tag:blogger.com,1999:blog-6296791.post115905438278843475..comments2024-03-20T22:07:21.125+07:00Comments on bact' is a name: Anti-Virusbact'http://www.blogger.com/profile/12900274900485646352noreply@blogger.comBlogger6125tag:blogger.com,1999:blog-6296791.post-1159889308201350582006-10-03T22:28:00.000+07:002006-10-03T22:28:00.000+07:00จริงอยู่ครับ ที่คนเขียน ต้องการเอาเรื่องนี้ไป สื่อ...จริงอยู่ครับ ที่คนเขียน ต้องการเอาเรื่องนี้ไป สื่อกับการเอารัฐประหารเข้ามาแก้ปัญหาการเมือง และ ผมเห็นด้วยครับว่า การใช้วิธีการรัฐประหารเป็นเรื่องล้าสมัย และน่าจะเลิกทำไปได้แล้ว เพราะมันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้หรอก <BR/><BR/>แต่ผมว่า เขาไปเทียบว่า ไวรัส คือ ปัญหาการเมือง แล้วปิดเครื่อง คือ การรัฐประหาร อันนี้ไม่ถูกจุด แล้วจริง ๆ มันก็ ไม่เข้ากันด้วย...<BR/><BR/>เพราะ...ในความเป็นจริง จะมีใครที่ไหนล่ะ พอเครื่องติดไวรัส แล้วแก้ง่าย ๆ ด้วยการแค่ "ปิดเครื่อง" แล้วเปิดใหม่ โดยหวังว่ามันจะ "เลิกติด" หรือ "ไวรัสมันหายไป"<BR/><BR/>อย่างร้าย ๆ ก็มีแต่ต้อง format เครื่องกันใหม่หมด... อย่างที่คุณความเห็นที่หนึ่งว่า เพื่อล้างไวรัสออก แล้วก็ต้องมา "ตั้งต้น" กันใหม่ (ลงโปรแกรมใหม่ยุ่งยาก) ที่ออกจะเสียเวลา <BR/><BR/>วิธีการที่ ไม่กระทบของเก่า ไม่ต้องเสียเวลาลงโปรแกรมใหม่ ก็คือ หาแอนตี้ไวรัสมาฆ่ามัันซะ ซึ่งก็ยังมีปัญหาอีกอยู่ดี อย่างที่บางท่านบอก คือ บางที ก็ฆ่าไม่ได้ โปรแกรมหาไม่เจอ หรือไปติดในจุดที่เกินแก้ไข <BR/><BR/>เช่นนี้ ถ้าต้องการบอกว่า "ปัญหาการเมือง" คือ "ไวรัส" ส่วน "การรัฐประหาร" คือ วิธีแก้ไขที่ไม่ถูกต้อง และเสียเวลา ก็ควรจะหมายถึง การ "Format" ครับ ไม่ใช่ "ปิดเครื่อง" <BR/><BR/>แต่แม้กระนั้น จะเปรียบเทียบแบบนี้ ก็ไม่ถูก และไม่สื่ออยู่ดี เพราะอะไร ?<BR/><BR/>เพราะ นั่นย่อมเท่ากับว่า วิธีการฆ่าไวรัส ที่น่าจะถูกต้อง (ในสายตาของผู้เขียนเปรียบเทียบ) ย่อมหมายถึง การหา "แอนตี้ไวรัส" มาขจัดไวรัสออกไป เพื่อจะได้ไม่ต้องเริ่มต้นกันใหม่หมด....ใช่ไหม ?<BR/><BR/>แต่ในเมื่อในความเป็นจริง "ไวรัสคอม ฯ" บางครั้ง มันขจัดไม่ได้ด้วย ตัวแอนตี้ไวรัส (วิธีที่เสียเวลาน้อยกว่าการ format) ...สุดท้าย คุณจะจัดการแก้ปัญหายังไงกับไอ้ไวรัสนี้...นอกจากก็ต้องมา format กันใหม่ และตั้งต้นลงโปรแกรมใหม่ (ย้อนเข้า รัฐประหาร อยู่ดี)<BR/><BR/>ดังนั้น สรุป นะครับ คือ <BR/><BR/>ถ้าคิดต่อกันจริง ๆ ...คำเปรียบเปรย เรื่อง "ปิดเครื่องฆ่าไวรัส" นี้ กับ ปัญหาการเมือง และ รัฐประหาร มัน "สื่อกันไม่ได้" เลยจริง ๆ <BR/><BR/>ผมว่า ถ้าอยากจะเปรียบเทียบล่ะก็ คุณต้องเปรียบให้ "ไวรัส" หมายถึง "การรัฐประหาร" ครับ ไม่ใช่ ไวรัส หมายถึง ปัญหาการเมือง<BR/><BR/>...ส่วนวิธีแก้ ไวรัฐ(ประหาร) ที่คอยเข้ามาทำลาย (สัง) คอม (ไทย) นั่นหรือ ก็คือ การ format สังคมไทยใหม่ให้เลิก หลงไหล ในไวรัส ตัวนี้ ต่างหาก (แป่ว)Anonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-6296791.post-1159277811882897922006-09-26T20:36:00.000+07:002006-09-26T20:36:00.000+07:00เรียกได้ว่าคอมเราโดยrootkitเข้าไปแล้วซินะมีสองวิธี...เรียกได้ว่าคอมเราโดยrootkitเข้าไปแล้วซินะ<BR/>มีสองวิธีแก้<BR/>1. ใช้rootkit revealer<BR/>2. formatburlighthttps://www.blogger.com/profile/16319624372838515804noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-6296791.post-1159198016447882652006-09-25T22:26:00.000+07:002006-09-25T22:26:00.000+07:00but, do we have any Backup ?do we ready to lost al...but, do we have any Backup ?<BR/><BR/>do we ready to lost all our stuffs ?<BR/>(which some of them we got it with blood and tears)<BR/><BR/><BR/>brute-force Format the disk is easy,<BR/>a one stupid click.<BR/>an unrecoverable click.bact'https://www.blogger.com/profile/12900274900485646352noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-6296791.post-1159122505799595722006-09-25T01:28:00.000+07:002006-09-25T01:28:00.000+07:00ที่บ้าน ไม่ค่อยโดนไวรัสกินหรอกส่วนใหญ่ เป็นที่รูปแ...ที่บ้าน ไม่ค่อยโดนไวรัสกินหรอก<BR/>ส่วนใหญ่ เป็นที่รูปแบบการใช้งานมากกว่า ถ้าใช้อะไรที่เสี่ยงอยู่บ่อยๆ โอกาสจะติดมันก็สูง <BR/><BR/>จะแก้วิธีไหน ไม่นานก็กลับมาติดไวรัสอีกหนอยู่ดีAnonymousnoreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-6296791.post-1159109380811795542006-09-24T21:49:00.000+07:002006-09-24T21:49:00.000+07:00แต่ผมว่า ไวรัส เนี่ย ถ้าเราหาทางกำจัด Virus มันก็ค...แต่ผมว่า ไวรัส เนี่ย ถ้าเราหาทางกำจัด Virus มันก็คงดีอยู่หรอก มันก็คงจะดีกว่าเปิด ปิดเครื่องเป็นแน่แท้ <BR/><BR/>แต่ถ้าไวรัสที่มันทำลาย อย่างอื่นแทนล่ะ เช่น Bios แบบนี้ล่ะ ยังไงก็ต้อง ลง Bios ใหม่ เพราะมัน Boot ไม่ได้ตั้งแต่แรก แล้วจะไปกำจัดมันได้ยังไง <BR/><BR/>มันจะดีกว่ามากๆ ถ้าเราป้องกัน ไว้อย่างดี แต่ก็ต้องยอมรับว่า ต่อให้มันกันไว้อย่างดี มันก็ระบาด ได้อยู่ดี แต่ความเสียหายมันก็น้อยกว่า .. <BR/><BR/>การ Format เป็นทางออก แบบหนึ่ง นั่นก็คือถอยหลังเข้าคลองนั่นเหละ เพราะบางทีมันก็ไม่รู้จะแก้ยังไง บางที virus มันก็ไปแก้ไข Registry , Antivirus มันก็อาจจะกู้ไม่ได้หมด <BR/><BR/>แต่การ Format ก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี เพราะต้องมาลงโปรแกรมอื่นๆ ตามมาอีก หลายอย่าง ทำบ่อยๆ ก็ไม่ต้องทำอะไรพอดี[Ter©]https://www.blogger.com/profile/12999778416950090364noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-6296791.post-1159071785776519392006-09-24T11:23:00.000+07:002006-09-24T11:23:00.000+07:00ผมว่าไม่เหมือนนะน่าจะเท่ากับการกำจัด virus โดยการ ...ผมว่าไม่เหมือนนะ<BR/><BR/>น่าจะเท่ากับการกำจัด virus โดยการ format harddisk มากกว่า<BR/><BR/>ขี่ช้างจับตั๊กแตนแท้ๆ<BR/><BR/>format เสร็จแล้วก็อยู่ที่ว่าเอาอะไรมาลงอีก ลง antivirus ไหม และพฤติกรรมการใช้เครื่องเป็นไง<BR/><BR/>ป้องกันไม่ดีก็ต้องติด virus อีกอยู่ดี<BR/><BR/>แล้วจะ format อีกไหม?Anonymousnoreply@blogger.com