ย้ายบล็อกไปที่ bact.cc แล้วนะครับ

พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
หยุด ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ ฟรี 2GB จาก Dropbox (sync กับ Windows, Linux, Mac, iPhone, Android ฯลฯ ได้)

2006-03-29

Traffic Jam is not affordable, it's CHEAP !

สืบเนื่องจาก โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี (อ้างถึงข้อเขียนเกี่ยวกับ อารยะขัดขืน ของ คนชายขอบ "อารยะขัดขืน: ทางออกสุดท้ายของประชาชน?"

รถติดเป็นเรื่องถูก-ถูก

เวลามีงานศพคนใหญ่คนโต ตรงวัดเทพศิรินทร์ใกล้ ๆ บ้านผมนี่ รถอย่างติด เพราะเค้าปิดถนนไปเส้นนึงเลย เอาไว้จอดรถ เพราะจอดในวัดมันไม่พอ
ถ้านั่งรถเมล์กลับจากที่ทำงาน หรือไปสยามมา (ปอ. 8, 15, 47, 48, 204) บางทีลงเดินยังเร็วกว่า

ถัดมาหน่อยนึง หน้าโรงพยาบาลกลาง คืนศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จะมีพ่อค้าแม่ค้ามากมายมาวางแผงแบกะดินขายของจิปาถะ เครื่องครัว/เตาแก๊สใหญ่ ๆ แบบที่ใช้ตามร้านอาหาร/โรงแรม วีซีดี วัสดุก่อสร้าง หนังสือเก่า เสื้อผ้า สารพัด รองเท้าข้างเดียวก็ขาย (หลาย ๆ อย่างก็เป็นของขโมยมา รถที่บ้านเคยถูกขโมยกระจกข้าง แจ้งความตำรวจ เค้าบอกให้ไปตามหาเอาที่ตลาดนี่แหละ อยู่หลังบ้าน เออ เจอเว้ย เลยซื้อคืนมา ไม่รู้จะทำไง) คนเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งคนขาย คนซื้อ คนล้นลงมาถึงถนน เพราะทางเท้ามันเต็ม รถเมล์ก็จอดป้ายไม่ได้ เพราะรถเข็น/ขนของจอดเต็มเลนซ้ายสุด จะติดอย่างนี้ไปจนถึงดึก ๆ เลย

หรือตรงตลาดโบ๊เบ๊ ไม่ไกลจากบ้าน เวลาเช้า ๆ ก็จะรถติดเหมือนกัน เพราะเป็นช่วงที่เค้าขนของส่งของ รวมทั้งพวกแผงขายเสื้อผ้าบนทางเท้าก็จะเก็บของกลับบ้านช่วงนั้น (แผงพวกนี้เค้าขายกันตอนเช้ามืด) ก็จะมีทั้งรถเข็น รถลาก สามล้อ รถกระบะ อีรุงตุงนังไปหมด เมื่อก่อนตอนยังเรียนประถม-มัธยมอยู่ ต้องผ่านเส้นนี้บ่อย ๆ ตอนไปโรงเรียน ยังจำได้

หรือเวลาห้างใหญ่ ๆ เค้ามีลดราคา ซัมเมอร์เซล มิดไนท์เซล ไทยแลนด์แกรนด์เซล (ที่ไม่ได้แปลว่า ขายชาติ นะ) รถก็จะมหาติดเหมือนกัน อย่างถ้าวันไหนเซ็นทรัลชิดลมมีลดราคานี่ รถมันจะติดไปถึงโน่นเลย เพชรบุรี ตรงซอยก่อนถึงช่อง 3 เก่าน่ะ (อาคารวานิช) บางครั้งพ่อก็จะปล่อยให้พวกผมกะแม่เดินลงไปก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยไปเจอกันในห้าง จะได้ไม่เสียเวลา

ประสบการณ์ที่ใกล้ ๆ กว่านั้น ก็คงเป็น ตอนรับปริญญา ทั้งของรุ่นพี่ ของตัวเอง ของเพื่อนของน้อง รถติดเหลือเกิน จำได้ว่าแค่จะเอารถออกจากสนามหลวงได้เนี่ย หมดไปแล้วหนึ่งชั่วโมง มองไปทางไหนก็มีแต่รถ รถ รถ และต้นมะขาม (ส่วนผีขนุนนั้น เค้าเป็นผีที่ดี ปฏิบัติตนตามจรรยาผี คือไม่ออกมาโต๋เต๋ตอนกลางวัน ผมก็เลยไม่เห็น)

นอกจากนี้ก็ยังมีกรณีอื่น ๆ อย่างตอนที่มีปิดถนนจัดงานออกร้านขายของ (ที่ช่วงนึงนิยมจัดบ่อย ๆ โดยใช้ชื่อแนว ๆ "ถนนคนเดิน" แรก ๆ ก็เน้นเรื่องศิลปะวัฒนธรรม มีการแสดงต่าง ๆ ทำไปทำมา หลัง ๆ ก็ไม่ต่างกับร้านออกร้านขายของซะเท่าไหร่) หรืองานใหญ่ ๆ โต ๆ อื่น ๆ ทั่วไป

งานบอลธรรมศาสตร์-จุฬานี่ก็ทำให้รถติดพอสมควร แต่ไม่ค่อยสาหัสมาก เนื่องจากเดี๋ยวนี้ พวกที่มีรถเค้าหนีไปจอดกันไกล ๆ แล้วโหนรถไฟฟ้ามา ไม่งั้นเพื่อนล้อแย่

ทั้งหลายทั้งปวงที่ว่ามา ทำให้รถติดมั๊ย ? ทำให้คนอื่นเดือดร้อนมั๊ย ?

ติดสิ รวม ๆ กันแล้ว เอาแค่แถวบ้านผม ปีนึงนี่ต้องเกินสองอาทิตย์แน่ ๆ

แล้วเราได้ประโยชน์อะไรมั๊ย ?

ส่วนใหญ่ที่ว่ามาข้างบนนั่น ผมไม่ได้แฮะ แล้วในกรณีที่ผมได้เนี่ย ผมก็คิดว่าผมเป็นคนส่วนน้อยน่ะ คือต้องมีคนเดือดร้อนเพราะไอ้งานที่ผมได้ประโยชน์นี่แหละ (อย่างวันที่ผมรับปริญญา ก็คงมีหลายคนนั่งหงุดหงิดอยู่ในรถ .. ซึ่งรวมจำนวนแล้วน่าจะเยอะกว่าคนที่รับปริญญานะ)

ก็แล้วทำไม เรายังยอมกันได้ ?

ขอยกคำพูดนี้อีกทีเถอะ:

“ผู้ใดก็ตามที่อ้างว่าตนนิยมเสรีภาพ แต่ในขณะเดียวกันก็ดูแคลนความวุ่นวาย คือคนที่อยากเห็นพืชพันธุ์งอกงามโดยไม่พรวนดินก่อน
พวกเขาอยากเห็นฝนที่ไม่มาควบคู่ไปกับเสียงฟ้าร้องและฟ้าแลบ
พวกเขาอยากได้มหาสมุทรที่ปราศจากเสียงกึกก้องอันน่ากลัวของผืนน้ำ
การขัดขืนครั้งนี้อาจเป็นการขัดขืนทางศีลธรรม ทางร่างกาย หรือทั้งสองทาง แต่มันจะต้องเป็นการขัดขืน
อำนาจไม่เคยยอมอ่อนข้อโดยปราศจากการเรียกร้อง
มันไม่เคยยอมในอดีต และจะไม่มีวันยอมในอนาคต.”

— เฟรเดอริค ดักลาส, ชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ผู้สนับสนุนการเลิกทาส

ถ้ารถมันจะติดซักหนึ่งเดือน จีดีพีจะหดไป 1% แต่เราได้ปลุกสำนึกของคนในชาติ ได้กระตุ้นให้คนออกมาหาความรู้ ติดตามข่าวสารบ้านเมือง ถกเถียง เรียกร้องในสิ่งที่ถูกต้อง ได้ืทำให้คนทั่วไปรู้ว่า ประชาธิปไตย ไม่ใช่แค่ การเลือกตั้ง .. ซึ่งที่สุดจะนำไปสู่พัฒนาการทางการเมืองที่ก้าวหน้าขึ้น ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น ..
มันก็โคตรจะคุ้มเลยไม่ใช่หรือ ?


หลาย ๆ คนชอบพูดว่า บริหารประเทศ ก็ไม่ต่างอะไรกับบริหารบริษัท
แม้ผมจะไม่เห็นด้วย เพราะคิดเสมอว่า จุดหมาย และการมอง ประโยชน์ และ ต้นทุน ของสอง 'กิจการ' ที่ว่านั้น มันต่างกัน
แต่วันนี้จะลองเห็นด้วยดูสักครั้ง

.. แล้วก็เลยสงสัยต่อ ..

ความมั่งคั่ง ที่ยั่งยืน ของบริษัททั้งหลาย ล้วนต้องมาจากการบริหารที่โปร่งใส ตรวจสอบได้
แล้วความมั่งคั่งของประเทศล่ะ ? ต้องการสิ่งเหล่านั้นมั๊ย ? หรือไม่ต้อง ?
บริษัทต่าง ๆ ต้องมีผู้ตรวจสอบบัญชี หรือเดี๋ยวนี้ก็มีฮิต พวกกระบวนการก็ต้องผ่านมาตรฐานต่าง ๆ อย่าง ISO 9000, ISO 14000 ถ้าเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ก็ต้อง CMM กัน ต้องผ่านการตรวจสอบรับรองคุณภาพมากมาย มอก. ISO JIS DIN FCC บางอันเค้าไม่ได้บังคับ ก็ยังเต็มใจไปสอบไปเรียกเค้ามาตรวจกัน
แล้วประเทศไม่ต้องมีอะไรพวกนี้เลยหรือ ?
ถ้าเผื่อไม่ได้สังเกต ก็ขออนุญาตชี้ให้เห็นว่า ทั้งหมดข้างบนนั่นน่ะ เป็นการตรวจสอบจากภายนอกทั้งสิ้น นั่นคือ ผู้ตรวจสอบอยู่นอกการควบคุมของผู้ถูกตรวจสอบ

หรือเราอยากเห็นประเทศโตแบบก้าวกระโดด ร่ำรวยใหญ่โต .. แต่มีจุดจบอย่าง Enron, Worldcom และ Livedoor ?

อาจจะเป็นเรื่องขำ ๆ ของเมืองไทย ที่คำว่า "ธรรมภิบาล" ฮิตกันในวงการธุรกิจมากกว่าวงการการเมือง

แต่ไม่รู้จะหัวเราะท่าไหนดี


ผมเห็นด้วยว่า การไปเดินขบวนบนท้องถนนน่ะ มันทำรถติด มีคนเดือดร้อน
แต่ผมก็เห็นว่า มันถูก ไม่ว่าจะมองแง่ไหน
ทั้งถูกต้องชอบธรรม และ ราคาถูกคุ้มค่า

ผมยอมจ่าย


Links:

10 comments:

Anonymous said...

Just drop by to read your blog. I agree with your conclusion naka.

You forgot about GM naka. I actually think it's a perfect example of (potential future of) Taxin's regime. Promise something you can't afford and refuse to change when there's chances na.
:-)

PPhetra said...

กรณี คนที่บ่นเรื่อง mob ทำรถติด
ผมว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ "รถติด" อย่างเดียว
(เหมือนกับที่ bact' พูดมา เพราะมันมี
เหตุให้รถติดอยู่ชั่วนาตาปีอยู่แล้ว
ไม่ใช่พึ่งจะมาเกิดตอน mob)

ประเด็นน่าจะเป็น "การต่อต้าน"
คนในประเทศเรา ไม่ค่อยชอบ คนที่มีพฤติกรรมหัวแข็ง (รวมทั้งคนที่มีหน้าตาแข็งกร้าว)
ลองนึกถึงหมอพรทิพย์สิ มีหลายคนเลยที่ไม่ชอบหมอ เพราะหมอดู aggressive
หรือ พวก NGO ทั้งหลาย ที่มักต้องใช้
ความ aggressive เข้าสู่กับอำนาจ +
นิสัยหัวแข็ง (ไม่งั้นคงเป็น ngo ไม่ได้หรอก)
ก็มีคนไม่ชอบอยู่มาก

น่าแปลก ที่เวลา "ปัจเจกชนที่ไม่ชอบการต่อต้าน"
อยู่กับครอบครัว มักจะมีความสามารถในการต่อต้านสูง, และมองการต่อต้านเป็นเรื่องธรรมดา
(ใครที่ไม่เคยเถึยงพ่อแม่บ้าง)

ประเทศมันก็เหมือนครอบครัวแหล่ะ
นอกจากช่วงเวลาจี๋จ๋าแล้ว มันก็ต้องทะเลาะกันบ้าง

Anonymous said...

ใครไม่ได้รับผลกระทบตรงๆ
คงไม่เดือดร้อนอะไร

พวกไปประท้วงนี่ เสียสละน่าดู
ไม่รู้เอาเงินมาจากไหนกัน

NOI said...

เมื่อก่อนผมเกลียดทักษิณนะ แต่ตอนนี้เกลียดสนธิมากกว่า :P

ถ้าทุกคนคิด ทำ อย่างที่คุณเทพเสนอไว้ที่ blog ก็น่าจะจบ คือเลือกตั้งก็เลือกไป แต่การตรวจสอบต้องดำเนินต่อไป

แรกๆ ก็เชียร์ม๊อบ ต่อมาชักรู้สึกแหม่งๆ แล้วก็เริ่มรำคาญ เพราะไม่รู้จักจบจักสิ้นกันเสียที ขู่ยึดทรัพย์อีก เฮ้อ อย่างนี้ใครมันจะออกล่ะ ต้องให้เขาออกก่อนดิค่อยยึดทรัพย์ เหมือนที่โบราณบอกว่า อย่าตีหมาจนตรอก แหม่ แค่นี้ก็ต้องให้สอนด้วย ;)

อ้อ เรื่องรถติด เหตุการณ์อื่นๆ ที่ยกตัวอย่างมา กับเหตุการณ์นี้ ผมว่าไม่เหมือนกันนะ เพราะเหตุการณ์อื่นๆ ไม่มีเจตนาทำให้ประชาชนแตกความสามัคคี ทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ... เมื่อเจตนาต่างกัน ย่อมส่งผลแห่งกรรมต่างกันครับ :)

bact' said...

คาราวานคนจนก็ปิดถนนบ้างแล้ว หน้าเนชั่นเลย

ตอบพี่หน่อย:
ผมไม่คิดว่าการชุมนุมนี้ต้องการให้ "คนในชาติ" แตกความสามัคคีนะครับ
ม็อบเค้าอาจจะไม่สามัคคีกับทักษิณ แต่ก็อย่างที่หลาย ๆ คนว่า ถ้ามีคนมาปล้นบ้านเรา ทำไมเราต้องสามัคคีกับโจร ? ต้องประนีประนอมกับโจร ?

ผมว่าเราต้องแยกคนร่วมชุมนุมออกจากแกนนำ
อย่างเรื่องระคายฯ อะไรนี่ ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องการรัฐบาลพระราชทาน
การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีหลายกระแสมาร่วมมือกัน
ไม่ใช่มีแค่กลุ่มพันธมิตรอย่างเดียวครับ
จุดหมายร่วมพื้นฐานนั้น คือเอาทักษิณออก แต่เรื่องอื่น ๆ นั้นเรียกว่า กลุ่มเคลื่อนไหวต่าง ๆ แทบจะเห็นไม่ตรงกันเลย ทั้งเรื่องการชุมนุมยืดเยื้อ การตีความมาตรา 7 การขอรัฐบาลพระราชทาน การบอยคอตการเลือกตั้ง
ถ้าเรามองว่าม็อบทั้งหมดเป็นกลุ่มเดียว และคิดเหมือนกันหมด
มันก็เหมือนเราว่า ทุกคนที่รักทักษิณนั้นไม่รักชาติ ซึ่งจริง ๆ มันก็ไม่ใช่ เพราะแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเอง
ไม่ใช่ว่าคนที่เชียร์ทักษิณทุกคนจะโง่หน้ามืดตามัว
หรือคนที่ไปชุนนุมทุกคนถูกสนธิหลอก ถูกจำลองหลอก
(อย่างที่กลุ่มสนับสนุนทักษิณพยายามจะบอก แล้วก็ทำการดิสเครดิตแกนนำกลุ่มพันธมิตร เพื่อที่จะโยงไปว่า เมื่อแกนนำไม่มีความชอบธรรมแล้ว ผู้ชุมนุมทั้งหมดก็ไม่ความชอบธรรม ซึ่งผมว่ามันไม่ใช่ มันง่ายไป)


อาจารย์มหาลัย นักวิชาการ กลุ่มอาชีพ ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนในบ้านเมือง
ที่เค้าไม่เอาทักษิณ หลายคนก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่มพันธมิตร
บางคนนั้นอยู่ในกลุ่มที่เป็นแนวร่วมกับกลุ่มพันธมิตร แต่ก็ไม่ใช่กลุ่มพันธมิตร
กลุ่มสนนท. ที่ไปร่วมชุมนุม ก็โบกธงว่าไม่เอารัฐบาลพระราชทาน
หรือบางคนนั้นก็ไม่ได้อยู่กลุ่มไหนเลย อย่างอ.อัมมารและกลุ่มจากทีดีอาร์ไอ ซึ่งผมมองว่าเป็นกลุ่มอิสระ (แต่ไม่เป็นกลาง) หรือ อ.ธีรยุทธ
ส่วนบางคนออกตัวชัดเจนเลย ว่า ถึงแม้จะไม่เอาทักษิณ,สนับสนุนการต่อต้านทักษิณ แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มพันธมิตร อย่าง อ.สมศักดิ์ จาก มช.
หรือบางคนถึงไม่ได้ไปร่วม แต่ก็สนับสนุนการชุมนุม


ตัวไม่ได้เชียร์สนธิตั้งแต่แรกแล้ว ไม่รู้จะเชียร์ทำไม
(ผมต้องขอบคุณเรื่องที่เค้าทำบางอย่าง แต่ไม่เชียร์)
แต่ผมสนับสนุนผู้ชุมนุมครับ

bact' said...

pressjargon: แล้วก่อนหน้านี้ รถไม่ติดหรือวะ?
http://www.pressjargon.org/?p=141

Anonymous said...

คุณ bact' กรณีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ยังจะนำ
ไปสู่ทางอื่นที่ไม่ใช่รัฐบาลพระราชทานได้อีกเหรอครับ

ถ้า toxin ลงไปแล้ว กลุ่มที่ไม่เอานายกพระราชทาน
จะแยกตัวออกจากพันธมิตรงั้นหรือ ?

แค่มีคนยืนโบกธงไม่เอานายกพระราชทาน
ในกลุ่มพันธมิตรพระราชทาน
ไม่ได้แสดงว่ามีการต่อสู้หลายแนวทางแต่อย่างใด

และท้ายที่สุดก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองก็เป็นฐานของกลุ่ม
เรียกร้องนายกพระราชทานเช่นกัน

ในเมื่อไม่มีแนวทางการต่อสู้ของตัวเอง จนต้องยอมปิดตาข้างหนึ่ง
เพียงเพื่อไล่คนๆเดียว(ที่ตอนนี้โดนวาดภาพราวกับเป็นเทพอสูรลูซิเฟอร์)

การไปยืนโบกธงไม่เอานายกพระราชทาน
ในกลุ่มพันธมิตรพระราชทาน
ก็เป็นได้แค่การหลอกตัวเอง ว่ากูไม่ได้ต้องการ
นายกพระราชทานนะ แค่นั้นเอง

รูป

bact' said...

ตอบคุณ แม้วphobia:

ผมไม่ทราบจริง ๆ ครับ ว่าการชุมนุมนี่ จะนำไปสู่อะไร
แต่อย่างน้อย ภาพการ์ตูนตามลิงก์นั่น ก็น่าจะยืนยันได้ว่า
มันไม่ได้มีเอกภาพจริง ๆ ในหมู่ผู้ชุมนุม
(และไม่ได้หลอกตัวเองด้วย - ก็ไม่ได้อยากได้จริง ๆ นี่นา)

bact' said...

fringer ลิงก์มานี่ด้วย โอว...

bact' said...

นี่ก็อีกวิธีของอารยะขัดขืน ..
ฉีกบัตรเลือกตั้งซะเลย