เรื่องของคนเหงาอีกแล้ว ให้ตายสิ
คนใกล้ตัวอย่างน้อยสองคน เคยพูดในโอกาสต่างกัน ว่า “กรุงเทพมันเหงา”
มองถนนโล่ง ๆ หน้าสยามสแควร์ตอนสี่ทุ่ม
พิจารณาแล้วว่า จริง
มันไม่ใช่เรื่องว่า รอบ ๆ ตัว ไม่มีหมาเดินซักตัว
แต่เป็น “ภาวะความรู้สึกที่อยากมีใครอยู่ด้วย”
แต่ก็ไม่รู้ว่ากรุงเทพ และ “หมานคร” ทั้งหลาย มีเคมีอะไร ที่ทำให้ผู้คนเกิดภาวะนั้นได้ถี่เหลือเกิน
หรือด้วยจังหวะของเมืองที่มันเร่ง เร็ว
เราเลยไม่มีโอกาสได้นึกถึงคนอื่นเท่าไหร่นักในช่วงเวลาปกติ
กู กู กู กู กู กู และ กู
และทันใดที่จังหวะผ่อน พอเริ่มจะนึกถึงคนอื่นได้ มันก็ตูมออกมา อย่างอดอยาก
(บางทีเพื่อจะพบว่า คนที่เราคิดถึง ยังอยู่ในจังหวะ กู กู กู กู กู อยู่ .. ก็เศร้าไป)
เอาบล็อกเหงา ๆ ไปอ่าน
“การมีแฟนของคนสมัยนี้ มันก็แค่การบริโภคร่วมกัน การหาโปรแกรมทำด้วยกันในวันเสาร์อาทิตย์ หรือการผ่านพ้นช่วงเทศกาลต่างๆไปด้วยกัน”
— buiberry's เบเบ๋
กับ
The Aesthetics of Loneliness
— ผมล่ะโคตรชอบชื่อบล็อกเค้าเลย ใช่ ในความเหงานั้นมีความงาม และเราควรจะเหงาอย่างสวยงามได้ใช่มั๊ยล่ะ ?
เพลงเพราะ ๆ หนังดี ๆ เยอะแยะ ก็มาจากความเหงานิ
อยู่กับมัน! (ให้ได้ ถ้าจำเป็น)
Sometimes I feel
Like I don't have a partner
Sometimes I feel
Like my only friend
Is the city I live in
The city of Angels
Lonely as I am
Together we cry
Red Hot Chili Peppers — Under the Bridge [mv]
tags: loneliness, city, urban
4 comments:
blog เรื่องเหงา ๆ อีกอันที่ผมเคยตามอ่าน (ไม่ได้ตามแล้ว เพราะเขาไม่ค่อยเขียนแล้ว) ก็ที่ http://biblioholism.com/hs/?p=1
ลองอ่านตั้งแต่อันแรก (เป็นอันที่เขาเริ่มเขียนตอนลาออกจากงานประจำ แล้วย้ายไปเป็น freelance ที่เชียงใหม่)
เอะ หรือว่า bact' เคยอ่านแล้ว?
ผมว่าการบริโภคร่วมกันมันเป็นส่วนนึงของการมีแฟนนะครับ
แต่ไม่ใช่ทั้งหมด :)
แล้วก็เห็นด้วยอย่างสูงที่เมืองใหญ่ ๆ ให้อารมณ์ กู กู กู ;)
lulu: ยังไม่เคยเลยครับ โอย เหงาคอมเพล็กซ์ :P
chang: อาการอยากให้มีใครไปบริโภคอะไรร่วมกันนี่ ... เป็นประมาณ กิ๊ก ได้ป่ะ ?
Post a Comment