National Journals Impact Factor 2004, compiled by Thai Citation Index Centre
ค่าดัชนีผลกระทบการอ้างอิงวารสารวิชาการภายในประเทศ ปี พ.ศ. 2547, โดย ศูนย์พัฒนาฐานข้อมูลวารสารวิชาการภายในประเทศ (ได้รับการสนับสนุนจาก สกว.)
National Journals Impact Factor 2004, compiled by Thai Citation Index Centre
ค่าดัชนีผลกระทบการอ้างอิงวารสารวิชาการภายในประเทศ ปี พ.ศ. 2547, โดย ศูนย์พัฒนาฐานข้อมูลวารสารวิชาการภายในประเทศ (ได้รับการสนับสนุนจาก สกว.)
11 comments:
ไอ้คนคิดทำน่ะจบ วัสดุศาสตร์ มาประวัติไม่ค่อยดีเท่าไหร่
แต่ตอนนี้เป็นคนหนึ่งที่ผมชื่นชอบ(เฉพาะแง่ของงานวิชาการ)
ผมอยากไปช่วยทำมั่งจัง
อยากได้แบบ CiteSeer ด้วย
เอาทั้งแบบคนทำ (ISI-style)
เอาทั้งแบบเครื่องทำ
แบบแรกเน้นความเที่ยงตรง
แบบหลังเ้น้นความครอบคลุม
เปลี่ยนสายไปทำพวก library & information science ดีกว่า
ไม่มีปัญญาคิดอะไรใหม่ ๆ เจ๋ง ๆ เอง
ขอทำงานที่ช่วยให้คนที่เค้ามีปัญญา ทำงานได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ก็ยังดี
ต้องไปหัดเล่น EndNote ก่อน
คนไม่มี Windows ทำไงเนี่ย
(ของ Mac OS X กำลังจะออก แต่ไม่เห็นข่าวของ Linux)
ใช้ LaTeX กันต่อไป ... แหม มันไม่อัตโนมัติอ่ะ
EndNote + Word นี่ง่ายดีเนอะ
เคยเล่น ๆ แป๊บ ๆ เครื่องมหาลัยเก่า (edin)
พูดถึงราคา คง"ไม่แพง" ถ้าซื้อเป็นแอคเคานท์มหาลัย คิดต่อหัวก็คงคุ้ม
เพราะว่าอนุญาตให้ นศ. อาจารย์ ก๊อปเอาไปใช้เครื่องส่วนตัวได้ (แต่ถ้าพ้นสภาพนศ./ลาออกเมื่อไหร่ ก็ต้องเอาออก)
แต่ติดตรง OS อ่ะดิ
"ใช้ LaTeX กันต่อไป ... แหม มันไม่อัตโนมัติอ่ะ"
ตรงไหน
อย่าง .bib นี่ก็ต้องทำเองไม่ใช่เหรอครับ
ถ้าพิมพ์ข้อมูลลง .bib น่ะ โปรแกรมไหนๆ มันก็ต้องทำเอง
ไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่แฮรี่ซะหน่อยที่จะใช้ไม้กายสิทธิ์เสกได้
ถ้าพูดถึง tag ที่่เป็นส่วนประกอบของ .bib มันก็มีโปรแกรม
เสริมเยอะแยะ เ่ช่น jabref ฯลฯ
สำหรับการ cite บน LaTeX ก็น่าจะทำได้หลากหลายและ
ง่ายกว่า โดยใช้ havard.sty จะ cite เฉพาะชื่อ เฉพาะปี
หรือจะใส่หน้าลงไปด้วยก็ทำได้ง่าย
นอกจากนั้นบน LaTeX จะเลือกว่าจะใส่เอกสารอ้างอิงลง
แยกบท หรือใส่ตอนท้ายทีเดียว รูปแบบการ cite จะเป็นตัวเลข ชื่อย่อ หรือ อื่นๆ ก็ทำได้หมด
ข้อดีมากๆ ที่เห็นก็คือ เวลาย้ายสถานที่เราไม่จำเป็นต้อง
พึ่ง endnote เพราะเราถือข้อความไป เอาไปใช้ที่ไหนก็
ได้ นอกจากจะเล็กแล้วยังแก้ไขได้อีก ไม่ต้องสนเรื่อง
เวอร์ชันด้วย เพราะข้อความเป็นตัวหนังสือล้วนๆ
เข้าใจว่า style ของ LaTeX นี่ทำได้หลากหลายจริง
เคยสลับระหว่าง ชื่อคน ปี กับ [ตัวเลข] เหมือนกัน
แล้วก็ไอ้ตรงท้ายหน้า ก็สั่งเรียงได้หลายแบบไม่ยาก เอาแบบชื่อเต็ม ๆ หรือ ตัวอักษรแรก นามสกุล อะไรพวกนี้ทำได้
แต่ก็อย่างที่ว่า เราต้องเตรียม .bib ไว้ก่อน จะอ้างอิงใคร ต้องเตรียมไว้ก่อน หามาใส่
แต่เหมือนใน
http://www.endnote.com/eninfo.asp#bibliographies
เค้าโฆษณาเหมือนว่า เราแค่พิมพ์ Thaksin 2005 งี้ แล้วมันก็ใส่ bib ให้เราตรงท้ายได้เลยอัตโนมัติ? (ค้นหาจากฐานข้อมูลมาให้ ผ่านอินเทอร์เน็ต?)
ไม่เคยใช้ EndNote เขียนจริง ๆ เคยแต่เล่น ๆ
เลยไม่รู้ว่ามันทำได้ถึงขนาดนั้นจริงรึเปล่า ถ้าได้จริงก็สะดวกดีนะ
อย่างบางคนปีนึงเขียนหลายอัน เป็น 2005a 2005b 2005c
บางทีเราก็ต้องไปหาก่อน ว่าไอ้ที่เรามีอยู่ในมือต้องอ้างว่า a b หรือ c
ถ้ามันอัตโนมัติให้ได้ก็เจ๋งนะ
คือไม่รู้ว่า EndNote มันอัตโนมัติขนาดไหนน่ะครับ
แหม ทันสมัย
เปรียบกะแฮรี่ซะด้วย :P
เป็นง่อยกันพอดีงั้น
"อย่างบางคนปีนึงเขียนหลายอัน เป็น 2005a 2005b 2005c
บางทีเราก็ต้องไปหาก่อน ว่าไอ้ที่เรามีอยู่ในมือต้องอ้างว่า a b หรือ c
ถ้ามันอัตโนมัติให้ได้ก็เจ๋งนะ"
ไม่จำเป็นมั้ง เพราะว่าบางทีเราอ้างเฉพาะที่เราเอามา ถ้าเอา
มาแค่อันเดียว เขียน a, b, c ไป เค้าก็ว่าบ้า ถึงเอามาหลาย
อันเราก็เรียงเองอีกเหมือนกัน อย่าง citeref เราเขียนเป็น
AaBb05a เวลาเรา \cite{AaBb05} เราใส่ a เองก็ไม่น่ามี
ปัญหานี่
ส่วนเรื่องดูดให้อัตโนมัติเนี่ย ถ้าต่อเน็ตไม่ได้ หรือฐานข้อมูล
ไม่ฟรีหล่ะทำไง
แต่ jabref ใช้ฐานข้อมูลของ Endnot กับ citeseer ได้นะ ดังนั้นก็ไม่มีปัญหาอีก
Post a Comment