ย้ายบล็อกไปที่ bact.cc แล้วนะครับ

พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
หยุด ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ ฟรี 2GB จาก Dropbox (sync กับ Windows, Linux, Mac, iPhone, Android ฯลฯ ได้)

2005-12-16

ระบบราชการสอนให้คนโกหก ฟุ่มเฟือย และตุกติกคดโกง!

ในที่สุด ผมก็ผ่านการทดลองงานขั้นแรก ในการที่จะเป็นข้าราชการที่สามารถเอาตัวรอดอยู่ได้ ในระบบราชการเฮงซวยนี่ด้วยการ หัดโกหก ฟุ่มเฟือย แล้วก็ตุกติก — พี่มหา

ระบบราชการสอนให้คนโกหก ฟุ่มเฟือย และตุกติกคดโกง! — KT Thoughts, 6 ธันวาคม 2548

Update: พี่เค้าตอบกลับมาแล้ว

5 comments:

Beamer User said...

ผู้เขียนเข้าใจระบบผิดไปอย่างมากนะครับ จริงอยู่
ระบบอาจจะบกพร่องอยู่มาก แต่ต้องค่อยๆ แก้ไป
แก้ที่ระบบ ไม่ใช่แก้ที่ตัวบุคคล

ข้อ 1 ในเมื่อเราขอใช้รถไปแค่ 5 โมงเย็นแต่กลับ
ส่งคืนรถไปถึง สี่ทุ่ม การรายงานผิดจากที่ขอไปก็
ต้องมีเหตุและมีผลที่สมควร ต้องให้เจ้านายรับรอง
อีกทีหนึ่งว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ยิ่งกรณีต้องมีคนขับรถ
ไปด้วย การใช้งานเกินเวลาต้องถือเป็นการทำงาน
ล่วงเวลาด้วยนะครับ

ข้อ 2 เนี่ยเรียกว่าเป็นความผิดของตัวผู้เขียนเองเลย
นะครับ เพราะไม่ได้ศึกษาระเบียบไว้ ไม่ใช่ฟุ่มเฟือย
แต่สมเหตุสมผล ข้าราชการระดับไหนก็มีระเบียบ
ระบุไว้ชัดเจนว่าเบิกจ่ายได้เท่าไหร่ เพดานเป็นเท่า
ไหร่ ไม่โดนด่าก็บุญแล้วครับ (คิดได้ไงไปกับบริษัททัวร์
นี่ถ้าบริษัททัวร์เป็นญาติกันทำไง)

ข้อ 3 เนี่ยก็ทำไม่ถูก (ไม่ได้ศึกษาก่อน) โดยปกติ
เวลาเบิกจ่ายจะแยกประเภทเป็นมีใบเสร็จและไม่มี
ใบเสร็จ กรณีที่ไม่มีใบเสร็จเช่นค่าแท็กซี่ไป
สนามบิน ก็ให้ใช้การประมาณการเอา หรืออื่นๆ
กรณีนี้ถ้าเราแปลงค่าที่จอดรถไปเป็นค่าใช้จ่ายใน
การเดินทาง ถามว่ามันผิดตรงไหน มันไม่ผิด เพราะ
เป็นค่าใช้จ่ายจริง แต่ว่ากันตามจริงเงินเดือนผมก็
น้อยนะ (ตอนนี้หมื่นหกร้อย)
แต่เวลาเดินทางไปไหนให้ราชการบางที
ผมก็คิดว่าผมได้ประโยชน์ ได้ประสบการณ์ได้
พักผ่อนเงินที่หาใบเสร็จหรือเบิกไม่ได้ผมก็ไม่เบิกนะครับ
ไม่ใช่ว่ารวย

จริงอยู่ครับระบบมันทำให้เราต้องยืดหยุ่นนิดหน่อย
เพราะไม่ได้มีการปรับปรุงระบบให้ทันสมัยมานาน
มากแล้ว (การออกนอกระบบและแปรรูปเป็นแนว
ทางหนึ่งที่จะนำไปสู่การพัฒนา) แต่ถ้าเราตั้งมั่นว่า
ไม่ได้โกง และศึกษาระเบียบแบบแผนให้ดีก่อน
ออกเดินทาง แล้วปฏิบัติตามนั้น อะไรที่เป็นเศษ
เล็กเศษน้อยก็ยอมจ่ายไปถือว่าเราได้ประโยชน์แล้ว
อยู่ในระบบราชการมาระยะหนึ่งแล้ว ระบบมันยุ่ง
ยากจริง แต่ไม่เคยสอนให้คนโกงหรือโกหกนะครับ

bact' said...

เอ๋ เหมือนข้อ 2 นี่ ค่าตั๋วเครื่องบินเปล่า ๆ มันแพงกว่า แพคเกจทัวร์ (ตั๋ว+ที่พัก) นี่ครับ น่าจะต่ำกว่า'เพดาน'นี่นา

Beamer User said...

ไปทัวร์แปลว่าไปเที่ยวครับ ไม่ได้ไปราชการ
แค่นี้ก็ผิดแล้วครับ ซึ่งกรณีนี้ผมเห็นว่าการไปทัวร์ถึงจะ
ประหยัดได้ แต่ในทางปฏิบัติมีช่องโหว่อยู่เต็มไปหมด
ครับ อย่างตอนผมไปต่างประเทศ ซื้อตั๋วเครื่องบินกับบริษัท
ทัวร์ บริษัทออกเป็นบิลเงินสดให้อย่างเนี้ย ต้องร้องขอ
หลายทีถึงจะได้ใบเสร็จตัวจริงมา

(เมื่อก่อน) การบินไทยเป็นของรัฐบาล การใช้จ่าย
เิงินให้การบินไทย โดยรัฐบาล ก็ไม่เกี่ยวกับการฟุ่มเฟือย
เลยครับ แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้คิดกันอย่างไร

ก็ต้องเปลี่ยนกฏกัน
ก่อนแล้วค่อยปฏิบัติครับ การเลี่ยงกฏถึงจะดีกว่าอย่างไร
ก็ผิดอยู่แล้วครับ

เวลาเราไปที่ไหน เราก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบแบบแผน
ของที่นั่นครับ ถ้าเราเห็นว่าระเบียบไม่ดี ก็ต้องหาทาง
เปลี่ยนแปลงเอาก่อน ไม่ใช่แหกกฏครับ

jark said...

ขอชี้แจงคุณ "พ่อของหมาอ้วน" พร้อมรับข้อชี้แนะไปปรับปรุงดังต่อไปนี้ครับ

1. นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการจะทำครับ คือให้ลงเวลากลับ ว่ากลับมาหลังจากเวลาที่กำหนด หรือขอใช้เกิน จะให้ต้องทำรายงานชี้แจงอะไรก็ว่ามา ผมยินดี

แต่สิ่งที่ฝ่ายการเงินต้องการ ไม่ใช่สิ่งนี้ครับ

เขาให้ผมรายงานว่ากลับมา 5 โมงเย็น ซึ่งไม่ใช่เวลาจริง

มันง่ายไหม มันก็ง่าย แต่มันทำลายเจตจำนงของการ "รายงาน" ไงครับ เพราะต่อไปไม่ว่าจะทำอะไร ก็ทำไป เขียนรายงานไม่ตรงกับความจริงก็ได้ ขอให้ตัวเลขมันตรงเท่านั้นเอง

แล้วจะเขียนรายงานนี้ไปทำไม? ถ้ามันจะไม่ต้องจริงก็ได้เนี่ย?

2. น้อมศีรษะยอมรับครึ่งหนึ่ง ยืดอกไม่ยอมรับครึ่งหนึ่งครับ

ส่วนที่ยอมรับ คือผมไม่ได้ศึกษาก่อน และที่ไม่ได้ศึกษาก่อนนี่เพราะนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหาได้

เพราะฉะนั้นต่อไป ผมจะทำการศึกษาก่อนแน่นอนครับ

ส่วนที่ไม่ยอมรับก็คือตัวระเบียบที่ไม่อนุญาตให้ใช้บริการที่ราคาถูกกว่านี่แหละครับ หรือจริงๆแล้วระบบอาจจะอนุญาต แต่ตัวบุคคลไม่ยอมอนุญาต อันนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน

3. ถ้าเติมน้ำมัน 1000 บาท แล้วต้องขอใบเสร็จเผื่อไว้เป็น 1200 บาท เพื่อจ่ายสิ่งที่จำเป็นต้องจ่าย แล้วเบิกไม่ได้นี่

มันไม่ใช่รากเหง้าของการทุจริตหรือครับ
จะแก้ปัญหาทุจริต ผมคิดว่าต้องย้อนกลับมาดูระเบียบราชการก่อนนะครับ ว่าเอื้อให้คน "ไม่ต้องโกหก" สักแค่ไหน

คนเรา ถ้าทำอะไรบ่อยๆ มันก็ชินครับ ถ้าเติมน้ำมันสัก 1000 ขอบิลเขาสัก 1200 นี่กลายเป็นเรื่องธรรมดา การที่เขาขอใบเสร็จเราเพื่อตรวจสอบการใช้เงิน มันก็เป็นสิ่งที่ไม่มีความหมายสิครับ เพราะยังไงๆมันก็ไม่ตรงกับความจริงอยู่ดี

สุดท้าย ขอแสดงจุดยืนว่า
1. ที่ผมโวยวาย ไม่ใช่เพราะผมงกครับ ถ้าจำเป็นต้องจ่าย 200 ก็จ่ายได้ ถ้าไม่จำเป็นต้องจ่าย แม้ 2 บาท ผมก็ไม่อยากจ่ายครับ แต่เพราะผมเห็นว่าตัวระบบนี่แหละ ที่ทำให้เกิดการฉ้อราษฏร์บังหลวง เพราะอะไรที่ไม่ตรงไปตรงมา ทำจนชิน มันก็กลายเป็นสันดานเข้าจนได้

2. ผมตั้งใจปฏิบัติตามกฏครับ แต่ธรรมเนียมปฏิบัติหลายประการทำให้ "กฏ" ไร้ความหมาย (เช่นการต้องรายงานไม่ตรงตามจริง, การต้องทำบิลเผื่อค่าใช้จ่ายที่เบิกไม่ได้ทำให้บิลไม่ตรงกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงกับบิลนั้น, ฯลฯ)

3. ในที่สุด ผมก็จะไม่โกงหรอกครับ แต่จะต้องอยู่รอดในระบบนี้ให้ได้ แม้จะต้องด้วยการโกหก หรือทำอะไรไม่ตรงไปตรงมาก็ตาม

อ้อ แล้วก็ต้องศึกษา "กฏ" และธรรมเนียมปฏิบัติทั้่งหลายเสียด้วย ไม่ลืมแน่ครับ

Beamer User said...

จริงๆ ตอบยาวๆ ไปแล้วครับ แต่ไปอ่านหลายๆ เรื่องที่คุณ
มหาเขียนแล้วกลับมาเขียนอย่างนี้ดีกว่าครับ

อย่าไปก้มหัวหรือทำตามคนที่สอนให้โกงนะครับ สู้กับมัน
ให้ตายไปข้างหนึ่งเลย ที่คุณมหาเขียนมานั้นไม่เกี่ยวกับ
ระบบเลยแม้แต่น้อย เกี่ยวกับคนรับมาปฏิบัติทั้งนั้น ถ้าเรา
เปลี่ยนคนรอบข้างให้ดีได้ ทุกคนก็จะดีตามได้

เรื่อง 20 บาทนั้น ผมตอบอีกทีว่า ผมยอมเสียและไม่คิด
เจ็บใจอะไรเลยครับ และผมไม่ได้แนะนำให้โกงบิลนะครับ
เพราะที่ๆ ผมทำงานอยู่นั้น เค้ามีกรณีสำหรับค่าใช้จ่ายที่
ไม่มีใบเสร็จอยู่แล้ว--ในกรณีของคุณมหาถ้าไม่มีช่องให้กรอก ก็ไปแก้ให้มันมีสิครับ(ต่อสู้ให้มันมี--เหมือนเจอบักแล้วแจ้งบักไง)