ย้ายบล็อกไปที่ bact.cc แล้วนะครับ

พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
หยุด ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ ฟรี 2GB จาก Dropbox (sync กับ Windows, Linux, Mac, iPhone, Android ฯลฯ ได้)

2005-12-06

Take It for Granted

(เขียนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ที่บ้าน เพิ่งโพสต์วันนี้)

ผม งง ๆ (ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไร เออ มัน งง ๆ) นิดหน่อย เวลาได้ยินคนคุยกันเรื่องเด็กทุน ตีวงมาอีกนิด เด็กทุนรัฐบาลไทยที่มาเรียนต่อเมืองนอก

คือ บางทีก็งงเสียงที่มาจากเด็กทุนเอง แต่บางครั้งก็งงกับเสียงที่พูดถึงเด็กทุน

หัวข้อที่ฮอต ๆ ตามเว็บบอร์ด อย่างพันทิป.คอม ห้องไกลบ้าน ก็คือเรื่อง หนีทุน
คือเรียนจบแล้ว ไม่ยอมกลับไปใช้ทุนคืนตามสัญญา
เหตุผลก็ต่าง ๆ นา ๆ กันไป บ้างก็ได้งาน บ้างก็ได้ครอบครัว (แต่บางรายก็พาแฟนกลับมาเมืองไทยด้วยได้! อันนี้เจ๋งจริง :P) อะไรก็ตาม สุดท้ายคือ กลับไปทำงานใช้ทุนคืนที่เมืองไทยไม่ได้นะ ไม่ได้จริง ๆ เข้าใจด้วย
บางคนก็ขอชดใช้แทนเป็นตัวเงิน ซึ่งสัญญาก็จะมีระบุไว้ สองเท่าบ้าง สามเท่าบ้าง
บางคนก็ขอหนีไปเฉย ๆ เลยละกัน แหม เงินตั้งเยอะ จะหามาจากไหน แน่จริง อยากได้ ก็ตามมาฟ้องเอาสิ
ไม่ว่ากรณีไหน คนค้ำประกันที่เมืองไทย ก็จบ หมดเครดิต

บางคนว่า คนจะไปได้ดี จะรั้งเค้าไว้ทำไม อยู่เมืองไทยก็ไม่รุ่ง
เค้าอยู่เมืองนอกนี่ อาจจะทำประโยชน์ให้เมืองไทย ได้มากกว่าอยู่เมืองไทยซะอีก (ผมก็ว่า บางทีมันก็จริงนะ อย่างโครงการสมองไหลกลับ (RBD) ของสวทช. ก็คงประมาณนี้ คนไทยที่ทำงานอยู่เมืองนอกทำงานร่วมกับคนไทยในเมืองไทย ผลที่ได้ก็คือ เราได้ใช้ทรัพยากรบางอย่างที่ในเมืองไทยไม่มี ผ่านทางคนไทยในเมืองนอก
ผลงานเด่น ๆ จากโครงการนี้ก็อย่าง ชุดวิจัยการประยุกต์ใช้เถ้าลอยลิกไนต์ทดแทนซีเมนต์)

บางคนก็ว่า เค้าชดใช้เงินคืนให้แล้ว ก็น่าจะโอเค

บางคนก็ว่า ไม่โอเคนะ ไอ้ที่ชดใช้เงินคืนน่ะมันก็มี ไอ้ที่ไม่ใช้คืนมันก็เยอะ
ที่สำคัญ เวลาที่เสียไปน่ะ สามปี ห้าปี จะเอาอะไรมาจ่ายคืน
แผนงานต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ กะว่าเด็กทุนคนนี้จบปุ๊บ ก็จะเสียบเข้าแผน เดินได้เลย ก็ล้ม ล่าช้า แบบนี้สูญเสียโอกาสไปเยอะแยะ ไม่คุ้มกันเลย

บางคนก็ว่า สัญญามันไม่เป็นธรรม .. บางคนก็ ... ฯลฯ

จะว่าไป ... ถ้ารู้ว่าทำตามสัญญาไม่ได้ แล้วรับไปทำไมน่ะ ทุน
คนสอบชิงทุนไม่ได้มีแค่คนสองคน มีกันเป็นร้อยเป็นพัน
หรือถ้าหาปีนี้ไม่ได้จริง ๆ รอเก็บไว้ให้ปีหน้าก็ได้ (รอปีเดียว ดีกว่ารอสามปี)

ผมก็ไม่รู้แฮะ

บางทีตอนรับทุนก็อาจจะมีความตั้งใจอย่างนึง
แต่ของงี้มันก็เปลี่ยนกันได้ คนทั้งนั้น สภาพแวดล้อมรอบตัว เงื่อนไขต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไปตามเวลา

นั่นก็เรื่องนึง สำหรับคนที่จบแล้ว

ส่วนคนที่ยังไม่จบ ก็จะมีเรื่องจุกจิกอันโน้นอันนี้อีก อย่าง..

เด็กทุนควรจะไปทำงานพิเศษมั๊ย
บางคนก็ว่า ทำนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ดี จะได้ ๆ ประสบการณ์
บางคนก็ว่า ถ้าไม่เสียการเรียน ก็โอเค
บางคนก็ว่า เฮ้ย ไม่ถูกนะ เค้าให้ไปเรียน ก็ไปเรียน เหมือนกับตอนนี้รัฐ 'จ้างเรียน' อยู่นะ ไปทำงานอื่นซ้อนกันไม่ได้สิ (แหม แต่ข้าราชการบ้านเรา โดยเฉพาะชั้นผู้น้อยที่มีครอบครัว ยังต้องไปขับแท็กซี่กะดึกเลย .. ปากท้องนะ)
หรือเด็กทุนนี่ทำไมไม่ตั้งใจเรียนเลย (ก็ไม่รู้ว่าไปนั่งเฝ้าตลอดเวลารึไง ถึงได้รู้)
หรือ บลา บลา ... เยอะแยะ

แหม เป็นเด็กทุนนี่มันก็ลำบากเนอะ แบบ จะอะไรกะกูนักหนาวะ
เฮ้ย คน ไม่ใช่เครื่องจักรเรียนหนังสือ
หนูก็อยากดูหนัง ฟังเพลง แต่งตัว ไปเที่ยว สังสรรค์ สังคมบ้าง
รับทุน ไม่ได้หมายถึงขายชีวิตซะหน่อย ...
ความตั้งใจน่ะให้ไปเต็มที่แล้ว แต่ขอชีวิตเป็นของตัวเองหน่อย จะได้มั๊ย ?

...

อะไรก็เถอะ ผมฟัง ๆ แล้วก็ยังเฉย ๆ คือแต่ละคนก็ เออ วิจารณ์ได้น่ะ ขอให้มี ground (รากฐาน ?) ในการวิจารณ์ ไม่ได้พูดอะไรลอย ๆ แบบ ฉันอยากจะว่าก็ว่า

มีอยู่อันเดียว ฟังแล้ว เออ งง ๆ

คือมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับว่า เด็กทุนควรจะทำอะไร หรือไม่ทำอะไรหรอก
แต่เป็นเหตุผลที่หลาย ๆ คนชอบใช้ ... มันง่ายดีไง คือ
ทุนทั้งหลายเนี่ย "มันภาษีพ่อแม่กูนะเว้ย"
(เพราะงั้นกูเลยมีสิทธิ์บอกว่า เอ็งควรจะทำอะไรได้และไม่ได้ ?? .. รึเปล่า ? ไม่รู้จะอนุมานยังไงดี)

หึ หันควับไปมอง ถามคนพูดหน่อยสิ
เรียนจบที่ไหนมา ?
มหาลัยรัฐรึเปล่า ? (จะในหรือนอกระบบก็เถอะ) โปรแกรมปกติรึเปล่า ?

ถ้าเกิดว่าใช่ เออ มึงก็เรียนมาด้วย "ภาษีพ่อแม่กู" เหมือนกันน่ะแหละ
ถึงไม่เต็ม ๆ ทั้งหมด แต่ก็เยอะล่ะ
ตอนเรียนนี่ตั้งใจมั๊ยล่ะ จบมามีสำนึกจะตอบแทนอะไรมั่งมั๊ยล่ะ ...
ปึ๊ก

ไม่ได้ว่าว่าว่าไม่ได้
(อืมม ประโยคนี้น่าสนใจแฮะ abbba : a=ไม่ได้ , b=ว่า ; อืมม.. )
แต่ที่จะว่าคนอื่น/หรือคาดหวังให้คนอื่นทำน่ะ ตัวเอง(เคย)ทำรึเปล่า ?

...

เออ นี่ถ้ามีคุณป้าแถวนี้ เดิน ๆ มาชี้หน้าด่า เอ็ง อย่าขี้เกียจให้มาก
ผมก็คงต้องฟังมั่งล่ะเนอะ
ก็เงินเดือนผมมันก็มาจากภาษีเค้านี่
(หรือจะแกล้งตกงานแล้วรอรับเงินประกันสังคมดีวะเนี่ย :P)

โคตรจะขี้เกียจเล้ย ...

1 comment:

Beamer User said...

พูดในฐานะเด็กทุนนะครับ

ทาง กพ. เค้าอนุญาตให้ทำงานได้ไม่เกินกึ่ง(ครึ่ง)หนึ่งของ
เงินทุนที่ได้รับมา อันนี้มีระเบียบชัดเจน แต่ในกรณีของ
บางประเทศที่บังคับให้ทำงานด้วย อันนี้สามารถชี้แจงให้ผู้
ดูแลนักเรียนทุนในแต่ละแห่งทราบได้ และจะพิจารณาเป็น
กรณีไป ซึ่งเกือบทั้งหมดก็ได้รับอนุญาต คนที่หลบๆ
ซ่อนๆ ก็เพราะว่ามีปัญหาแต่ไม่ยอมถามผู้ดูแลครับ

การรับทุนที่เป็นของรัฐบาลไทยเนี่ย มันมีหลากหลายมาก
ทุนให้เปล่าก็มีเยอะ ถ้าไม่ต้องการข้อผูกมัดหลังจากเรียน
จบแล้วก็ให้เลือกอันนั้นไป หรือถ้าเก่งจริงๆ ก็รับทุนแค่โท
แล้วไปใช้ทุนสอง-สามปี ก็ได้เป็นอิสระแล้ว การรับทุนมา
แล้วไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่รับทราบไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว
จะอย่างไรก็เรียกว่า โจร ครับ ข้ออ้างอื่นๆ นั้นใช้ไม่ได้
เลย ถ้าคิดว่าระเบียบไม่เหมาะสม ก็ค่อยมาแก้เอาทีหลัง
อันนั้นถึงจะถูก

กรณีอยู่เืมืองนอกแล้วทำประโยชน์ให้ชาติ ก็ดูพี่ฮุ้ยเป็น
ตัวอย่าง พี่เค้าไม่ได้เอาทุนของประเทศไทยนะครับ เอา
ทุนที่อื่น เรียนจบพี่เค้าจะทำอย่างไรก็ได้ อันนั้นถึงจะถูก

เท่าที่รู้จำนวนคนที่โกงทุนนั้น นับเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วน้อย
มาก ไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ดูเหมือนเยอะเพราะพูดกันไป
มากนั่นเอง

ปัญหาเรื่องกลับมารับราชการ แล้วเงินเดือนไม่พอใช้ ถึง
จะพอเพียงแล้วก็ตาม อันนี้จริง จบ ดร. มาแล้วเงินเดือน
หมื่นเจ็ดร้อย 10,700 บาท อีกสองปีถึงจะขอ ผศ. ได้ ก็
จะมีเงินเดือนประมาณ 17,000 บาท เงินเท่านี้คนที่เริ่ม
สร้างครอบครัวอยู่ไม่ได้หรอกครับ การออกนอกระบบ
เป็นหนทางหนึ่ง แต่การสร้างสวัสดิการให้ข้าราชการนั้น
น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า

แต่เรื่องนี้จะเอามาเป็นข้ออ้างในการโกงไม่ได้ ทุกคนมี
เหตุผล แต่ต้องไม่ผิดศีลสี่ข้อแรกนะครับ