เค้าอยากจะรู้ทุกอย่าง

ดูข่าวเพิ่มเติม ฐาน, blognone, ประชาไท


หลักพื้นฐานทั่วไปอันหนึ่ง ที่น่าจะใช้เป็นแนวทางพิจารณาตรวจสอบขอบเขตอำนาจกฏกระทรวงอันนี้ได้ ว่าล้ำเส้นเกินไปหรือไม่ คือ หลักการให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ OECD ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้ (อ้าง ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง):

  1. หลักข้อจำกัดในการเก็บรวบรวมข้อมูล (Collection Limitation Principle)
  2. หลักคุณภาพของข้อมูล (Data Quality Principle)
  3. หลักการกำหนดวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ (Purpose Specification Principle)
  4. หลักในการนำไปใช้ (Use Limitation)
  5. หลักการรักษาความปลอดภัยข้อมูล (Security Safeguards Principle)
  6. หลักการเปิดเผยข้อมูล (Openness Principle)
  7. หลักการมีส่วนร่วมของบุคคล (Individual Participation Principle)
  8. หลักการความรับผิดชอบ (Accountability Principle)

ช่วยกันดูครับ พูด ตอนที่ยังพูดได้

ตอนนี้พ.ร.บ.กำหนดให้ต้องเก็บ และได้ระบุระยะเวลาเอาไว้
ส่วนกฎกระทรวงกำลังจะระบุว่า จะให้เก็บอะไร เยอะแค่ไหน
(ซึ่งดูแนวแล้วเป็นลักษณะ เก็บไว้เยอะๆ ก่อน - ไม่ใช่แนว "น้อยที่สุดเท่าที่จะใช้ได้")

แต่ไม่มีใครบอกว่า ใครมีสิทธิขอดู เมื่อไหร่ ในสถานการณ์ไหน และสามารถถูกปฏิเสธได้หรือไม่ (เช่น ผู้ให้บริการสามารถปฏิเสธเจ้าหน้าที่รัฐได้หรือไม่ ในกรณีไหน หรือ ผู้ใช้บริการสามารถปฏิเสธไม่ให้ผู้ให้บริการเก็บข้อมูลส่วนไหนได้บ้าง ในกรณีไหน)

เรื่องทำนองนี้ ส่วนหนึ่ง มีอยู่ใน ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ....
ซึ่งร่างฉบับนี้ ในตอนแรกร่างขึ้นโดยยึดแนวทางของ EU Directive เป็นหลัก แต่ต่อมาเมื่อพบปัญหาทางเทคนิคว่าอาจจะยากต่อการบังคับใช้ ก็ได้เปลี่ยนมาใช้รูปแบบของออสเตรเลีย ซึ่งแนวทางของ OECD ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ก็ถูกพัฒนาขึ้นโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของ OECD ภายใต้การดูแลของประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายออสเตรเลีย จึงอาจกล่าวได้ว่า ร่างพ.ร.บ.นี้ของไทย ก็มีแนวทางคล้ายคลึงกับของ OECD

ร่างดูดี แต่ไม่คลอดซักทีครับ :)

พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล เป็นพ.ร.บ.พี่น้องกับ พ.ร.บ.ความผิดคอมพิวเตอร์ — ตัวหนึ่งจะมีผลบังคับใช้ในอีกไม่กี่วันแล้ว อีกตัวหนึ่งถูกดอง และคงจะถูกลืม...


อ้างอิง

technorati tags: , ,

2007-07-06

Big Brother State

ข้อความจาก คณะอนุกรรมการโครงสร้างพื้นฐานทางกฎหมาย คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (จัดตั้งตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544)

แผนการดำเนินงานและข้อเสนอของคณะอนุกรรมการฯ ที่ควรเร่งผลักดัน

คณะอนุกรรมการฯ มีแผนยุทธศาสตร์การบูรณาการกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นลำดับ โดยการดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา ภายหลังจากที่พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 มีผลใช้บังคับ ทางคณะอนุกรรมการฯ ได้ศึกษาและพิจารณายกร่างพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความพระราชบัญญัติฯ แล้วเสร็จ จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดธุรกรรมในทางแพ่งและพาณิชย์ที่ยกเว้นมิให้นำพระราช บัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 มาใช้บังคับ พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการทำธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. .... รวมถึงการพิจารณายกร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ฯ เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับหน่วยงานธุรการและผู้ดำรงตำแหน่ง เลขานุการ และการร่วมพิจารณาให้ข้อคิดเห็นกฎหมายฉบับอื่นๆ ที่อยู่ในกระบวนการนิติบัญญัติ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. .... , ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ พ.ศ. ....

จากข้อมูลในหน้าเว็บนั้น จะเห็นได้ว่าโครงสร้างพื้นฐานทางกฎหมาย สำหรับธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์นั้น ประกอบไปด้วยกฎหมายหลายฉบับ

และที่ควรเร่งผลักดันและอยู่กระบวนการนิติบัญญัติแล้ว (ในขณะนั้น) ก็มีอยู่ 3 ฉบับ 3 เรื่อง
“ควบคุม” “คุ้มครอง” “พัฒนา”

บรรยากาศทุกวันนี้ ทุกคนรู้สึก

รัฐบาลนี้เร่งแต่จะ “ควบคุม” ไม่สนใจ “คุ้มครอง” และ “พัฒนา”

ประชาชน “ไร้ความมั่นคงปลอดภัย” ประเทศชาติ “ล้าหลัง”

technorati tags: , ,

personal is personal

ข้อมูลส่วนบุคคลของเรา เป็นของเรา

เราต้องการ

พระราชบัญญัติว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ....

เดินเข้าร้านกาแฟ ต้องลงเวลาเข้าออก
เดินเข้าโรงหนัง บันทึกว่าดูเรื่องอะไร
เดินเข้าซูเปอร์มาร์เก็ต ขอดูบัตรประชาชน

จะเก็บนั่นเก็บนี่ ตรวจตราสอดส่อง(แส่)ไปทุกเรื่อง - แล้วคุ้มครองป้องกันอะไรให้เราไหม ? มีหลักประกันอะไรให้เราไหม ?

ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เป็นของคุณ

ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เป็นของคุณ

ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เป็นของคุณ

technorati tags:

2006-09-01

Tor + FoxyProxy

One of the fundamental contrasts between free democratic societies and totalitarian systems is that the totalitarian government [or other totalitarian organization] relies on secrecy for the regime but high surveillance and disclosure for all other groups, whereas in the civic culture of liberal democracy, the position is approximately the reverse.
— Geoffrey de Q Walker *

(หนึ่งในความแตกต่างพื้นฐาน ระหว่าง สังคมเสรีประชาธิปไตย และ ระบอบเผด็จการ ก็คือ การดำรงอยู่ของ รัฐบาลเผด็จการ [หรือองค์กรเผด็จการอื่น ๆ] นั้น ขึ้นอยู่กับ การปกปิดความลับของฝ่ายบริหาร แต่กลับตรวจตราและเปิดโปงอย่างเข้มข้นกับกลุ่มอื่น ๆ, ในขณะที่ ในวัฒนธรรมพลเมืองของระบอบเสรีประชาธิปไตยนั้น ตำแหน่งที่ว่า เกือบจะกลับกัน)

เมื่อวานและวันนี้ ลองใช้ Tor + FoxyProxy extension ร่วมกับ Firefox ท่องเน็ตดู ทดสอบเทคโนโลยีเพื่อความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์

เต่าเกือบจะกัดยาง ... เน็ตอืดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังพอรับได้
คิดไม่ออกว่า ถ้าไปเล่นที่เมืองไทย ซึ่งเน็ตคงช้ากว่าที่นี่ (ตอนนี้ใช้ DSL 6 Mbits) มันจะอืดกว่านี้แค่ไหน

อีกอย่างคือ ถ้าเปิดเว็บหลาย ๆ ที่พร้อมกัน บางทีมันจะเปิดไม่ได้ เนื่องจากมันเปิืด connection ไม่ทัน

คือเท่าที่เข้าใจ Tor มันใช้วิธี "ฝาก" คำร้อง (request) ของเรา ไปยัง Tor node อื่น ๆ หลาย ๆ ต่อ ก่อนจะส่งข้อมูลที่ร้องขอย้่อนกลับมาให้เรา เพื่อพรางต้นตอของคำร้อง ... นี่ก็จุดแรกของความช้า เพราะมันหลายต่อ อีกจุดก็คือ ถ้าเกิด node มันน้อย เรา(และคนอื่น ๆ)ก็มีโอกาสที่จะขอไปยัง node เดิมซ้ำ ๆ ซึ่ง 1) node นั้นมันก็จะรับไม่ไหว (เป็นที่มาของ failed connection) 2) โอกาสที่จะถูกตามรอยกลับมันก็ง่ายขึ้น

จากที่คิดเอาเอง คาดว่า ถ้าเกิดมีคนใช้ Tor กันมาก ๆ เข้า ความเร็ว+ความเป็นส่วนตัว มันคงดีขึ้นแน่

ตัวติดตั้งของ Tor รุ่นปัจจุบัน มีแบบขายยกชุดด้วย (Tor & Privoxy & Vidalia bundle) ซึ่งก็ใช้สะดวกดี ผมปิด Privoxy ทิ้ง เพราะเหมือนมันจะตีกับ FoxyProxy (ผมเซตไม่ค่อยเป็น) ส่วนตัว Vidalia นี่ดีมาก ทำให้เซต Tor ได้ง่ายขึ้นจมเลย เป็น GUI หมด แนะนำให้ดาวน์โหลดชุดนี้

เราเดินไปซื้อหนังสืออะไรในร้านมาอ่าน ก็ไม่มีใครคอยมาเช็ค/มีโอกาสได้เช็คน้อย (เว้นว่าเราจ่ายด้วยบัตรเครดิต/เดบิตที่เป็นชื่อเราเองหรือคนใกล้ชิด อันนี้ก็ง่ายเลย)
แต่ทำไมเราจะเข้าไปดูเว็บไหน ต้องเปิดโอกาสให้ใครมาตามรอยด้วย ?

Wikipedia: (?) | (เสรีภาพพลเมือง?)

tags: , . , , , , ,

2006-08-18

Wiretapping = Unconstitutional

ศาลกลางสหรัฐอเมริกา (federal court) ตัดสินว่า การดักฟังโดยไม่ต้องมีหมาย (warrantless wiretapping program) ของ () นั้นขัดกับรัฐธรรมนูญสหรัฐ (unconstitutional) และมีคำสั่งให้หยุดโปรแกรมนี้ทันที

via slashdot via CNN

tags: , , , ,