ย้ายบล็อกไปที่ bact.cc แล้วนะครับ

พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
หยุด ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ ฟรี 2GB จาก Dropbox (sync กับ Windows, Linux, Mac, iPhone, Android ฯลฯ ได้)

2009-12-03

repost: Theppitak on "Opensource Mindset"

พบสิ่งบันเทิงใจจาก Planet TLWG

พี่เทพ โพสต์เล่าเรื่องบทความ การคิดแบบโอเพนซอร์ส (Open Source Thinking) ใน วารสาร OpenSource2Day ฉบับที่ 13 และย้อนอ้างถึงโพสต์ที่พี่เทพเคยเขียนไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมโอเพ่นซอร์ส

อาจารย์ [อ.ธวัชชัย เอี่ยมไพโรจน์ แห่ง ม.บูรพา] ได้เปรียบเทียบพฤติกรรมของนิสิตนักศึกษาบางกลุ่มที่ไม่ค่อยลงแรงอะไรกับวิชาเรียน กับ mindset ของ "ผู้ที่มีความเชื่อในโอเพนซอร์ส" ว่าแตกต่างกันปานใด ซึ่งอาจารย์ได้สาธยาย mindset ดังกล่าวไว้ได้ชัดเจนครบถ้วน เลยขอยกมากล่าวถึงในที่นี้บางส่วน ตัวอย่างเช่น:

ผู้ที่มีความเชื่อในโอเพนซอร์ส จะใช้ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส แม้จะมีซอฟต์แวร์ที่ดีกว่าให้ใช้ เพราะเขาต้องการซอร์สโค้ด (อันที่จริง อาจจะพูดได้อีกอย่างว่า ต้องการเสรีภาพ สำหรับผม ผมใช้คำว่า "ใช้แล้วสบายใจ" เพราะการมีซอร์สโค้ดก็หมายความว่า ผมจะสามารถดัดแปลงซ่อมแซมอะไรเองได้ ซอฟต์แวร์เป็นของผมอย่างเต็มที่)

ผู้ที่มีความเชื่อในโอเพนซอร์ส จะมีปฏิกิริยาเชิงรุกเมื่อพบปัญหา โดยจะพยายามค้นหาวิธีแก้จากอินเทอร์เน็ต อ่านเอกสาร ทดลองทำ หรือกระทั่งนั่งดีบั๊ก แต่ก็ไม่ได้ทำอย่างนี้กับทุกเรื่อง จะทำเฉพาะในโปรแกรมที่สนใจ

คนโอเพนซอร์สจะเข้าร่วมวงสนทนา เช่น mailing list เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคนอื่น และทุ่มเทเวลาให้กับการสร้างทักษะการแก้ปัญหา

[...]

ก็พอดีกับที่ วีร์ โพสต์เรื่อง double click เพื่อเลือกคำเดียวใน Firefox หลังจากที่ไปถามไว้ในเมลกลุ่ม Thai Linux/FOSS developers

----

ผมเคยรวบรวมข้อเขียน บทความ บทแปลต่าง ๆ เกี่ยวกับชุมชนโอเพ่นซอร์สในไทย ที่หลาย ๆ คนเคยเขียนเคยพูด เอาไว้ที่ Thailand, FOSS, and Community และพี่เทพเคยสรุปประเด็นที่หลาย ๆ คนเคยมาแชร์กันไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ในงาน TLUG: TLUG Resurrection (ในลิงก์ก่อนหน้านี้ มีวีดิโอบางส่วนจากงานนี้ด้วย)

ขยับมาใกล้กว่านั้น เคยคุยกับพี่เทพและอีกหลายคนผ่านบล็อกโพสต์แบบมาเป็นชุด PostcardwareThe Condition of Free CultureFree Culture

และเร็ว ๆ นี้เอง พี่เทพได้โพสต์เรื่องกลุ่มผู้ใช้ซอฟต์แวร์สามกลุ่ม ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องโอเพ่นซอร์สด้วย พร้อมรูปประกอบ ผมว่าอธิบายภาพได้ชัดเจนดี Romance of the Three (Software) Kingdoms

... ผมคิดว่าการสื่อสารเรื่องเหล่านี้และพูดคุยลักษณะนี้นี่แหละ ที่ไม่ได้อยู่ในโครงการส่งเสริมโอเพ่นซอร์สต่าง ๆ ที่รัฐได้สนับสนุนในช่วงผ่านมา เรามีฮาร์ดแวร์แล้ว มีซอฟต์แวร์แล้ว ขาดก็แต่อะไรซักอย่างแวร์ในหัวเรานี่แหละ ...

technorati tags: , , ,

3 comments:

iMenn.com said...
This comment has been removed by the author.
iMenn.com said...

ผมคิดว่า กระบวนการที่ทำให้เกิดสังคม Opensource ได้นั้น คือ

1. ผู้คนเห็นคุณค่าของงานที่ทำขึ้น ไม่ใช่ขโมยของกันจนเป็นปกติ

2. จากข้อ 1. ทำให้เกิดระบบลิขสิทธิ์ และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์

3. ผู้คนพยายามลดค่าใช้จ่ายด้านลิขสิทธ์ โดยใช้ซอฟแวร์ทดแทน (Freeware/Opensource) ซึ่งต้องยอมรับในข้อจำกัด และยอมรับในการพึ่งตัวเอง

4. สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ มีอิสระในการแก้ไขสิ่งต่างๆ เกิดการแลกเปลี่ยนและพัฒนา และตอบแทนสังคม Opensource ด้วยปัจจัยต่างๆ

เมืองไทยขาดข้อไหนเอ่ย? :P

Unknown said...

non-technical person ไม่มีทาง มี mindset แบบนี้ แน่ๆ
มี source แล้ว สบายใจ ตรงไหน
ก็ต้อง จ้าง คนอื่น แก้ source ให้ อยู่ดี