วันนี้แวะคิโนะก่อนกลับบ้าน ได้หนังสือมาสองเล่ม
ยังไม่ได้ซื้อ “จักรวาลวิทยา” เก็บไว้ก่อน ซื้อศูนย์หนังสือจุฬาดีกว่า มีลด (บัตร TK Park)
สองเล่มนั้นคือ
“ไม่มีโทรศัพท์และเครื่องปรับอากาศ” โดย วรพจน์ พันธุ์พงศ์ และ
“เมืองใหญ่ในวงเล็บ” โดย วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ
วรพจน์ พันธุ์พงศ์ ...
ผมรู้สึกว่า ตัวเองออกจะระมัดระวังการเรียกตัวเองว่าเป็นแฟนผลงานใครอยู่มาก เพราะโดยนิสัยส่วนตัว ไม่ได้เป็นคนติดตามอะไรได้นาน ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะเป็นพัก ๆ เสียมากกว่า ช่วงไหนสนใจเรื่องอะไรชอบเสพอะไร ก็เสพไป
แต่เรื่องมาถามว่า คนนี้ออกหนังสือมากี่เล่มแล้ว ออกเทปมากี่ชุด แต่งงานมีลูกรึยัง อย่าถามเลย จนปัญญา เอาเป็นว่า ผมชอบผลงานก็แล้วกัน ถ้ามีโอกาสตามก็ตาม เท่านั้น
ดังนั้นเรื่องจะสถาปนาตนเป็นแฟนเพลงแฟนน้ำหมึกใคร ดูมันไม่เข้ากับผมเอาเสียเลย นอกจากจะเขินแล้ว ยังรู้สึกละอายเอาเสียด้วย (ยิ่งถ้าไปเทียบกับเหล่า “แฟนพันธุ์แท้” ที่เห็นในเกมโชว์แล้ว .. เหอะ ๆ)
แต่ถ้าถามว่า ชอบงานใครบ้าง ที่ชอบ ๆ เลยน่ะ เอาแบบเห็นแล้วไว้เนื้อเชื่อใจกัน ไม่ต้องมากความ ไม่ต้องรอใครแนะนำว่าน่าอ่าน เห็นปุ๊บหยิบได้เลย (และถ้ามีทุนทรัพย์ ก็พาไปจ่ายตังค์ เอาออกนอกร้าน)
แบบนี้ตอบกันได้ และหนึ่งในนั้น มี วรพจน์ อยู่แน่
ส่วนคนอื่น ๆ ในรายการ ก็จำเป็นต้องมี เสกสรรค์ ประเสริฐกุล และ ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา
ผมชอบอ่านเรื่องเล่าน่ะ เรื่องเล่าของเรื่องจริง และเรื่องจริงของเรื่องเล่า
เรื่องเล่าของความคิดและประสบการณ์ที่ผ่านการคัดสรรกลั่นกรองมาชั้นหนึ่งแล้ว ไม่ใช่เล่าแบบทื่อ ๆ
บทสัมภาษณ์ผู้คน ที่ทั้งคำตอบและคำถาม ต่างผ่านการคิดมาแล้ว ไม่ใช่ถามไปเรื่อย
แม้แต่จะอ่านเรื่องสั้น ผมก็ยังพบว่า เรื่องสั้นทั้งเกือบทั้งหมดที่ผมชอบนั้น เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ของผู้เขียนนั่นเอง ไม่ใช่เรื่องจินตนาการทั้งหมด
(ส่วนนิยายเรื่องยาวนั้น ในสองสามปีที่ผ่านมา ผมพบว่าตัวเองไม่มีสมาธิยาวพอที่จะอ่านอะไรอย่างนั้นได้อีก)
...
ที่จุดชำระเงิน มีที่คั่นหนังสือให้หยิบ สีให้เลือกสามลาย – เด็ก ๆ กระโจนลงน้ำ, เด็ก ๆ ขี่จักรยาน, และ เด็ก ๆ เล่นว่าว จับแมลง
ผมเลือก เด็ก ๆ ขี่จักรยาน ให้กับ เมืองใหญ่ในวงเล็บ
เด็ก ๆ เล่นว่าว จับแมลง ให้กับ ไม่มีโทรศัพท์และเครื่องปรับอากาศ
...
ที่ป้ายรถเมล์ ผมเปิดอ่านคำนำของ ไม่มีโทรศัพท์และเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเขียนโดย ภิญโญ เนื้อหาพูดถึงมิตรภาพของทั้งสองนักเขียน/คนทำหนังสือ ผู้ชายก็กอดกันได้
พลิกไปหน้าถัดไป เริ่มบทแรก
ชื่อบทนั้นคือ “กาลครั้งหนึ่ง โลกนี้เคยมีจักรยาน”
ผมค่อย ๆ หยิบหนังสืออีกเล่มขึ้นมา สลับที่คั่นหนังสือของหนังสือสองเล่มกัน
คิดว่าอย่างนี้น่าจะดีกว่า
technorati tags: books
2 comments:
ชอบอ่านหนังสือของคุณวรพจน์เหมือนกัน อ่านเล่มนี้ยัง http://project-ile.net/lulu/books/
ผมก็เป็นแฟนหนังสือของคุณวรพจน์นะพี่
(น่าจะเรียกว่าแฟนหนังสือได้)
มีเกือบทุกเล่มเลย
(รู้สึกจะขาดไปเล่มนึง
ถ้าจำไม่ผิดคือเล่มที่เกี่ยวกับผู้ให้กำเนิดรายการ คนค้นคน(ตัวไหนทีใช้ ค คน, และมันอยู่ตรงไหนของแป้นพิมพ์ล่ะนี่) และ กบนอกกะลา (จำชื่อไม่ได้)
(เอ่อ.... รู้สึกเหมือนจะจำข้อมูลผิดพลาดยังไงไม่รู้ ใช่คนนี้ฤเปล่านะ?)
เล่มแรกที่ได้ทำความรู้จักกับความคิดของคุณวรพจน์ และยังคงชอบที่สุดมาจนบัดนี้คือ "ไปตามเส้นทางของเรา"
อ่านตอนอยู่เยอรมันสามเดือนเมื่อปลายปี 2546
จากนั้นก็ไม่ต้องการที่จะพลาดหนังสือของเขาเลยสักเล่ม
....อยากได้รู้จักตัวเป็นๆ ใครช่วยที....
Post a Comment