humanistic informatics for human freedom
ทร 4789 สีส้ม กะกลางคืน — แท็กซี่ไม่รับคนไทย (หน้าธนิยะพลาซ่า สีลม 30 ม.ค. ห้าทุ่ม )
(หรือควรจะเป็นสิทธิของเค้ารึเปล่า ? ที่จะเลือกผู้โดยสารได้ ?)
พบเห็นพฤติกรรมนี้ได้ทั่วไป จากแท็กซี่ในสวนลุมไนท์บาร์ซาร์ และสยามสแควร์ตอนดึก ๆ เรียกไปไหนก็ไม่ไป
technorati tags: taxi, Bangkok
ตามกฏหมายเขาต้องรับนิ ห้ามเลือก
กลับไปไทย1เดือนผมเจอแบบนี้บ่อยนะ กลางวันก้อเจอบางคันจะเปิดกระจกถาม แล้วก้อไม่ไป เคยเจอ4-5คันติดๆกันด้วยผมโคตรอารมณ์เสียอ่ะ ปิดประตูแรงกลับไปบ่อยเหมือนกันขึ้นแท๊กซี่คันอื่น คนขับเค้าก้อด่าไอ้พวกนี้เหมือนกัน เห็นแก่ตัวมันจะเลือกรับผู้โดยสารที่ไปตามทางที่มันต้องการเรื่องกฏหมายผมไม่แน่ใจเหมือนกันนะ ลืมไปแล้ว มีแท๊กซี่เคยบอกไว้ ก็คือเค้ามีสิทธ์เลือกรับลูกค้าได้แต่ถ้ากดมิเตอร์แล้วเปลี่ยนใจ ไม่เอา กูไม่ไปละ แบบนี้ร้องเรียนได้ว่าด้วยเรื่องเลือกรับลูกค้าที่เป็นคนต่างชาติ อันนี้ก้อเป็นไปได้นะ เคยมีแท๊กซี่บอกไว้อีก มันจะมีบางคน รับแต่ฝรั่งแล้วมันจะไม่กดมิเตอร์ มันจะคิดตังเองเลย แล้วแพงโคตรอ่ะแท๊กซี่คันนั้นเล่าว่ามีฝรั่งมาขึ้น เค้ากดมิเตอร์ปกติ แล้วราคาถูกไงฝรั่งเห็นแล้วตกใจ ปกติไม่เคยนั่งถูกแบบนี้ เลยให้ติ๊บเพิ่มเลย
โดนแบบนี้บ่อยเหมือนกันว่าจะทำเวบรวมทะเบียนแท็กซี่พวกนี้เลย
เต็ง: ใช่ ๆ เค้าเลือกแต่นักท่องเที่ยวที่รู้เพราะว่า ตอนไปสวนลุมไนท์ แท็กซี่มันวิ่งมาหาเองเลย โบกมือเรียกเรา ถามว่าไปไหม ๆ ถามเป็นภาษาอังกฤษ เราไม่ได้ว่าอะไรก็เปิดประตูขึ้นรถ บอกว่าไปบ้าน ภาษาไทย ยังไม่ทันจะพูดจบ เค้าส่ายหัวแล้ว บอกไม่ไป ... เออ เอากะมันสิเป็นแบบนี้หลายคันมาก ๆ เลยต้องออกมาเรียกข้างนอก -- ก็ทำรถติดอีก .. จริง ๆ ข้างในเค้าทำที่ให้เรียกไว้แล้ว เราก็อยากเรียกข้างใน แต่มันเรียกไม่ได้ซักทีนี่นาขึ้นคันข้างนอก พี่เค้าว่า เป็นแบบนี้แหละเหมือนจะต้องมีจ่ายค่าคิวกันด้วย ถึงจะเข้าไปจอดข้างในได้ ไม่รู้จริงไหม----ยิ่งถ้าเป็นสามล้อนี่ยิ่งหนัก คิดเป็นรายหัวเลย แถวข้าวสาร... แต่สามล้อมันไม่มีมิเตอร์อยู่แล้ว ก็ตามแต่ตกลงราคา ตรงนี้ก็โอเค -- แต่เรื่องตกลงราคา กับเรื่องเลือกรับผู้โดยสาร มันคนละเรื่องกันนะ (แต่เกี่ยวข้องกัน เพราะสามารถเลือกไม่รับ โดยบอกราคาสูง ๆ ได้)----pit: ผมคิดอยู่เหมือนกัน เลยจดเบอร์มาเนี่ยเอามะ ?
ข้อมูลที่น่าจะมี- ทะเบียน- สีรถ (ถ้าจำได้)- อู่/สหกรณ์ไหน หรือว่าส่วนตัว (ถ้าจำได้)- ชื่อคนขับ (ถ้าจำได้)- เรียกตอนกี่โมง- เรียกที่ไหน- จะเรียกไปไหน (เอาไว้เป็นข้อมูล เผื่อบางทีเค้าอาจจะไปไม่ได้จริง ๆ // เอามาเทียบกับ เวลาเรียก ที่ ๆ เรียก กับ ที่ตั้งของอู่)ใส่ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น
เป็นบ่อยที่บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง (ช่วงเวลา 22.00-24.00 น.) ไม่เคยเรียกได้เลยแม้แต่คันเดียว ทุกคันพร้อมใจไม่ไป จนต้องเดินหนี้ออกจากโซนนั้น ไม่งั้นไม่ได้กลับบ้านแน่ -*-
เป็นเหมือนกัน สดๆ ร้อนๆ เมื่อคืนเลยประมาณ 3 ทุ่ม เรียกแท็กซี่ตรงรถไฟฟ้าศาลาแดง คันที่สามแหนะกว่าจะได้กลับบ้าน
ป้อง, จิ: สงสัยจะเรียกที่เดียวกันหมด :P
มีวันนึงนั่งรถกลับบ้านตอนกลางคืน อยู่ไม่ไกลจากสวนลุมไนท์มากเวลาดึกแล้วนะ คือถ้าจำไม่ผิดถนนตรงที่แท๊กซี่จอดหน้าสวนลุมไนท์มันจะมีหลายเลน หลายเกาะกลางวันนั้นถนนสองเลนหน้าสวนลุมไนท์เต็มไปด้วยแท๊กซี่จอดรอเป็นคิวยาวเหยียดก็คือเหมือนกับยึดถนนไปเลย แล้วก็เป็นตัวการที่ทำให้ถนนเส้นนั้นติดพอควรคือเรื่องแท๊กซี่จิงๆจะโทษแท๊กซี่อย่างเดียวก็ไม่ได้ ยังมีตัวการอื่นอีกเพียบอันดับแรกคือตำรวจเลย ถ้าตำรวจไม่เก็บส่วน ดูแลทุกอย่างให้เป็นระเบียบ ทำให้คนเคารพกฏหมาย ก็คงไม่เป็นแบบนี้แล้วที่สำคัญสุดก้อคือออยู่แท๊กซี่เลยนี่แหล่ะคือแม่ผมช่วงนึงรถเสีย เค้านั่งแท๊กซี่ก้อถามนู่นถามนี่เยอะแล้วมาเล่าให้ฟังไอ้พวกอู่เนี่ย สบาย แค่หาตังไปดาวน์รถมาได้ก็สบายละเงินค่าเช่าแท๊กซี่วันๆนึงเนี่ย ก็เอามาจ่ายค่าโอน คนขับรถแท๊กซี่มีมาสมัครงานเพียบบางคนรายได้ไม่ดีก็มาทำเป็นอาชีพเสริม สรุปเจ้าของอู่มีแต่จะโตแล้วพอไม่มีการควบคุม แท๊กซี่ก้อมีเพียบเต็มถนน ทำให้รถติดแต่คราวนี้แล้วแต่จิตสำนึกของคนขับ เรื่องลูกค้าฝรั่ง เรื่องการรับคน เรื่องสถานที่ที่จะไปส่งแต่ถามๆดูก็เครียดเหมือนกันนะหลายคน ขับรถออกมาอันดับแรกต้องหาเงินให้พอค่าเช่าค่าแก๊ซก่อนแล้วถึงจะได้กำไร(ค่าส่วยตำรวจอีก) บางคนขับแล้วขาดทุน วันต่อๆไปก็จะหาวิธีที่ดีที่สุดฉะนั้นเพื่อเป็นการยุติธรรมต่อคนขับแท๊กซี่น่าจะหาทางควบคุมปริมาณรถของอู่ด้วยรวมถึงน่าจะทำลิสต์ตำรวจเก็บส่วยด้วย(ทำลิสต์ตำรวจไม่เก็บส่วยคงง่ายกว่า)
เขาต้องรับครับ... ถ้าเกิดซึ่งหน้าก็แจ้งตำรวจจับได้เลย กฎหมายบังคับไว้ แล้วยังมีสายด่วนเบอร์สี่ตัวให้ร้องเรียนด้วย เข้าใจว่าเป็นของกรมการขนส่ง เคยอ่านเจอในวารสารฉลาดซื้อครับ ถ้าค้นเจอแล้วจะบอกแต่อีกเรื่องที่น่ารำคาญ จนผมต้องตัดปัญหาคือ ทุกครั้งที่จะเรียกผมจะไม่บอกปลายทาง แต่จะถามก่อนว่า "ผมมีแบ้งค์ห้าร้อย มีทอนหรือเปล่าครับ" ถ้าบอกว่าไม่มี ผมก็ปิดประตูเรียกคันอื่นเลยมันน่ารำคาญที่เราไปถึงจุดหมายแล้วเขาไม่มีเงินทอน คนที่รับภาระคือผู้โดยสารต้องวิ่งแลกเงิน ทั้งที่โชเฟอร์ต้องเป็นคนรับผิดชอบ ต้องตระเตรียมเงินปลีกมาให้พร้อม ถ้าหมดต้องจัดการวิ่งแลกเงินเอง ไม่ใช่ให้ผู้โดยสารต้องวิ่งหน้าตั้ง ตัวเองนั่งสบายใจเฉิบ... คนเขาต้องการความสะดวกสบายไม่ใช่เหรอ ถึงโบกแท็กซี่
Post a Comment
11 comments:
ตามกฏหมายเขาต้องรับนิ ห้ามเลือก
กลับไปไทย1เดือนผมเจอแบบนี้บ่อยนะ กลางวันก้อเจอ
บางคันจะเปิดกระจกถาม แล้วก้อไม่ไป เคยเจอ4-5คันติดๆกันด้วย
ผมโคตรอารมณ์เสียอ่ะ ปิดประตูแรงกลับไปบ่อยเหมือนกัน
ขึ้นแท๊กซี่คันอื่น คนขับเค้าก้อด่าไอ้พวกนี้เหมือนกัน เห็นแก่ตัว
มันจะเลือกรับผู้โดยสารที่ไปตามทางที่มันต้องการ
เรื่องกฏหมายผมไม่แน่ใจเหมือนกันนะ ลืมไปแล้ว มีแท๊กซี่เคยบอกไว้ ก็คือเค้ามีสิทธ์เลือกรับลูกค้าได้
แต่ถ้ากดมิเตอร์แล้วเปลี่ยนใจ ไม่เอา กูไม่ไปละ แบบนี้ร้องเรียนได้
ว่าด้วยเรื่องเลือกรับลูกค้าที่เป็นคนต่างชาติ อันนี้ก้อเป็นไปได้นะ เคยมีแท๊กซี่บอกไว้อีก มันจะมีบางคน รับแต่ฝรั่ง
แล้วมันจะไม่กดมิเตอร์ มันจะคิดตังเองเลย แล้วแพงโคตรอ่ะ
แท๊กซี่คันนั้นเล่าว่ามีฝรั่งมาขึ้น เค้ากดมิเตอร์ปกติ แล้วราคาถูกไง
ฝรั่งเห็นแล้วตกใจ ปกติไม่เคยนั่งถูกแบบนี้ เลยให้ติ๊บเพิ่มเลย
โดนแบบนี้บ่อยเหมือนกัน
ว่าจะทำเวบรวมทะเบียนแท็กซี่พวกนี้เลย
เต็ง: ใช่ ๆ เค้าเลือกแต่นักท่องเที่ยว
ที่รู้เพราะว่า ตอนไปสวนลุมไนท์ แท็กซี่มันวิ่งมาหาเองเลย โบกมือเรียกเรา ถามว่าไปไหม ๆ ถามเป็นภาษาอังกฤษ เราไม่ได้ว่าอะไรก็เปิดประตูขึ้นรถ บอกว่าไปบ้าน ภาษาไทย ยังไม่ทันจะพูดจบ เค้าส่ายหัวแล้ว บอกไม่ไป ... เออ เอากะมันสิ
เป็นแบบนี้หลายคันมาก ๆ เลยต้องออกมาเรียกข้างนอก -- ก็ทำรถติดอีก .. จริง ๆ ข้างในเค้าทำที่ให้เรียกไว้แล้ว เราก็อยากเรียกข้างใน แต่มันเรียกไม่ได้ซักทีนี่นา
ขึ้นคันข้างนอก พี่เค้าว่า เป็นแบบนี้แหละ
เหมือนจะต้องมีจ่ายค่าคิวกันด้วย ถึงจะเข้าไปจอดข้างในได้ ไม่รู้จริงไหม
----
ยิ่งถ้าเป็นสามล้อนี่ยิ่งหนัก คิดเป็นรายหัวเลย แถวข้าวสาร
... แต่สามล้อมันไม่มีมิเตอร์อยู่แล้ว ก็ตามแต่ตกลงราคา ตรงนี้ก็โอเค -- แต่เรื่องตกลงราคา กับเรื่องเลือกรับผู้โดยสาร มันคนละเรื่องกันนะ (แต่เกี่ยวข้องกัน เพราะสามารถเลือกไม่รับ โดยบอกราคาสูง ๆ ได้)
----
pit: ผมคิดอยู่เหมือนกัน เลยจดเบอร์มาเนี่ย
เอามะ ?
ข้อมูลที่น่าจะมี
- ทะเบียน
- สีรถ (ถ้าจำได้)
- อู่/สหกรณ์ไหน หรือว่าส่วนตัว (ถ้าจำได้)
- ชื่อคนขับ (ถ้าจำได้)
- เรียกตอนกี่โมง
- เรียกที่ไหน
- จะเรียกไปไหน (เอาไว้เป็นข้อมูล เผื่อบางทีเค้าอาจจะไปไม่ได้จริง ๆ // เอามาเทียบกับ เวลาเรียก ที่ ๆ เรียก กับ ที่ตั้งของอู่)
ใส่ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น
เป็นบ่อยที่บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง (ช่วงเวลา 22.00-24.00 น.) ไม่เคยเรียกได้เลยแม้แต่คันเดียว ทุกคันพร้อมใจไม่ไป จนต้องเดินหนี้ออกจากโซนนั้น ไม่งั้นไม่ได้กลับบ้านแน่ -*-
เป็นเหมือนกัน สดๆ ร้อนๆ เมื่อคืนเลย
ประมาณ 3 ทุ่ม เรียกแท็กซี่ตรงรถไฟฟ้าศาลาแดง คันที่สามแหนะกว่าจะได้กลับบ้าน
ป้อง, จิ: สงสัยจะเรียกที่เดียวกันหมด :P
มีวันนึงนั่งรถกลับบ้านตอนกลางคืน อยู่ไม่ไกลจากสวนลุมไนท์มาก
เวลาดึกแล้วนะ คือถ้าจำไม่ผิดถนนตรงที่แท๊กซี่จอดหน้าสวนลุมไนท์มันจะมีหลายเลน หลายเกาะกลาง
วันนั้นถนนสองเลนหน้าสวนลุมไนท์เต็มไปด้วยแท๊กซี่จอดรอเป็นคิวยาวเหยียด
ก็คือเหมือนกับยึดถนนไปเลย แล้วก็เป็นตัวการที่ทำให้ถนนเส้นนั้นติดพอควร
คือเรื่องแท๊กซี่จิงๆจะโทษแท๊กซี่อย่างเดียวก็ไม่ได้ ยังมีตัวการอื่นอีกเพียบ
อันดับแรกคือตำรวจเลย ถ้าตำรวจไม่เก็บส่วน ดูแลทุกอย่างให้เป็นระเบียบ ทำให้คนเคารพกฏหมาย ก็คงไม่เป็นแบบนี้
แล้วที่สำคัญสุดก้อคือออยู่แท๊กซี่เลยนี่แหล่ะ
คือแม่ผมช่วงนึงรถเสีย เค้านั่งแท๊กซี่ก้อถามนู่นถามนี่เยอะแล้วมาเล่าให้ฟัง
ไอ้พวกอู่เนี่ย สบาย แค่หาตังไปดาวน์รถมาได้ก็สบายละ
เงินค่าเช่าแท๊กซี่วันๆนึงเนี่ย ก็เอามาจ่ายค่าโอน คนขับรถแท๊กซี่มีมาสมัครงานเพียบ
บางคนรายได้ไม่ดีก็มาทำเป็นอาชีพเสริม สรุปเจ้าของอู่มีแต่จะโต
แล้วพอไม่มีการควบคุม แท๊กซี่ก้อมีเพียบเต็มถนน ทำให้รถติด
แต่คราวนี้แล้วแต่จิตสำนึกของคนขับ เรื่องลูกค้าฝรั่ง เรื่องการรับคน เรื่องสถานที่ที่จะไปส่ง
แต่ถามๆดูก็เครียดเหมือนกันนะหลายคน ขับรถออกมาอันดับแรกต้องหาเงินให้พอค่าเช่าค่าแก๊ซก่อน
แล้วถึงจะได้กำไร(ค่าส่วยตำรวจอีก) บางคนขับแล้วขาดทุน วันต่อๆไปก็จะหาวิธีที่ดีที่สุด
ฉะนั้นเพื่อเป็นการยุติธรรมต่อคนขับแท๊กซี่
น่าจะหาทางควบคุมปริมาณรถของอู่ด้วย
รวมถึงน่าจะทำลิสต์ตำรวจเก็บส่วยด้วย
(ทำลิสต์ตำรวจไม่เก็บส่วยคงง่ายกว่า)
เขาต้องรับครับ... ถ้าเกิดซึ่งหน้าก็แจ้งตำรวจจับได้เลย กฎหมายบังคับไว้ แล้วยังมีสายด่วนเบอร์สี่ตัวให้ร้องเรียนด้วย เข้าใจว่าเป็นของกรมการขนส่ง เคยอ่านเจอในวารสารฉลาดซื้อครับ ถ้าค้นเจอแล้วจะบอก
แต่อีกเรื่องที่น่ารำคาญ จนผมต้องตัดปัญหาคือ ทุกครั้งที่จะเรียกผมจะไม่บอกปลายทาง แต่จะถามก่อนว่า "ผมมีแบ้งค์ห้าร้อย มีทอนหรือเปล่าครับ" ถ้าบอกว่าไม่มี ผมก็ปิดประตูเรียกคันอื่นเลย
มันน่ารำคาญที่เราไปถึงจุดหมายแล้วเขาไม่มีเงินทอน คนที่รับภาระคือผู้โดยสารต้องวิ่งแลกเงิน ทั้งที่โชเฟอร์ต้องเป็นคนรับผิดชอบ ต้องตระเตรียมเงินปลีกมาให้พร้อม ถ้าหมดต้องจัดการวิ่งแลกเงินเอง ไม่ใช่ให้ผู้โดยสารต้องวิ่งหน้าตั้ง ตัวเองนั่งสบายใจเฉิบ...
คนเขาต้องการความสะดวกสบายไม่ใช่เหรอ ถึงโบกแท็กซี่
Post a Comment