สิ่งที่น่าละอายที่สุดก็คือ ความละอายอันไร้เหตุผล ?
“ในฐานะนักทำหนังคนหนึ่ง ผมปฏิบัติกับหนังของผมประดุจลูกชายและลูกสาว เมื่อผมให้กำเนิดเขา พวกเขาก็มีชีวิตเป็นของตนเอง ผมไม่ใส่ใจว่าผู้คนจะรักหรือเกลียดลูกของผม ตราบใดที่ผมสร้างเขาขึ้นมาด้วยความตั้งใจและความพยายามอย่างสูงสุด ถ้าลูกๆ ของผมไม่สามารถอาศัยอยู่ในประเทศของเขาเองไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใดก็ตาม ก็ปล่อยเขาเป็นอิสระเถิด เพราะมันยังมีพื้นที่อื่นๆ ที่ต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นในแบบอย่างที่เขาเป็น มันไม่มีเหตุผลเลยที่ต้องทำให้พวกเขาพิกลพิการจากระบบแห่งความกลัวหรือความ ละโมบ มิฉะนั้นแล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่คนสักคนหนึ่งจะสร้างงานศิลปะต่อไป”
— อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล
“I, a filmmaker, treat my works as my own sons or my daughters. When I conceived them, they have their own lives to live. I don’t mind if people are fond of them, or despise them, as long as I created them with my best intentions and efforts. If these offspring of mine cannot live in their own country for whatever reasons, let them be free. Since there are other places that warmly welcome them as who they are, there is no reason to mutilate them from the fear of the system, or from greed. Otherwise there is no reason for one to continue making art.”
— Apichatpong Weerasethakul
เรียน ท่านสื่อมวลชนและท่านผู้อ่านทุกท่าน
เรื่อง งดฉายหนัง ‘แสงศตวรรษ’ตามกำหนดการเดิม วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายนนี้ จะเป็นวันแรกของการฉายภาพยนตร์เรื่อง ‘แสงศตวรรษ’ โดยจะเป็นการฉายแบบจำกัดโรงเพียง 2 โรงเท่านั้น หนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ เจ้ย - อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ผู้กำกับหนังแนวศิลปะที่ได้รับการจับตาในวงการหนังระดับโลก จากผลงานเรื่อง สุดเสน่หา และ สัตว์ประหลาด และยังเป็นศิลปินเจ้าของรางวัลศิลปาธร ปี 2549 สาขาภาพยนตร์ จากสำนักศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
แสงศตวรรษ เป็นหนังเรื่องล่าสุดของ ‘เจ้ย’ ที่นอกจากจะได้แข่งขันในเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิซ และเดินทางไปฉายตามเทศกาลสำคัญต่างๆ มากกว่า 10 เทศกาลทั่วโลกแล้ว ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แสงศตวรรษ เพิ่งคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเอเชียโดวิลล์ ประเทศฝรั่งเศส และรางวัลลำดับภาพยอดเยี่ยม จาก Asian Film Awards ประเทศฮ่องกง
แต่แล้วกำหนดการฉายหนังก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ทีมงานคาดไว้ เมื่อแสงศตวรรษไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ โดยคณะกรรมการมีเงื่อนไขให้ฉายหนังเรื่องนี้ได้ก็ต่อเมื่อต้องตัดฉากสำคัญออกไป 4 ฉาก
เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ผู้กำกับ เจ้ย อภิชาติพงศ์ จึงตัดสินใจ ‘ไม่’ ตัดทอนหนังเรื่องนี้ ดังนั้นทางทีมงานจึงมีความจำเป็นต้องแจ้งให้ท่านสื่อมวลชนทราบว่า หนังเรื่อง แสงศตวรรษ จะไม่เข้าฉายในประเทศไทย
ในขณะนี้ผู้กำกับอภิชาติพงศ์กำลังเดินทางโปรโมตภาพยนตร์ในประเทศสหรัฐอเมริกา เขาแสดงความเสียใจผ่านทางอีเมล์ว่า
“ในฐานะนักทำหนังคนหนึ่ง ผมปฏิบัติกับหนังของผมประดุจลูกชายและลูกสาว เมื่อผมให้กำเนิดเขา พวกเขาก็มีชีวิตเป็นของตนเอง ผมไม่ใส่ใจว่าผู้คนจะรักหรือเกลียดลูกของผม ตราบใดที่ผมสร้างเขาขึ้นมาด้วยความตั้งใจและความพยายามอย่างสูงสุด ถ้าลูกๆ ของผมไม่สามารถอาศัยอยู่ในประเทศของเขาเองไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใดก็ตาม ก็ปล่อยเขาเป็นอิสระเถิด เพราะมันยังมีพื้นที่อื่นๆ ที่ต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นในแบบอย่างที่เขาเป็น มันไม่มีเหตุผลเลยที่ต้องทำให้พวกเขาพิกลพิการจากระบบแห่งความกลัวหรือความ ละโมบ มิฉะนั้นแล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่คนสักคนหนึ่งจะสร้างงานศิลปะต่อไป”
แปลจาก “I, a filmmaker, treat my works as my own sons or my daughters. When I conceived them, they have their own lives to live. I don't mind if people are fond of them, or despise them, as long as I created them with my best intentions and efforts. If these offspring of mine cannot live in their own country for whatever reasons, let them be free. Since there are other places that warmly welcome them as who they are, there is no reason to mutilate them from the fear of the system, or from greed. Otherwise there is no reason for one to continue making art.”
สำหรับความคืบหน้า หลังจากคุณอภิชาติพงศ์กลับมาถึงเมืองไทยแล้ว จะได้มีการจัดการแถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ รวมทั้งเสวนาถึงการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ในประเทศไทย โดย วัน เวลา และสถานที่จัดงานจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
จึงเรียนให้ท่านสื่อมวลชน ทราบและขอความกรุณาช่วยเผยแพร่ข้อมูลมา ณ ที่นี้ด้วย และหากท่านสื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องแสง ศตวรรษ (ข้อมูลภาษาอังกฤษและไทย รวมทั้งรูปภาพ) สามารถเข้าไปดูได้ที่ในเว็บ www.kickthemachine.com/works/Syndromes.html
ขอให้เสรีภาพฉายแสงในจิตใจของท่าน
ด้วยมิตรภาพ
‘แสงศตวรรษ’ หนังดีที่เมืองไทยไม่ต้องการ, ประชาไท, 11 เมษายน พ.ศ. 2550
[ผ่าน คนป่วย]
technorati tags: censorship, films, Apichatpong Weerasethakul
No comments:
Post a Comment