จะถ่ายกับพี่เคนก็ใช่ที่ ไม่รู้จะเอาไง เราก็ยืนเก้ ๆ กัง ๆ
ในขณะนั้น คริส หอวัง ก็แอบมองเราอยู่ … เฮ้อ~
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ สนุกดี ฉากเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น และ GTH มีความสามารถในการ craft เอาสปอนเซอร์ทั้งหลายเข้าไปอยู่ในบทภาพยนตร์จริง ๆ — นี่อาจจะเป็นแนวทางใหม่ของการทำภาพยนตร์ ก๊อปปี้ได้ไม่ว่า เพราะเอ็งก็ก๊อปโฆษณาไปด้วย สปอนเซอร์ดีใจ
อ้อ ระบบรถไฟฟ้า BTS ยังไม่มีสิ่งอำนวยสะดวกที่เพียงพอสำหรับผู้พิการ
จาก ห้องต่อพงษ์ เว็บไซต์มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย:
รถไฟฟ้า BTS เริ่มต้นการก่อสร้างในปี พ.ศ. 2535 ในขณะนั้นกลุ่มคนพิการทราบว่าทั้ง 24 สถานีไม่มีลิฟต์หรือหนทางที่จะทำให้คนพิการเข้าใช้ได้เลย กลุ่มคนพิการได้เรียกร้องแต่ถูกเพิกเฉย ได้ชุมนุมประท้วงในปี พ.ศ. 2535 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในสมัยนั้นได้รับปากที่จะดำเนินการติดตั้งลิฟต์ ให้แล้วก็เพิกเฉยอีกจนต้องมีการชุมนุมใหญ่ทั้งในปี พ.ศ. 2538 และ ปี พ.ศ. 2542 จนรัฐบาลยอมติดตั้งลิฟต์ 5 สถานี จาก 24 สถานี โดยระบุว่าจะดำเนินการเพิ่มเติมภายหลัง นับเป็นเวลาสิบกว่าปีที่กลุ่มคนพิการได้ประสานกับกรุงเทพมหานครและบริษัทฯ มาโดยตลอด ทั้งสองหน่วยรับปากแต่ไม่มีการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน ทำให้ต้องพึ่งบารมีศาลปกครองโดยการยื่นฟ้องดังกล่าว เพื่อนำไปสู่การใช้ชีวิตในสังคมที่คนพิการสามารถพึ่งพาตนเองได้ทั้งด้านเศรษฐกิจและอิสระภาพในการเดินทาง
วันที่ 22 กันยายน 2552 ศาลปกครองยกฟ้อง — ผู้ว่าฯไม่ผิด และ บีทีเอสไม่ต้องสร้างลิฟต์
ติดตามข่าวสารกลุ่มคนพิการ ในประเด็น universal access / freedom of movement ได้ที่:
www.NoAccessNoFreedom.com
technorati tags: BTS, film, hack, Bangkok Traffic Story, Bangkok Traffic (Love) Story
4 comments:
แค่รูปยังเขินขนาดนั้น
beamer: เขินคนเดินไปเดินมาในโรงหนัง :p
----
ปฏิบัติการ "มนุษย์ล้อ" ขึ้นรถเมล์ ยื่นอุทธรณ์คดีบีทีเอสต่อศาลปกครองสูงสุด
ชาวมนุษย์ล้อราว 70 คนนัดใช้รถเมล์สาธารณะเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2552 เพื่อเดินทางไปยื่นอุทธรณ์ที่ศาลปกครองเวลา 14.30 น. กรณีรถไฟฟ้าบีทีเอสละเลยต่อการปฏิบัติตามกฎหมายในการจัดสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับคนพิการ โดยมีเป้าหมายจะต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด และพิสูจน์รถเมล์ใหม่ คนไทยขึ้นได้ทุกคนจริงหรือไม่ #bts
กรณีนี้ผมเห็นด้วยกับศาลปกครองนะ
ผมเห็นด้วยที่จะผลักดันเรื่องนี้เป็นกฏหมาย แต่กระบวนการนี้มันใช้เวลา แต่ระหว่างนี้ถ้ามีใครถูกโจมตีเพราะประเด็นนี้เป็นรายตัว ผมว่ามันไม่แฟร์กับเขา
lewcpe: กฎหมายมีแล้ว "พระราชบัญญัติการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ พ.ศ. 2534"
ถ้าไม่มีกฎหมายที่พอใช้ได้ เขาก็ฟ้องไม่ได้น่ะ
หรือไม่ก็ต้องไปอ้างรัฐธรรมนูญ
มาตรา 30
บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน
ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน
การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่อง ถิ่นกำเนิดเชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทำมิได้
มาตรการที่รัฐกำหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้ สิทธิและเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม
อันนี้คือกฎหมายที่ผู้ฟ้องใช้อ้าง
ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไร ลองดูในเอกสารสรุป
http://www.noaccessnofreedom.com/Case_Summary__Sep_20,_2009_.pdf
ประเด็นที่เราคิดว่าน่าสนใจคือ ผู้ถูกฟ้อง ไม่ได้แก้ต่างในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกเลย แต่แก้ต่างในทางเทคนิคกฎหมายล้วน ๆ เช่นว่า ผู้ฟ้องมีสิทธิฟ้องไหม ("ผู้ฟ้องคดีที่ 1-3 (คนพิการ) ไม่ใช่คนพิการตามกฎหมาย ดังนั้นผู้ฟ้องคดีทั้งสามจึงไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีนี้และไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ได้") และ ผู้ถูกฟ้องที่ 4 (BTS) อยู่ในอำนาจศาลปกครองไหม (เช่นอ้างว่า "ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 เป็นบริษัทเอกชนที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายกลาง การฟ้องคดีของผู้ฟ้องคดีทั้งสามจึงไม่อยู่ในอำนาจศาลปกครอง หรือหากพิพากษาให้ดำเนินการตามคำขอของผู้ฟ้องคดีก็ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากจะต้องเกิดภาระในทรัพย์สิน ยกเว้นแต่ศาลล้มละลายกลางจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น")
Post a Comment